ทัพพม่า-คะฉิ่นซัดกันเดือดในเมืองผากั้นพื้นที่เหมืองหยกใหญ่ที่สุดในพม่า

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 สื่อท้องถิ่นคะฉิ่น Kachin News Groups รายงานว่า การปะทะกันอย่างหนักยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเมืองผากั้น รัฐคะฉิ่น ซึ่งเป็นรัฐทางตอนเหนือสุดของพม่า และเป็นที่ตั้งเหมืองหยกขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยฐานทัพทางทหาร ‘ลากั้ด ก่าว’ ใกล้กับหมู่บ้าน ‘ชารอ ค่า’ ถูกกองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army – KIA) กลับมายึดคืนได้ หลังถูกกองทัพพม่ายึดไปในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ชาวเมืองผากั้นเปิดเผยว่า กองกำลัง KIA และพันธมิตรได้โจมตีกองทัพพม่าอย่างหนัก เพื่อยึดคืนฐานทัพทางทหาร ‘ลากั้ด ก่าว’ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา และสามารถยึดได้สำเร็จ ขณะที่กองทัพพม่าได้วางกำลังประจำอยู่รอบๆ โดยเหตุปะทะระหว่างทั้งสองกลุ่มยังคงเกิดขึ้นรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ยังคงได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังใกล้ๆฐานทัพดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยฐานทัพทหารลากั้ด ก่าว ตั้งอยู่บนเนินเขา และกองกำลัง KIA ได้ส่งกำลังพลเข้าประจำตั้งแต่ปี 2567 จนกระทั่งถูกกองทัพทหารยึดได้ในช่วงสั้นๆ

ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 1- 4 สิงหาคม 2568 มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 13 คนจากการโจมตีชุมชนใกล้เขตสู้รบด้วยกระสุนปืนใหญ่ของกองทัพพม่า โดยเมื่อเช้าวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เกิดเหตุปืนใหญ่โจมตีในหมู่บ้านเมี่ยวก์ผิ่ว ส่งผลให้เด็กอายุ 5 ขวบและชายวัย 35 ปีเสียชีวิต และมีชาวบ้านชารอ ค่า อีก 5 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส

การสู้รบในเมืองผากั้นเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์สงบลงราว 1 สัปดาห์ ส่งผลให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ขณะที่กองทัพพม่าได้กลับมาปฏิบัติการทางทหารในเมืองผากั้นอีกครั้งในเดือนเมษายนและมิถุนายนโดยได้เพิ่มความพยายามในการยึดครองเนินเขา ‘Mawmau Bum’ และ ‘Lamawng Kawng’ ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในพื้นที่ แม้จะได้รับการสนับสนุนปืนใหญ่จและการสนับสนุนทางอากาศ แต่กองกำลังภาคพื้นดินของกองทัพพม่ายังไม่สามารถยึดคืนเมืองผากั้นได้ ได้เนื่องจากการต่อต้านอย่างเข้มแข็งของกองกำลัง KIA และกองกำลังพันธมิตร จึงทำให้ทหารพม่าต้องติดอยู่ในบริเวณเนินเขา ‘Mawmau Bum’ และ ‘Lamawng Kawng’ เป็นเวลาประมาณ 2 เดือนแล้ว

นอกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ยังมีรายงานว่าได้เกิดเหตุปะทะกันรุนแรงในเขต ‘หนองปิ่นโข่ง’ ชาวบ้านแจ้งกับสื่อ Mizzima ว่า ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม เนื่องจากกองทัพพม่าได้โจมตีรุนแรงตามหมู่บ้านใกล้เคียง

“พวกเขาโจมตีมายังหมู่บ้านที่ไม่มีความเกี่ยวข้องด้วยอาวุธหนัก พลเรือนจำนวนมากกำลังได้รับความเดือดร้อน” ชาวเมืองผากั้นกล่าวทางด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้สหประชาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศดำเนินการสอบสวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยด่วน โดยเรียกร้องให้ยุติการโจมตีพลเรือน และให้ความสำคัญกับการปกป้องชุมชนที่ถูกคุกคามเป็นอันดับแรก

ทางด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้สหประชาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศดำเนินการสอบสวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยด่วน โดยเรียกร้องให้ยุติการโจมตีพลเรือน และให้ความสำคัญกับการปกป้องชุมชนที่ถูกคุกคามเป็นอันดับแรก