
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 กลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด อำเภอชำนิและอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ประมาณ 20 คน ร่วมกันขึ้นป้ายริมถนนบ้านหนองปล่อง ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีเนื้อหาให้ ยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 (ค.1) กรณีโรงงานน้ำตาลขนาด 20,000 ตันอ้อยต่อวันและโรงไฟฟ้าชีวมวล มีแผนจะมาดำเนินการก่อสร้างในขอบเขตพื้นที่บ้านหนองปล่อง ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์และพื้นที่จะตั้งโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ติดกับลำปะเทีย ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่าไม่เคยรับรู้ข้อมูลและมีส่วนร่วม
นายสมพงษ์ สงกูล กรรมการกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ทางตัวแทนกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดได้ร่วมกันมาขึ้นป้ายรณรงค์เพื่อให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและบริษัทที่ปรึกษายกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 หลังจากชาวบ้านในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรสะท้อนให้ฟังว่าไม่เคยรับรู้ข้อมูลและไม่ได้มีส่วนร่วม ก่อนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ตลอดจนกังวลถึงผลกระทบที่จะตามมาในด้านมลพิษทางอากาศ ทางน้ำ และวิถีการใช้ชีวิตแบบปกติสุขของชุมชนที่เคยมีอาจเปลี่ยนแปลงไป
ด้านนายไชยพร มลิวรรณ ผู้ใหญ่บ้านปราสาทพร หมู่ 10 ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า อยากให้ชาวบ้านตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ และอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาร่วมด้วยช่วยกันคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล เพราะเริ่มได้รับทราบข้อมูลข่าวสารถึงปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ตลอดจนบทเรียนในหลายพื้นที่ที่มีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล
“ในการรณรงค์ติดป้ายครั้งนี้เพื่ออยากให้บริษัทที่ปรึกษาได้ยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 เพราะที่ผ่านมาผมมองว่า ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงและเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนการจะมีเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 แม้แต่หน่วยงานรัฐก็ไม่เคยลงมาให้ข้อมูลกับชาวบ้านในพื้นที่”นายไชยพร กล่าว
ด้านนายสิริศักดิ์ สะดวก ที่ปรึกษากลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าชาวบ้านยังสงสัยถึงที่มาของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลทำไมถึงมากำหนดแผนการดำเนินการจะก่อสร้างบริเวณพื้นที่บ้านหนองปล่อง ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ใกล้ลำปะเทีย และพื้นที่ใกล้เคียงส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรเหมาะสมกับการปลูกข้าวโดยไม่มีวัตถุดิบอ้อยที่จะส่งเข้าโรงงานน้ำตาลได้วันละ 20,000 ตันอ้อยต่อวันนายสิริศักดิ์กล่าวว่า ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรยังตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลว่าชาวบ้านไม่เคยรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงและไม่มีส่วนร่วม ซึ่งทำให้ทีมนักวิชาการได้ออกแบบสอบถามแบบมีส่วนร่วมถึงกระบวนการรับรู้ข้อมูลและการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในรัศมี 5 กิโลเมตร กรณีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ก่อนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ว่าชาวบ้านในพื้นที่เคยรับรู้ข้อมูลมาก่อนหรือไม่และได้เข้าไปมีส่วนร่วมหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ได้เก็บข้อมูลแบบสอบถามเสร็จแล้วและหลังจากนี้จะประมวลสรุป หลังจากนั้นจะเปิดเวทีนำเสนอข้อมูลสู่ชุมชนโดยจะเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องลงมารับฟังด้วย เพื่อให้ได้เห็นข้อเท็จจริงของข้อมูลและนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
นายสิริศักดิ์กล่าวว่า ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรยังตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลว่าชาวบ้านไม่เคยรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงและไม่มีส่วนร่วม ซึ่งทำให้ทีมนักวิชาการได้ออกแบบสอบถามแบบมีส่วนร่วมถึงกระบวนการรับรู้ข้อมูลและการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในรัศมี 5 กิโลเมตร กรณีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ก่อนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ว่าชาวบ้านในพื้นที่เคยรับรู้ข้อมูลมาก่อนหรือไม่และได้เข้าไปมีส่วนร่วมหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ได้เก็บข้อมูลแบบสอบถามเสร็จแล้วและหลังจากนี้จะประมวลสรุป หลังจากนั้นจะเปิดเวทีนำเสนอข้อมูลสู่ชุมชนโดยจะเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องลงมารับฟังด้วย เพื่อให้ได้เห็นข้อเท็จจริงของข้อมูลและนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป