Search

ทัพพม่าโจมตีหนักเมืองตอนเหนือรัฐฉานใกล้ท่อส่งก๊าซ-น้ำมัน ชาวบ้านเสียชีวิตอื้อรวมถึงสามเณร SHRF หวั่นภัยร้ายแรงต่อพลเรือน เผยผู้ลี้ภัยนับหมื่นกำลังขาดแคลนอาหาร

มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation -SHRF)ได้เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 โดยระบุว่า กองทัพพม่าได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดิน ด้วยการใช้ปืนใหญ่โจมตีไปยังเมืองจ๊อกเม เมืองสี่ป้อ เมืองหนองเขียว เมืองกุด และเมืองโก้ดข่าย บริเวรตอนเหนือของรัฐฉาน ซึ่งขณะนี้เป็นพื้นที่ควบคุมของกองกำลังปะหล่อง TNLA (Ta’ang National Liberation Army) และกองกำลังโกก้าง MNDAA (Myanmar National Democratic Alliance Army) ทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก และสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและอาคารต่างๆของชุมชน

SHRF ได้เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2568 มีพลเรือนต้องเสียชีวิตจำนวน 35 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 55 ราย มีอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนักมากกว่า 60 หลังคาเรือน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งอาคารวัด โรงเรียน และโรงพยาบาล ขณะที่ในพื้นที่ที่ถูกโจมตีในเขตเมืองสี่ป้อและเมืองจ็อกเมนั้น ยังเป็นพื้นที่ใกล้กับท่อส่งก๊าซและน้ำมันของจีนอีกด้วย โดยกลุ่ม SHRF ได้แสดงความกังวลว่า อาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อพลเรือนในพื้นที่ หากท่อส่งก๊าซและน้ำมันเหล่านี้ระเบิดเนื่องจากการถูกโจมตี

SHRF ระบุด้วยว่า ในพื้นที่เมืองจ๊อกเม ที่มีการโจมตีกันเกิดขึ้นเป็นฝีมือของทหารพม่าที่ประจำอยู่ที่บริเวณสะพาน ‘ห้วยกึ้ด’ ได้ใช้ปืนใหญ่และโดรนติดอาวุธยิงไปใกล้กับพื้นที่ท่อส่งก๊าซและน้ำมันระหว่างวันที่ 25 – 31 กรกฎาคม 2568 ทำให้กระสุนปืนตกไปในหมู่บ้านป๋างเปา หมู่บ้านป่างตึ๋งและหมู่บ้านหนองปิ๋ง และชาวบ้านในพื้นที่เสียชีวิตจำนวน 5 ราย ในจำนวนนี้มีเณรเสียชีวิต 1 รูป และมีเณรได้รับบาดเจ็บอีก 5 รูป อาคารวัดได้รับความเสียหาย 2 หลัง รวมถึงอาคารที่ถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ลี้ภัยสงครามด้วย

ขณะที่เหตุโจมตีในเมืองสี่ป้อนั้น กองทัพพม่าได้ทิ้งระเบิดขนาด 500 ปอนด์ และขนาด 250 ปอนด์ใกล้กับท่อส่งก๊าซและน้ำมัน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของเมือง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 และเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 โดยระเบิดลูกหนึ่งถูกทิ้งลงที่หมู่บ้าน ‘บ้านใหม่’ ซึ่งอยู่ห่างจากท่อส่งน้ำมันไปเพียง 100 เมตร

ขณะที่สถานการณ์ผู้ลี้ภัยนั้น พบผู้ลี้ภัยสงครามใหม่มากกว่า 10,000 คนจากเมืองหนองเขียวและเมืองจ๊อกเมต้องอาศัยหลบภัยอยู่ตามพื้นที่ใกล้เคียง และกำลังเผชิญกับปัญหาความลำบากในเรื่องอาหาร

กองทัพพม่าได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกใน 63 เมือง โดยเมืองจ๊อกเม ทางเหนือของรัฐฉาน เป็น 1 ใน 63 เมืองที่ถูกประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยกองทัพพม่าประกาศว่าจะเดินหน้าโจมตีเมืองเหล่านี้ต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในการควบคุมของกลุ่มฝ่ายต่อต้านทั้งนี้ มีการแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในเมืองที่ถูกประกาศใช้กฎอัยการศึกให้ระมัดระวัง เนื่องจากอาจถูกโจมตีทางอากาศโดยกองทัพพม่าได้ทุกเมื่อ ขณะที่คนในเมืองจ๊อกเมนั้น นอกจากจะต้องเผชิญกับภัยสงครามแล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยังเผชิญกับภัยน้ำท่วม โดยสำนักข่าวไทใหญ่ SHAN รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมตามถนนเชื่อมหนองปิ๋ง – ปุ่งโว และยังไหลเข้าท่วมในหมู่บ้านหนองปิ๋ง หมู่ที่ 5 น้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมตามถนนยังได้พัดเอารถคันหนึ่งหายไป โดยมีคนอยู่ในรถ 2 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

ทั้งนี้ มีการแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในเมืองที่ถูกประกาศใช้กฎอัยการศึกให้ระมัดระวัง เนื่องจากอาจถูกโจมตีทางอากาศโดยกองทัพพม่าได้ทุกเมื่อ ขณะที่คนในเมืองจ๊อกเมนั้น นอกจากจะต้องเผชิญกับภัยสงครามแล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ยังเผชิญกับภัยน้ำท่วม โดยสำนักข่าวไทใหญ่ SHAN รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมตามถนนเชื่อมหนองปิ๋ง – ปุ่งโว และยังไหลเข้าท่วมในหมู่บ้านหนองปิ๋ง หมู่ที่ 5 น้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมตามถนนยังได้พัดเอารถคันหนึ่งหายไป โดยมีคนอยู่ในรถ 2 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

On Key

Related Posts

นักวิชาการแนะรัฐไทยเร่งหารือประเทศลุ่มน้ำโขงหลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานใน จ.เลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม ภาคประชาชนจี้รัฐแจ้งความจริงให้ชาวบ้านทราบ-หาแนวทางปฎิบัติ-หวั่นหลายเมืองใช้น้ำโขงผลิตน้ำประปาได้รับผลกระทบ