
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ(คพ.)ได้เผยแพร่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำและตะกอนดินในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำรวกและแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ครั้งที่ 8 (เก็บตัวอย่างระหว่างวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2568 โดยพบว่า คุณภาพน้ำผิวดินจของแม่น้ำกกมีสารตะกั่วเกินค่ามาตรฐาน 2 จุดคือที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า และสะพานมิตรภาพแม่นาวาง-ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ส่วนสารหนูพบว่าสูงเกินมาตรฐานแทบทุกจุด
ส่วนแม่น้ำสายผลการตรวจวัดพบว่า มีสารหนูสูงเกินค่ามาตรฐานทุกจุดตรวจวัดโดยมีค่าอยู่ระหว่าง 0.052-0.055 มก./ล.(ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 0.01 มก./ล.) นอกจากยังพบสารตะกั่วสูงเกินค่ามาตรฐานคืออยู่ที่ 0.094-0.124 (ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 0.05 มก./ล.) และสารแมงกานีสสูงเกินค่ามาตรฐานทุกจุดตรวจวัดโดยมีค่าอยู่ที่ 1.20-1.60 มก./ล.(ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 1.0 มก./ล.)
สำหรับแม่น้ำรวกผลการตรวจวัดน้ำผิวดินพบว่า มีสารหนูเกินค่ามาตรฐานคือยู่ที่ 0.04 มก./ล. เช่นเดียวกับตะกั่วอยู่ที่ 0.056 มล./ล.(มาตฐานอยู่ที่ 0.05 มก./ล.) ขณะที่ผลการตรวจวัดแม่น้ำโขงพบว่ามีสารหนูสูงเกินค่ามาตฐาน
เว็บไซต์ของ คพ.ยังได้รายงานบทวิเคราะห์ว่า 1. ผลคุณภาพน้ำบริเวณที่ติดกับพรมแดนของเมียนมา ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ยังพบว่ามีค่าความขุ่นสูง ทุกจุดตรวจวัด และพบค่าโลหะหนักสารหนูสูงเกินมาตรฐานฯ ซึ่งเป็นพารามิเตอร์ที่สะท้อนถึงการทำกิจกรรม การทำเหมืองอย่างชัดเจน
2. ค่าสารหนูที่พบในแม่น้ำโขง คาดว่าจะได้รับผลกระทบมาจากแม่น้ำสายที่มาบรรจบกับแม่น้ำรวก และไหลลงสู่แม่น้ำโขง เนื่องจากผลการตรวจวัดสารหนูในแม่น้ำสายต่อเนื่องมาแม่น้ำรวก และจุดที่ไหลลงแม่น้ำโขง พบค่าสารหนูเกินมาตรฐานทุกจุด
3. การขุดลอกตะกอนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก เพื่อป้องกันและเตรียมความพร้อมในการ บรรเทาสาธารณภัยจากอุทกภัย ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568 (การเก็บตัวอย่างครั้งที่ 4 และ 5) ตั้งแต่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำกก ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย ถึงสะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย และแม่น้ำสาย บริเวณบ้านหัวฝาย ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย และบริเวณแม่น้ำรวก ส่งผลทำให้เกิดการรบกวนลำน้ำ ทำให้พบค่าความขุ่นและค่าสารหนูสูงขึ้นกว่าในเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2568 (การเก็บตัวอย่างครั้งที่ 1 ถึงครั้งที่ 3)
4.จากผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดินที่ผ่านมา การปนเปื้อนโลหะหนักในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง จะปะปนมากับสารแขวนลอยที่มากับน้ำ สังเกตได้จากหากน้ำมีความขุ่นสูง จะมีผลทำให้พบโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานฯ ดังนั้น หากมีการพักน้ำหรือทำให้มีการตกตะกอนของสารแขวนลอย จะเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้โลหะหนักในน้ำมีค่าลดลง
ในรายงานของ คพ.ยังได้แจ้งผลการตรวจวัดตะกอนดินครั้งที่ 5(กรกฏาคม) โดยระบุว่าพบสารหนูในแม่น้ำกกเกินมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำผิวดินโดยเกินระดับมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ในทุกจุดตรวจวัด ส่วนตะกั่วพบเกินมาตรฐานเช่นเดียวกันโดยเกินมาตรฐานเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินบริเวณฝายเชียงรายเพียงจุดเดียว
สำหรับผลการตรวจวัดตะกอนดินของแม่น้ำสายพบค่าสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินทั้ง 3 จุดตรวจวัด เช่นเดียวกับแม่น้ำรวกที่พบสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินทั้ง 2 จุด และยังพบนิกเกิล โครเมียม ตะกั่ว และทองแดง เกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินในบางจุดตรวจวัด ส่วนแม่น้ำโขงก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันคือพบสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดินทั้ง 3 จุดตรวจวัด
“สารหนูมีค่าเกินมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดินเกือบทุกจุดตรวจวัด และค่าสารหนูเกินระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อสัตว์หน้าดิน ในแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขงทุกจุดตรวจวัด ถ้าชาวบ้าน บริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย”บทวิเคราะห์ในรายงานของ คพ.ระบุ
ด้านสมพร เพ็งค่ำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบทางสุขภาพโดยชุมชน ( Community Health Impact Assessment Platform หรือCHIA Platform) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจวัดของ คพ.ครั้งที่ 8 ว่า ชี้ชัดเจนว่า จุดที่เปราะบาง น่ากังวลเป็นพิเศษคือที่แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก ที่พบว่ามีทั้ง สารหนู ตะกั่ว และแมงกานีส เกินค่ามาตรฐานในแหล่งน้ำผิวดิน ในพื้นที่นี้ควรถูกยกระดับให้เป็นภัยพิบัติฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างรุนแรงและกว้างขวาง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติมีโอกาสที่มลพิษจะเคลื่อนที่แพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ในวงกว้าง ดังนั้นควรต้องมีแผนการตอบโต้ฉุกเฉิน สำหรับการเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพ
สมพรกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ต้องให้ความสำคัญในเรื่อง การสะสมของสารพิษในร่างกายแม้ว่าปริมาณน้อยแต่ได้รับอย่างต่อเนื่อง การที่สารพิษหลายตัวอาจจะออกฤทธิ์เสริมกัน เช่น แมงกานีสและตะกั่ว ต่างก็มีพิษในการทำลายระบบประสาท และควรมีการเฝ้าระวังโรคจากสิ่งแวดล้อม ไม่ควรมุ่งไปเพียงแค่สารหนูแต่เพียงตัวเดียว หรือพิจารณาแยกรายตัว แต่ต้องดูภาพรวมของสารพิษที่ปนเปื้อนมาในแม่น้ำ โดยต้องมีมาตรการเร่งด่วนในการตัดเส้นทางการรับสัมผัสมลพิษของกลุ่มเสี่ยง และต้องกำหนดมาตรการปกป้องกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็ก รวมถึงผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวต่างๆ
“ต้องปรับปรุงระบบให้กลุ่มเสี่ยงที่เปราะบางสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างเหมาะสม และทันเวลา เพราะหากจะรอให้พบคนที่มีอาการแสดง หรือได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยจากการได้รับสารพิษ มันก็สายเกินแก้ไปแล้ว ควรเร่งรัดการสร้างความรอบรู้ด้านมลพิษสิ่งแวดล้อมให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับรัฐในการเฝ้าระวังตนเอง”สมพร กล่าววันเดียวกันศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อการรับรู้ และติดตามสถานการณ์น้ำเชียงราย(AIM) เผยแพร่ข่าวว่า ได้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบคุณภาพน้ำแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุม โดยในที่ประชุมได้พิจารณารายงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานประมง สำนักงานเกษตร และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พบว่าผลการตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำประปา พืชผัก และปลา รวม 152 ตัวอย่าง ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568 ไม่เกินค่ามาตรฐานทั้งหมด พร้อมทั้งมีการตรวจติดตามน้ำประปาหมู่บ้านและแหล่งน้ำชุมชนอย่างสม่ำเสมอ
วันเดียวกันศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อการรับรู้ และติดตามสถานการณ์น้ำเชียงราย(AIM) เผยแพร่ข่าวว่า ได้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบคุณภาพน้ำแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุม โดยในที่ประชุมได้พิจารณารายงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานประมง สำนักงานเกษตร และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พบว่าผลการตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำประปา พืชผัก และปลา รวม 152 ตัวอย่าง ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568 ไม่เกินค่ามาตรฐานทั้งหมด พร้อมทั้งมีการตรวจติดตามน้ำประปาหมู่บ้านและแหล่งน้ำชุมชนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสุขภาพกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ 7 อำเภอ รวม 322 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลวิเคราะห์ โดยในเดือนสิงหาคมนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจคุณภาพน้ำและให้คำแนะนำแก่ชุมชนริมแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง เพื่อเฝ้าระวังและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสุขภาพกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ 7 อำเภอ รวม 322 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลวิเคราะห์ โดยในเดือนสิงหาคมนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจคุณภาพน้ำและให้คำแนะนำแก่ชุมชนริมแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง เพื่อเฝ้าระวังและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน