Search

บ้านเมืองที่กำลัง “ล้าหลัง”เพื่อน

โดย ภาสกร จำลองราช

พล.อ.มินอ่องหลาย ได้รับเกียรติอย่างสูงจากทางการจีนระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้(SCO) ที่ประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน สะท้อนให้เห็นความชัดเจนถึงการ “เลือก”แล้วของจีนที่มุ่งเดินหน้าจับมือกับ พล.อ.มิน อ่อง หลาย อย่างเต็มกำลังโดยไม่สนใจความรู้สึกใดๆ ของอาเซียนหรือประเทศใดในภูมิภาคนี้เลย แต่ผลประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน

นอกจากได้รับการการันตีจากผู้นำจีนแล้ว พล.อ. มิน อ่อง หลาย ยังได้เจรจาทวิภาคีกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดียด้วย

ทั้งผู้นำจีนและอินเดียต่างสนับสนุนการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในพม่าช่วงเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งเท่ากับช่วยฟอกขาวให้กับ พล.อ.มิน อ่อง หลาย และรัฐบาลทหารพม่า ได้ในระดับหนึ่ง

ที่น่าสนใจมากคือเรื่องความร่วมมือต่างๆโดยเฉพาะแร่แรร์เอิร์ท (REEs) ซึ่งมีอยู่มากมายในพม่า ซึ่ง พล.อ.มิน อ่อง หลาย ทราบดีถึงความต้องการของเหล่าประเทศยักษ์ใหญ่เหล่านี้ ดังนั้นประเด็นเรื่องแรร์เอิร์ท ทั้งในรัฐคะฉิ่นและรัฐฉานจึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังพอสมควร

ปัจจุบันพื้นที่ทำเหมืองแรร์เอิร์ทในคะฉิ่นตกอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army- KIA) เกือบทั้งหมด แม้ว่าแร่ที่ขุดได้จะถูกส่งขายให้จีน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับ KIA ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย และจีนก็ยังให้การสนับสนุนอาวุธกับรัฐบาลทหารพม่าสู้รบกับกองกำลังชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่ง KIA พยายามหาทางออกด้วยการส่งขายแร่แรร์เอิร์ทให้อินเดียเพื่อเป็นทางเลือก

ขณะที่เหมืองแรร์เอิร์ทในรัฐฉาน ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังแห่งสหรัฐว้า (United Wa State Army -UWSA) และกองกำลังเมืองลา หรือ กองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Alliance Army-Eastern Shan State – NDAA) ซึ่งมีความแนบแน่นอยู่กับจีน เนื่องจากทั้งเขตปกครองพิเศษว้าและเขตปกครองพิเศษเมืองลา ต่างมีพรมแดนติดกับจีนและมีความใกล้ชิดด้านเชื้อชาติ ดังนั้นจึงเป็นคำตอบในคำตอบของรัฐบาลจีนที่ให้กับทางการไทยว่า “ไม่เห็นนักธุรกิจสัญชาติจีนเข้ามาทำเหมืองในรัฐฉานใต้” เพราะนักธุรกิจจีนเหล่านี้ต่างถือบัตรประชาชนพม่าที่ได้จากเขตปกครองพิเศษทั้ง 2 แห่งซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยสำหรับการทำบัตรประชาชนในประเทศที่รัฐล้มเหลว

เมื่อทั้งรัฐบาลจีน รัสเซีย ต่างสนับสนุนด้านอาวุธและงบประมาณเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ในพม่า ทำให้ขณะนี้ทหารพม่าสามารถเปิดเกมรุกในสนามรบกับกองกำลังติดอาวุธชาติพันธ์กลุ่มต่างๆได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้ง กองกำลังพิทักษ์ประชาชน ( People’s Defence Force-PDF)

ในพื้นที่รัฐฉานเหนือ จีนกดดันกองกำลังโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army-MNDAA) กองกำลังตะอางหรือปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA) ผ่านกองกำลังว้าให้ทั้ง 2 กองกำลังคืนพื้นที่สำคัญๆที่ยึดได้จากรัฐบาลทหารพม่า ขณะเดียวกันจีนได้สนับสนุนอาวุธโดยเฉพาะโดรนประสิทธิภาพสูงให้กับกองทัพพม่า ทำให้กองทัพว้าต้องประกาศยุติการสนับสนุนความช่วยเหลือเด็ดขาดยิ่งทางการจีนใช้มาตรการยึดทรัพย์สินผู้นำว้าในจีนด้วยแล้ว ทำให้ผู้นำว่าถึงกับโอดครวญว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในรอบหลายสิบปี

หันมาดูชายแดนตะวันตกของไทย จีนได้เข้ามาสร้างสัมพันธภาพอย่างใกล้ชิดกับกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (Karen Border Guard Force-BGF) นำโดย พ.อ.ชิต ตู มานานแล้ว เห็นได้จากการขนคนจีนระลอกแล้วระลอกเล่านับหมื่นคน จากแหล่งอาชญากรรมริมฝั่งแม่น้ำเมยข้ามกลับประเทศจีนอย่างสะดวกโดยใช้สนามบินแม่สอด คนจีนเหล่านี้ทั้งมาเฟียและเหยื่อที่ทางการจีนประสานงานอยู่กับ BGF อย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา

ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมว่านักลงทุนกลุ่มใหญ่ในพื้นที่ชเวก๊กโก่และเคเค ปาร์คก็คือชาวจีนทั้งสิ้น

การที่ชเวก๊กโก่และเคเค ปาร์ค หลุดรอดจากการทิ้งระเบิดของกองทัพพม่ามาได้ แม้แต่ในช่วงที่มีการสู้รบดุเดือดระหว่างกองทัพพม่ากับ KNU(Karen National Union -สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ) ในช่วงศึกชิงเมียวดีนั้นไม่ใช่เพราะความพลิ้วไหวและเล่นบทหลายหน้าของ พ.อ.ชิต ตู เท่านั้น แต่เป็นอิทธิพลของทางการจีนที่แตะมืออยู่กับกองทัพพม่าและBGFมาโดยตลอด ขณะที่ KNU ก็ไม่กล้าทำอะไรพื้นที่ BGFเช่นกันเพราะบางส่วนรับทุนสนับสนุนจาก BGF เช่นกัน

ตรงนี้จึงเป็นคำตอบว่าทำไมทุกวันนี้เหล่าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ถึงยังดำเนินกิจกรรมต้มตุ๋นหลอกลวงอยู่ได้ และสามารถกักขังเหยื่อชาวต่างชาติอีกนับหมื่นไว้ได้ เพราะทุกฝ่าย(รวมถึงข้าราชการและนักการเมืองไทย)ต่างได้แบ่งปันผลประโยชน์จากธุรกิจสีดำนี้

วันนี้ทหารพม่าสามารถทะลุทะลวงยึดเมืองเมียวดีได้เบ็ดเสร็จ ขณะที่ BGF ที่ควบคุมเมียวดีบางส่วนได้เปลี่ยนเครื่องแบบเป็นชุดทหารพม่าไปแล้ว ขั้นต่อไปคือการเปลี่ยนชื่อจาก BGF เป็น KNA(Karen National Army-กองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง) เพื่อให้คล่องตัวในการควบคุมธุรกิจทั้งถูกและผิดกฏหมายเพื่อไม่ให้ยึดโยงไปถึงรัฐบาลพม่า

สถานการณ์ชายแดนตะวันตกของไทยจึงน่าจับตามองอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา KNU และกองกำลังพันธมิตร พยายามที่จะควบคุมพื้นที่แนวชายแดนที่ติดกับไทยไว้ให้ได้ทั้งหมด แต่มาถึงวันนี้กองทัพพม่าได้ “ยาดี” จากจีนและรัสเซียมาใช้

รัสเซียเองมีแผนที่จะใช้พื้นที่แถวเมืองทวาย สร้างอิทธิพลทางทหารโดยอ้างผ่านการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งรัฐบาลทหารพม่าก็เห็นดีเห็นงามด้วยเพราะเป็นอีกพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการจัดสมดุลย์ของกองทัพพม่า

วันนี้ทหารพม่าเปิดเกมรุกในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงมาถึงชายแดนไทย การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน ขณะที่รัฐไทยได้ผ่านช่วงโอกาสดีที่สุดที่จะตั้งแนวรับและเปิดเกมรุกไปแล้วเพราะความอ่อนแอและอ่อนด้อยทางนโยบาย

ดังนั้นต่อไปคือการรับมือกับผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นและแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป

ตั้งแต่ชายแดนภาคเหนือที่ประชาชนนับล้านกำลังเดือดร้อนจากการรุกรานของทหารว้า ทั้งเรื่องการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทที่ปล่อยสารพิษลงแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เรื่องยาเสพติด เรื่องการรุกล้ำชายแดน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงของไทยปล่อยให้กองกำลังเถื่อนมีอิทธิพลทำร้ายประชาชนไทยในทุกๆวันโดยที่รัฐไทยไม่แสดงแสนยานุภาพใดๆที่จะจัดการปัญหาด้วยตัวเองได้เลย ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเมื่อเจาะลึกกันจริงๆก็หนีไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์และปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น

ขณะที่ชายแดนตะวันตกตั้งแต่ตอนล่าง หากโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของรัสเซียเริ่มปักธง ณ ชายฝั่งทวาย (ไม่ไกลจากชายแดน จ.กาญจนบุรี) จะเกิดอะไรขึ้นกับความมั่นคงของประเทศไทย เช่นเดียวกับการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ของจีนในรูปแบบต่างๆ ถึงชายแดนตะวันตกของไทย ตั้งแต่พื้นที่ตรงข้าม จ.ตากไปจนถึงระนอง ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ต่างมีช่องว่างด้านกฏหมายที่เหล่านักฉกฉวยพร้อมที่จะทำผิดเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ และรัฐบาลทหารพม่าก็พร้อมที่จะหลับตาข้างหนึ่งการตบตีแย่งชิงอำนาจทางการเมืองของเหล่านักการเมืองในประเทศไทย ทำให้ชาติบ้านเมืองต้องสูญเสียโอกาสดีๆไปมากมาย หากวันนี้ยังเริ่มต้นนับหนึ่งในนโยบายชายแดนที่ถูกทิศถูกทางกันไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเราจะยังเหลือเกียรติภูมิของประเทศใช้ไว้ต่อรองกับประเทศรอบบ้านและมหาอำนาจต่างๆอีกหรือไม่

การตบตีแย่งชิงอำนาจทางการเมืองของเหล่านักการเมืองในประเทศไทย ทำให้ชาติบ้านเมืองต้องสูญเสียโอกาสดีๆไปมากมาย หากวันนี้ยังเริ่มต้นนับหนึ่งในนโยบายชายแดนที่ถูกทิศถูกทางกันไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเราจะยังเหลือเกียรติภูมิของประเทศใช้ไว้ต่อรองกับประเทศรอบบ้านและมหาอำนาจต่างๆอีกหรือไม่

On Key

Related Posts

ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะมนตรี MRC 25-27 พย.ที่เชียงราย เผยเตรียมหารือประเด็นสารพิษจากเหมืองแร่ในพม่าปนเปื้อนแม่น้ำหารือ-นักสิงแวดล้อมแนะควรหยิบยกเรื่องชะลอสร้างเขื่อนปากแบงกั้นโขง-เหตุซ้ำเติมสถานการณ์มลพิษในลุ่มน้ำโขง