Search

เผยเหตุคืนสัญชาติให้คนไทยพลัดถิ่นล้าช้า-จำหน่ายชื่อแบบเหมารวม-ทุจริตคอรัปชั่น

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม ร่วมกับ ศูนย์ส่งเสริมความเสมอภาคและความเป็นธรรม (EPPC) ,วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม สถาบันปฎิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยรังสิต จัดเสวนาวิชาการออนไลน์ Leadership Forum: Leading to Social Equity (ครั้งที่ 7) หัวข้อ “คนไทยพลัดถิ่น: ถอดบทเรียนความยุติธรรม สิทธิ และทิศทางการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล” โดยวิทยากรที่เข้าร่วมได้แก่นางปรีดา คงแป้น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.), นายภควินท์ แสงคง หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการชุมชน มูลนิธิชุมชนไทย และนายปวินท์ หน่อแก้ว นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการพิเศษ กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และมี ผศ.ดร.บูชิตา สังข์แก้ว รองคณบดีฝ่ายพัฒนาสังคมและความยั่งยืน วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม ดำเนินเสวนา

นางปรีดา คงแป้น กสม. กล่าวว่า คนพลัดถิ่นเป็นโมเดลกลุ่มเปราะบางในสังคมที่ กสม. ได้ร่วมมือกับหลายฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาสิทธิสถานะ “คนไทยพลัดถิ่นคือคนเชื้อสายไทยที่ตกอยู่ในดินแดนที่เคยเป็นของไทยเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว เมื่อกลับเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็ไม่มีสัญชาติไทย ตอนที่เราเริ่มทำเรื่องนี้ ศ.บรรเจิด สิงคะเนติ อดีตกรรมการปฏิรูปกฎหมายเคยกล่าวว่าคนกลุ่มนี้สัญชาติพร่ามัวเนื่องจากการเสียดินแดน พวกเราใช้เวลาศึกษาเรียนรู้นานถึง 10 ปี รวมคนกลุ่มนี้ให้เป็นเครือข่ายพร้อมๆกับทำความเข้าใจให้คนในสังคม และผลักดันให้มีกฎหมายการคืนสัญชาติ“ นางปรีดา กล่าว

นางปรีดา กล่าวว่า เมื่อมี พรบ.คืนสัญชาติออกมาแล้ว กระบวนการคืนสัญชาติให้คนไทยพลัดถิ่นทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จภายใน 2-3 ปี ไม่น่าเชื่อว่าจะนานขนาดนี้

“4,700 คนที่เหลืออยู่เป็นคนไทยพลัดถิ่นที่มีความสลับซับซ้อน ดิฉันเคยเป็นกรรมการรับรองคนไทยพลัดถิ่น 4 ปี เห็นข้อจำกัดเยอะมาก แต่กสม.จะไม่หยุดอยู่แค่นี้จะผลักดันไปต่อ” นางปรีดา กล่าว

นายภควินท์ แสงคง หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการชุมชน มูลนิธิชุมชนไทย กล่าวว่า จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยปัจจุบันคนไทยพลัดถิ่นกระจายตัวอยู่ใน 7 จังหวัด ภาคเหนือ อีสานตอนบน และส่วนใหญ่จะอยู่ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา ชุมพร ตราด ประจวบคีรีขันธุ์ และ จ.ตาก

นายภควินท์ กล่าวด้วยว่า กระบวนการพิสูจน์ที่ทำงานด้านคนไทยพลัดถิ่นเราทำตั้งแต่ปี 2544 ทำงานด้วยการค้นเป็นตระกูล แล้วมาแยกเป็นครอบครัว แล้วจึงจะเก็บเป็นรายบุคคล การพิสูจน์พี่น้องเหล่านี้เขาทำมาตลอด

นายภควินท์กล่าวว่า ปัญหาคนไทยพลัดถิ่นบางคนถูกจำหน่ายไปตั้งแต่ปี 2552 คือการไม่มีเอกสารใดๆ สิทธิในการรักษาพยาบาลใดๆถูกตัดหมด ในส่วนกลไกรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น พอมีพรบ.สัญชาติ 2555 ระบุว่าคนไทยพลัดถิ่นคือคนเชื้อสายไทย แต่ที่ผ่านมาถูกจัดเป็นชนกลุ่มน้อย ทำให้มีคนตกหล่น โดยยกร่างกฎหมายครั้งแรกเขียนไว้ดีมากว่าหลีกเลี่ยงการใช้ดุลพินิจแต่พอเข้าสู่นิติบัญญัติทางสภาผู้แทนไม่ยอม

“นอกจากนี้การที่รายชื่อไทยพลัดถิ่นถูกจำหน่าย มี 3 กรณีอย่างแรกคือไม่มารายงานตัว แต่เราพบว่าการจำหน่ายไม่ใช่ไม่รายงานตัวแต่จำหน่ายผิดขั้นตอน ถ้าเจ้าตัวไม่ไปรายงานจึงจะจำหน่ายแต่นี่จำหน่ายเลย อย่างที่ 2 เป็นประเด็นในปัจจุบันคือคอร์รัปชั่น คุณไม่รู้ว่าคอร์รัปชั่นกับใครแต่จำหน่ายทั้งยวงหมดเลย จำหน่ายที่ 3 คือตรวจสอบคุณสมบัติครั้งสุดท้ายปี 2548-2554 ว่าคุณเข้าประเทศไทยหลังปี 2542 เพราะมติครม. ระบุไว้อย่างนั้น แสดงว่าคุณสมบัติในการสำรวจคุณไม่ถูกคุณสมบัติก็จะถูกจำหน่าย การจำหน่ายนี้จะโดนเยอะมากอันนี้เกี่ยวกับพลัดถิ่น ที่บางสะพานพึ่น้องมอญผมเจอไป 300 กว่าคน ปัญหาแทนที่จะคลี่คลายจากมติ ครม.นี้หรือ พรบ.สัญชาติฉบับที่ 5 แต่โดยข้อเท็จจริงในพื้นที่การบริหารจัดการแบบนี้มันกลับสร้างปัญหาที่รุนแรงขึ้นให้กับพี่น้องแล้วไม่มีทางออกด้วยซ้ำ“ หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการชุมชน มูลนิธิชุมชนไทย กล่าว

นายปวินท์ หน่อแก้ว นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี 29 ต.ค.2567 ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งรัดกับคนที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยมาเป็นเวลานานภายในเวลา 5 วัน แต่คนไทยพลัดถิ่นซึ่งเป็นคนไทยแท้ทำไมเราไม่ช่วยเหลือเร่งแก้ไขปัญหา

“ความล่าช้าจากเจ้าหน้าที่มีจำนวนน้อย เราพบว่าการที่เรารวมกลุ่มเป็นเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคมจับมือร่วมกันลงไปในพื้นที่จะร่นระยะเวลาได้เป็นอย่างดี สร้างความเข้มแข็งให้คนไทยพลัดถิ่นมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” นายปวินท์ กล่าว

นายปวินท์ กล่าวอีกว่า เป็นทิศทางที่ดีขึ้นที่มีการทำงานร่วมกัน ทัศนคติของเจ้าหน้าที่มีส่วนสำคัญกับการทำงานว่าเขามองคนไทยพลัดถิ่นอย่างไร เขาก็อาจจะปฏิบัติอย่างนั้น

On Key

Related Posts

นักวิชาการแนะรัฐไทยเร่งหารือประเทศลุ่มน้ำโขงหลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานใน จ.เลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม ภาคประชาชนจี้รัฐแจ้งความจริงให้ชาวบ้านทราบ-หาแนวทางปฎิบัติ-หวั่นหลายเมืองใช้น้ำโขงผลิตน้ำประปาได้รับผลกระทบ