Search

ผลตรวจคุณภาพน้ำครั้งที่ 10 พบสารพิษในแม่น้ำกก-โขงไม่เกินค่ามาตรฐานเหตุถูกน้ำฝนเจือจาง แต่แม่น้ำสาย-รวกยังเข้มข้นเนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งกำเนิด นักวิจัยเตือนยังอันตราย-หวั่นสะสมในนาข้าว จี้รัฐออกมาตรการเชิงรุก

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 เว็บไซต์ของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ กรมควบคุมมลพิษ ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขงและผลกระทบกรณีปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐาน ครั้งที่ 10 ซึ่งเก็บตัวอย่างน้ำระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2568 โดยผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดินแม่น้ำกก ไม่พบสารโลหะหนักเกินมาตรฐานในทุกจุดตรวจวัด

สำหรับแม่น้ำสาย พบสารหนู (As) เกินค่ามาตรฐานอยู่ในช่วง 0.020 – 0.022 มก./ล (ค่ามาตรฐาน 0.01 มก./ล.) เช่นเดียวกับแม่น้ำรวกที่มีสารหนูเกินมาตรฐานคืออยู่ที่ 0.011 มก./ล. ส่วนคุณภาพน้ำผิวดินในแม่น้ำโขง พบว่ามีค่าเป็นไปตามมาตรฐานฯ

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ได้เสนอบทวิเคราะห์ ว่า ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำและตะกอนดินอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 จนถึงปัจจุบันครั้งที่ 10 (รอบปลายเดือนสิงหาคม 2568) แม่น้ำกกและแม่น้ำสาขา แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง ยังมีสีน้ำตาลแดง มีค่าความขุ่นสูง ไม่พบโลหะหนักเกินมาตรฐาน ยกเว้นแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก ทุกจุดตรวจวัด พบค่าสารหนูเกินค่ามาตรฐาน (0.011 – 0.022 มก./ล.)

“จากผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมในฤดูฝน ตั้งแต่พายุวิภาช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2568 และมีฝนตกต่อเนื่องระหว่าง สิงหาคม 2568 ปริมาณน้ำท่ามาก มีการแจ้งเตือนระดับน้ำล้นตลิ่งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม อาจเจือจางให้ค่าโลหะหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าที่เกินมาตรฐานในบริเวณแม่น้ำสาย -แม่น้ำรวก อาจเนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งกำเนิดจนทำให้การเจือจางด้วยปริมาณน้ำท่ายังไม่มากพอที่จะลดการปนเปื้อนให้อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานได้” บทวิเคราะห์ ระบุ

ด้านสมพร เพ็งค่ำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบทางสุขภาพโดยชุมชน ( Community Health Impact Assessment Platform หรือCHIA Platform) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจวัดของ คพ.ครั้งที่ 10 ว่าผลการตรวจอย่างเป็นทางการที่ผ่านมา 6 เดือน พบการปนเปื้อนอย่างต่อเนื่อง การตรวจวัด ในบางจุดครั้งนี้ที่พบว่าโลหะหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ก็ยังสูงและบทวิเคราะห์ก็ชัดเจนว่าเป็นช่วงฤดูฝน อาจเจือจางค่าสารโลหะหนัก

“แปลว่ามลพิษไม่ได้ไปไหนแต่เจือจางลง ประกอบกับในฤดูฝนเราไม่ทราบว่ากิจกรรมเหมืองในรัฐฉานหยุดในช่วงนี้หรือไม่ สิ่งที่กังวลมากกว่าคือ เรื่องสารหนูที่สะสมได้มากในข้าว แต่เรากลับยังไม่มีมาตรการเชิงรุกใดๆ ในการเฝ้าระวังแปลงนาข้าว ที่แม่น้ำสาย น้ำรวก ในอ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งมีการการปลูกข้าวกว่า 5 หมื่นไร่ในระบบชลประทานที่ใช้แม่น้ำที่ปนเปื้อนโดยตรง เรายังไม่เห็นข้อมูลอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอให้ตรวจพบเกินค่ามาตรฐาน แต่ห่วงโซ่อาหารเป็นเรื่องที่ต้องจัดการ และการเตือนก็ยังไม่มี เพราะห่วงโซ่อาหารต่างหากที่จะต้องมีมาตรการปกป้องกลุ่มเปราะบางในทันที” นักวิจัยสุขภาพกล่าว

ขณะที่ผศ.เสถียร ฉันทะคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวว่า ผลการตรวจครั้งนี้มีข้อสังเกต ประการแรกการตรวจสารหนูไม่เกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกกนั้น ต้องพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่จุดกำเนิดมีการปล่อยหรือชะล้างน้ำจากเหมืองแร่ในช่วงเวลาที่มีการเก็บตัวอย่างน้ำหรือไม่ทำให้ปริมาณสารหนูนั้นเจือจางลง

ผศ.เสถียรกล่าวว่า ประการที่สองการตรวจพบไม่เกินค่ามาตรฐานในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าสารหนูหมดไปจากแม่น้ำกกแต่อย่างใดเพราะเป็นเพียงจุดที่เก็บตัวอย่าง ที่สำคัญอาจต้องพิจารณาจากตะกอนดินประกอบด้วย อย่างไรก็ตามผลการตรวจครั้งล่าสุดนี้ก็เป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่จำเป็นต้องมีการตรวจวิเคราะห์คุณภาพต่อเนื่อง และการทำความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน มิฉะนั้นจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงว่าน้ำไม่มีสารหนูแล้วสามารถนำไปใช้อุปโภคบริโภคได้ ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อผลกระทบทางสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นได้

——–

On Key

Related Posts

นักวิชาการแนะรัฐไทยเร่งหารือประเทศลุ่มน้ำโขงหลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานใน จ.เลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม ภาคประชาชนจี้รัฐแจ้งความจริงให้ชาวบ้านทราบ-หาแนวทางปฎิบัติ-หวั่นหลายเมืองใช้น้ำโขงผลิตน้ำประปาได้รับผลกระทบ