Search

เครือข่ายสิทธิชุมชนเชียงรายยื่นหนังสือถึง“สุชาติ”วอนแก้ปัญหาข้อพิพาทกับอุทยานฯลำน้ำกก

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ระหว่างที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)และคณะผู้บริหารกรมต่างๆในสังกัดลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยภายหลังหารือกับเครือข่ายภาพประชาชนแล้ว เครือข่ายสิทธิชุมชนเชียงราย (คสชช.)ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน

ในหนังสือระบุว่า กรณีการเตรียมประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ให้อุทยานฯได้ดำเนินการกันพื้นที่ของชุมชน ทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน ป่าชุมชน ป่าจิตวิญญาณ และพื้นที่อื่นๆที่ชุมชนได้ดูแลรักษา และชุมชนมีเจตจำนงค์ที่จะให้กันพื้นที่ออกจากแนวเขอุทยาน เพื่อไม่ให้สร้างผลกระทบ ความเดือดร้อนต่อชุมชน อีกทั้งไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งปัจจุบันและในอนาคต โดยให้อุทยานฯลำน้ำกก ดำเนินการชี้แจง ทำความเข้าใจกับชุมชน และสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดำเนินการกำหนดแนวเขตอุทยานฯร่วมกัน

2.ให้กรมอุทยานแห่งชาติมีการกำหนดแนวเขตอุทยานฯลำน้ำกกในพื้นที่ตำบลป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงรายเป็นไปตามการทำบันทึกแนวเขตร่วมกันระหว่าง ชาวบ้านตำบลป่าตึง องค์การบริหารตำบลป่าตึง และอุทยานฯลำน้ำกก และนำกระบวนการจัดทำแนวเขตที่มีส่วนร่วมกันระหว่างชุมชนและอุทยานฯเป็นต้นแบบในการดำเนินการในพื้นที่ตำบลต่างๆที่มีข้อพิพาทเรื่องแนวเขตทับซ้อนกันระหว่างแนวเขตพื้นที่ชุมชนและแนวเขตอุทยานฯ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎรในชุมชน และให้มีการชะลอการดำเนินการประกาศเขคอุทยานฯไปก่อนจนกว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องแนวเขตในแต่ละพื้นที่จะได้ข้อยุติ

3.อุทยานฯ ได้ดำเนินการจัดทำแนวเขตอุทยานร่วมกับชุมชน โดยเบื้องต้นแนวเขตอุทยานฯได้ทับกับแม่น้ำกก ซึ่งอุทยานฯ อ้างว่า ในภายหลังการประกาศเป็นเขตอุทยานฯชาวบ้านหรือชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ได้ตามเดิม แต่ปรากฎว่าในขณะที่ยังอยู่ในระหว่างการเตรียมการประกาศ ชุมชนได้ รับผลกระทบจากการใช้การแม่น้ำกกจากเดิม เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานกับชุมชน เช่น การท่องเที่ยว การใช้เรือ แพ ประมง การใช้ทรัพยากรจากลำน้ำ ในอนาคตเมื่อประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ชุมชนที่ใช้ประโยชน์จากลำน้ำกกในการดำรงชีวิต จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลำน้ำกกได้เลยเนื่องจากมี พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 บังคับใช้ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน ชุมชนจึงขอให้กันแม่น้ำกกออกจากแนวเขตอุทยานฯลำน้ำกกโดยให้ดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงการใช้ประโยชน์

4.กรณีพื้นที่บ้านห้วยส้านลีซู หมู่ 1 ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย การดำเนินการจัดทำแนวเขตอุทยานฯทับพื้นที่ชุมชน โดยการตรวจสอบร่วมกันระหว่างชุมชนและอุทยานฯลำน้ำกก(เตรียมการ) แนวเขตมีพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ของชุมชนเป็นพื้นที่จัดการขยะของชุมชน โดยชุมชนเสนอให้อุทยานฯลำน้ำกก(เตรียมการ) ให้กันพื้นที่ดังกล่าวออกจากแนวเขตอุทยานฯ แต่เนื่องจากอุทยาฯอ้างว่าติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย เบื้องต้นไม่สามารภกันออกได้ ซึ่งจะทำให้อนาคตมีปัญหาเรื่องการจัดการขยะชุมชน อีกทั้งเกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับอุทยานฯ ชุมชนจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอุทยานฯลำน้ำกก(เตรียการ) ได้กันพื้นที่ออกจากแนวเขตอุทยาน และดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน

    5.กรณีพื้นที่ทำกินของชุมชนบ้านหัวฝาย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย มีปัญหาเรื่องที่ป่าไม้อุทยานประกาศพื้นที่ทับซ้อนที่ทำกินของชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยตัวแทนชาวบ้านได้ร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหากับชาวบ้านแต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และยังมีความขัดแย้งและเกิดความเดือดร้อนกับชาวบ้าน จึงดำเนินการหาแนวทางและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับราษฎรผู้เดือดร้อน

    6.กรณี พื้นที่บ้านแม่ตาช้าง ม.18 และบ้านจะหา ม.11ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย การดำเนินการจัดทำแนวเขตอุทยานฯทับพื้นที่ชุมชน โดยการกำหนดแนวเขตของอุทยานฯไม่มีความชัดเจน และชุมชนไม่ได้มีส่วนร่วมมาก่อน ที่ผ่านมาได้มีการนัดหมายเพื่อสำรวจแนวเขตตามข้อเสนอของชุมชน ซึ่งราษฎรบ้านแม่ตาช้าง และบ้านจะหา ยืนยันพื้นที่ที่ให้อุทยานฯกันออกเป็นพื้นที่ป่าชุมชน พื้นที่แหล่งน้ำประปาภูเขาของชุมชน และมีบางส่วนซ้อนทับที่ทำกินของชุมชน ชุมชนจึงขอให้มีการกันพื้นที่ชุมชนออกจากแนวเขตอุทยานฯตามที่ได้มีการเดินสำรวจร่วมกันระหว่างชุมชนและอุทยานฯ และในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ชะลอการประกาศเขตอุทยานฯลำน้ำกกไปก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติ

    7.กรณีอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา(เตรียมการ)พื้นที่บ้านแม่ยางมิ้น ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ที่ผ่านมามีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องแนวเขตอุทยานฯดอยเวียงผาทับพื้นที่ของชุมชน เบื้องต้นได้มีการเดินสำรวจแนวเขตร่วมกัน แต่ยังไม่มีการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและแนวเขตที่ได้สำรวจร่วมกัน เพื่อจะได้มีการรับรองข้อมูลที่ถูกต้องระหว่างชุมชนและอุทยานฯจึงขอให้ อุทยานฯได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลร่วมกับชุมชนและรับรองข้อมูลร่วมกัน

    8.กรณีอุทยานแห่งชาติดอยหลวง จ.เชียงราย พื้นที่บ้านหนองผำ ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่อุทยานได้นำหลักเขตเข้าไปปักในที่ทำกินของชาวบ้าน โดยอ้างว่าเป็นตามแนวเขตตามพิกัดดาวเทียม ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ได้มีการชี้แจงหรือทำความเข้าใจกับชุมชน โดยที่ผ่านมาตัวแทนชาวบ้าน ได้ติดตามสอบถามไปยังอุทยาน เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในชุมชน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ต่อมาชาวบ้านได้มีการยื่นหนังสือไปยังกรรมาธิการการที่ดินฯ รัฐสภา พบว่ากระบวนการสำรวจพื้นที่ทำกินที่อยู่อาศัยราษฎรไม่มีความเข้าใจ และปรากฎว่ามีโครงการปลูกป่าเกิดขึ้นในพื้นที่ทำกินของราษฎร ส่งผลให้ไม่สามารภดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรให้ได้ข้อยุติ จึงขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่15เชียงราย ได้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการของหน่วยงานในพื้นที่และแก้ไขปัญหาราษฎรโดยเร่งด่วน

    9.กรณีการดำเนินการโครงการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชน ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ คทช. โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะหน่วยงานของกรมป่าไม้ในพื้นที่ ได้ดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจให้กับชุมชน โดยการให้ข้อมูลทั้งประโยชน์ ข้อกฎหมาย ข้อจำกัดที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งให้ชุมชนเป็นผู้ตัดสินใจในการเข้าร่วมการดำเนินการดังกล่าว โดยไม่มีการกดดัน สร้างความเข้าใจผิด และสร้างเงื่อนไขที่เป็นการลิดรอนสิทธิ

    10.กรณีปัญหาแม่น้ำกกมีสารพิษปนเปื้อน ขอให้มีการตรวจสุขภาพร่างกาย ตรวจหาสารหนูกับชาวบ้านที่ได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำกก เนื่องจากจะส่งผลกระทบระยะยาวกับชาวบ้านโดยมีรายชื่อชุมชน และให้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแต่ละชุมชน เร่งรัดดำเนินการหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านผู้เดือดร้อน เรื่องแหล่งอาหารเป็นพิษและขาดแคลนแหล่งอาหารชุมชน จากการปนเปื้อนสารหนู และให้จังหวัดเชียงรายสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาแม่น้ำกกปนเปื้อนสารพิษจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชุมชนผู้เดือดร้อนในพื้นที่ และภาคประชาชชนที่เกี่ยวข้องหลังจากเสร็จภารกิจที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายสุชาติและคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ ศูนย์ฝึกอบรมที่ 4 (เชียงราย) จังหวัดเชียงราย พร้อมมอบถุงยังชีพและเสบียงอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานในพื้นที่

    หลังจากเสร็จภารกิจที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายสุชาติและคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ ศูนย์ฝึกอบรมที่ 4 (เชียงราย) จังหวัดเชียงราย พร้อมมอบถุงยังชีพและเสบียงอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานในพื้นที่