
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการอนุญาตให้ผู้หนีภัยจาการสู้รบในค่ายพักพิงชายแดนไทย-พม่า 9 แห่ง ออกมาทำงานในประเทศไทยโดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นมาว่า ตอนนี้ยังได้รับความนิยมน้อยอยู่ ซึ่งไม่เข้าใจว่านายจ้างติดขัดอะไร เพราะจริงๆแล้วความต้องการแรงงานก็ยังสูง แต่ขณะนี้มีแจ้งเข้ามาแค่เพียง 200 คน จากคนงานที่พร้อมจะออกไปทำงานกว่า 1 หมื่นคน
“ที่แจ้งความต้องการแรงงานเข้ามาคือภาคเกษตรกรรม ปศุสัตว์ ก่อสร้างและรีไซเคิล โดยเร็วๆนี้ผมจะลงพื้นที่ไปดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เพราะขั้นตอนต่างๆก็ลื่นไหลทั้งหมด และนายจ้างเองก็มีความต้องการแรงงาน ที่ขอมาอันดับ 1 คืองานก่อสร้าง อันดับ 2 คือเกษตร-ปศุสัตว์ แต่ตัวเลขยังน้อยอยู่ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร หรือเกิดความไม่มั่นใจอะไรหรือเปล่า กำลังหาคำตอบ”นายพิเชษฐ์ กล่าว
อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวว่า ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ จะมีการขึ้นทะเบียนใหม่ให้แรงงาน 4 สัญชาติภายใน 15 วัน โดยแรงงานกลุ่มนี้เป็นแรงงานอยู่อย่างผิดกฏหมายก็จะเปิดโอกาสให้เอาขึ้นมาไว้บนดินโดยจดทะเบียนให้ถูกต้อง ซึ่งนายจ้างมีหน้าที่แจ้งว่ามีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ทำงานอยู่กับตนเท่าไร และลงทะเบียนทางออนไลน์ พร้อมทั้งยื่นคำขอและแนบเอกสารตามที่กำหนด แล้วจะได้ใบรับคำขอให้อยู่ในราชอาณาจักร
“คนกลุ่มนี้เป็นแรงงานเถื่อน คาดว่ามีตัวเลขประมาณ 5-7 แสนคนจะมาขึ้นทะเบียน แต่ที่นำเข้า ครม.ไปมีตัวเลข 3.8 แสนคน ตอนนี้มีประกาศกระทรวงแรงงานและกระทรวงมหาดไทยออกมาแล้ว”นายพิเชษฐ์กล่าว
ส่วนกรณีนำเข้าแรงงานจากประเทศศรีลังกานั้น อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวว่า โครงการนี้จะนำร่อง 1 หมื่นคนโดยมีด้วยกัน 8 กระบวนงานที่ต้องทำ ซึ่งขณะนี้ทำไปถึงกระบวนที่ 4 แล้ว เดิมทีคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต้องการให้เร็วขึ้น จึงได้สั่งการให้เร่งกระบวนการต่างๆให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
นางนิลุบล พงษ์พะยอม ตัวแทนกลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าว (นายจ้างสีขาว)
นางนิลุบล พงษ์พะยอม ตัวแทนกลุ่มนายจ้างที่ใช้แรงงานต่างด้าว (นายจ้างสีขาว) กล่าวว่า ขั้นตอนการจ้างแรงงานในค่ายยังสับสนวกวนอยู่มาก แม้ภาคราชการจะบอกว่าไม่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่เขาพูด แถมยังมีเรื่องตรวจโรคที่ต้องเดินทางมาทำในพื้นที่ที่อยู่ของสถานประกอบการอีก แทนที่จะทำให้เบ็ดเสร็จหน้าค่าย ดังนั้นนั้นนายจ้างเข้าไปจ้างคนงานในค่ายน้อย“เรื่องของขั้นตอน นายจ้างเข้าไปในค่ายไม่ได้ง่าย ดิฉันได้สอบถามไปที่สมาคมไร่อ้อย ซึ่งเขาได้เข้าไปแล้ว มันต้องมีเอกสารขออนุญาต และติดต่อกับคณะกรรมการค่ายผู้ลี้ภัยซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เขาไม่ได้มายืนรออยู่หน้าประตูผู้ลี้ภัย มีหลายขึ้นตอนที่ไม่เบ็ดเสร็จ เพราะทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานต่างมีกรอบของตัวเองเป็นหลัก ตอนประชุมกัน เขาบอกขอเอกสารแค่ใบเดียว แต่ของจริงมันไม่ได้เบ็ดเสร็จอย่างนั้น”นางนิลุบล กล่าว
“เรื่องของขั้นตอน นายจ้างเข้าไปในค่ายไม่ได้ง่าย ดิฉันได้สอบถามไปที่สมาคมไร่อ้อย ซึ่งเขาได้เข้าไปแล้ว มันต้องมีเอกสารขออนุญาต และติดต่อกับคณะกรรมการค่ายผู้ลี้ภัยซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เขาไม่ได้มายืนรออยู่หน้าประตูผู้ลี้ภัย มีหลายขึ้นตอนที่ไม่เบ็ดเสร็จ เพราะทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานต่างมีกรอบของตัวเองเป็นหลัก ตอนประชุมกัน เขาบอกขอเอกสารแค่ใบเดียว แต่ของจริงมันไม่ได้เบ็ดเสร็จอย่างนั้น”นางนิลุบล กล่าว