Search

คนหนุ่มสาวในพม่า 2.5 ล้านคนรู้สึกไม่ปลอดภัยหวั่นถูกบังคับเป็นทหาร UNDP จัดทำรายงานระบุชัดผู้ชายรู้สึกไม่มั่นคงมากกว่าผู้หญิง

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 สื่อออนไลน์ Khitthit Media รายงานว่า สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme – UNDP) ได้เผยแพร่รายงานล่าสุดว่า ตัวเลขคนหนุ่มสาวในพม่าราว 2.5 ล้านคน รู้สึกไม่มีความปลอดภัยที่ต้องอาศัยอยู่ในพม่า และคนหนุ่มสาวอีก 6 ล้านคน รู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างยิ่งในยามวิกาล โดยมีตัวเลขเยาวชนที่เป็นชายและคนกลุ่มชาติพันธุ์รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่มั่นคง และวิตกกังวลมากกว่าเยาวชนที่เป็นผู้หญิง ซึ่งทาง UNDP เชื่อว่า น่าจะเกี่ยวโยงกับการบังคับชายหนุ่มเป็นทหาร ทั้งในกองทัพพม่าและในกองกำลังกลุ่มติดอาวุธกลุ่มต่างๆ

ทั้งนี้ความไม่มั่นคงส่วนบุคคลและความกังวลทางสังคมท่ามกลางวิกฤตการณ์ต่างๆในพม่า กำลังเพิ่มความเครียดทางจิตใจให้กับคนหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่ในพม่า

รายงาน “A Generation on Edge” ของ UNDP เน้นย้ำถึงความไม่มั่นคง ความยากลำบากทางเศรษฐกิจ การไร้ที่อยู่อาศัย และความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นในพม่าเป็นเวลานาน การไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ความกลัว และความวิตกกังวล ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตอีกด้วย

ในรายงานระบุว่า เยาวชนในพม่าประมาณ 1 คน ใน 7 คน (ในประชากรเกือบ 2.5 ล้านคน) มักมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยส่วนบุคคล และเยาวชนประมาณ 4 ใน 10 คน (มากกว่า 6 ล้านคน) รู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างยิ่งที่จะต้องเดินทางคนเดียวในเวลากลางคืน และเยาวชนเกือบ 1 ใน 3 ระบุว่ามักมีความวิตกกังวลหรือเครียด ซึ่งอัตรานี้เกิดขึ้นในพม่า

ในรายงานได้สะท้อนออกมาด้วยว่า ผู้ชายมีความรู้สึกไม่มั่นคงมากกว่าผู้หญิง ความกังวลดังกล่าวเชื่อมโยงกับการต้องรับราชการทหารและการถูกบังคับให้เป็นทหาร ในขณะที่หญิงสาวที่มีความพิการกลับเผชิญกับความกลัวและความเปราะบางในระดับสูงสุด

ทั้งนี้ในวันสุขภาพจิตโลก รายงานของ UNDP ภายใต้สโลแกน “สิทธิในการเข้าถึงบริการ – สุขภาพจิตในภาวะวิกฤตและสถานการณ์ฉุกเฉิน” ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตทั่วประเทศ โดยมีการชี้ให้เห็นว่าการสนับสนุนในภาวะฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ความขัดแย้ง ความรุนแรง และวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทุกวัน

“สำหรับคนหนุ่มสาวจำนวนมาก พวกเขาต้องเผชิญกับความรุนแรง การถูกบังคับควบคุมตัว หรือเผชิญกับความไม่แน่นอนทุกวัน โดยไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้กำลังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเยาวชนพม่า” UNDP ระบุ

UNDP ยังระบุอีกว่า ความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมแทบจะพังทลายลง มีเพียงร้อยละ 20 ของเหยื่ออาชญากรรมเท่านั้นที่รายงานเหตุการณ์ให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวทราบ โดยอ้างว่าการขาดความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่เป็นอุปสรรคหลัก สำหรับหลายๆคนในพม่า ตำรวจและศาลไม่ได้เป็นสถาบันที่สามารถให้การปกป้องคุ้มครองประชาชนได้อีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นกลุ่มที่อาจก่อให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์หรือความเสียหาย ความล้มเหลวของสถาบันเหล่านี้ทำให้คนหนุ่มสาวต้องเผชิญปัญหาในเรื่องความปลอดภัยอย่างโดดเดี่ยว ซ้ำเติมภาระทางจิตใจของพวกเขาให้หนักขึ้นไปอีก

ด้านนางคานนี วิกนาราจา ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติและผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) กล่าวว่า แม้ว่าคนหนุ่มสาวจะยังคงแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น แต่พวกเขาก็เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยบาดแผลทางใจ นี่คือเหตุผลที่พวกเขาต้องการการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตมากขึ้น แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนสามารถเกิดขึ้นได้จากความมั่นคง เสถียรภาพ และความหวังอย่างแท้จริงในสันติภาพเท่านั้น

นางคานนีกล่าวว่า แม้จะมีข้อเท็จจริงเหล่านี้ แต่เยาวชนพม่าจำนวนมากยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าทั้งต่อตนเองและต่อประเทศชาติ โดยมีเยาวชนกว่า 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ชีวิตของตนเองและเพื่อนวัยเดียวกันจะดีขึ้นหรือดีขึ้นมากภายในห้าปีข้างหน้า และเยาวชนกว่า 68 เปอร์เซ็นต์ยังคงเชื่อว่าการบรรลุสันติภาพในพม่าเป็นไปได้ ทว่าความหวังเช่นนี้ยังคงเปราะบางหากปราศจากการลงมือทำ

UNDP ระบุด้วยว่า หากปราศจากการให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย ศักดิ์ศรี และโอกาส พม่าก็อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียคนรุ่นใหม่ทั้งหมดไปกับความกลัวและความผิดหวัง

สื่อพม่าระบุ “A Generation on Edge” เป็นรายงานฉบับที่สามที่เกี่ยวกับสถานการณ์ของเยาวชนในพม่าที่ถูกเผยแพร่ออกมาต่อจากรายงาน “A Generation on the Move” และ “A Generation on Hold” โดยได้สำรวจว่าปัญหาความท้าทายต่างๆในพม่า ว่ากำลังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและสุขภาพจิตของเยาวชนอย่างไร โดยได้มีการสอบถามเยาวชนจากทั่วประเทศ

On Key

Related Posts

สารพิษเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร พบตะกั่ว-สารหนูในผักบุ้ง-ปลาในแม่น้ำปนเปื้อนสารโลหะหนักเชียงราย นักวิชาการหวั่นอันตราย จี้รัฐเร่งอธิบายความจริงให้ประชาชนรับมือ-แนะเลิกใช้ภาษาสื่อสารกำกวม