สื่อออนไลน์ Laopattana online ในลาวรายงานว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของลาว ชี้แจงเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ว่า ในปี 2568 ภูมิภาคอาเซียนได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงจากพายุโซนร้อนหลายลูกในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม โดยพายุดังกล่าวได้สร้างผลกระทบต่อพื้นที่หลายประเทศในอาเซียน ซึ่งในสปป.ลาว ได้รับผลกระทบหลายด้าน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนไฟฟ้า เขื่อนชลประทาน พื้นที่เกษตรกรรม โครงข่ายไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานหลายแห่ง
หนึ่งในโครงการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ โครงการเขื่อนไฟฟ้าน้ำเงี้ยบ 2 บี(Nam Ngiep 2B) ที่ตั้งอยู่บ้านพูกาเฟ เมืองคูณ แขวงเซียงขวาง ซึ่งเป็นโครงการขนาดเล็ก สูง 9 เมตร มีประตูระบายน้ำ 4 ช่อง โดยในคืนวันที่ 29 กันยายน 2568 พายุแมตโม ได้พัดถล่มในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอย่างรวดเร็ว มีปริมาณ 1,359 ล้านลบ.เมตร/วินาที หรือเท่ากับ 93 % ของความสามารถในการระบายน้ำของประตูระบายน้ำ ซึ่งฝ่ายบริหารจัดการของเขื่อนได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ตอนล่างของโครงการและเริ่มเปิดประตูระบายน้ำ แต่เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น พายุลมแรง ทำให้เสาไฟฟ้าล้ม ระบบไฟฟ้าขัดข้อง จึงต้องใช้เครื่องจักรสำรองปั่นไฟฟ้าในการเปิดประตูระบายน้ำ แต่มวลน้ำมีมหาศาลและไหลอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถรับมือต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จึงทำให้น้ำไหลล้นออกจากทั้งสองข้างของเขื่อน เกิดดินถล่มในบริเวณโครงสร้างฝั่งขวา จึงทำให้เกิดน้ำท่วมกะทันหัน แต่เพราะเขื่อนน้ำเงี้ยบ 2 บี มีปริมาณน้ำ 12,300 ลูกบาศก์เมตร จึงไม่ได้สร้างผลกระทบมาก แม้จะเทียบกับปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อน
ปัจจุบัน ผู้พัฒนาโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังประเมินความเสียหายและวางแผนฟื้นฟูโครงการดังกล่าวให้กับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว และจะนำบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ในการปรับปรุงมาตรฐานการคุ้มครองเขื่อนให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เขื่อนไฟฟ้าน้ำเงี๊ยบ 2 บี(2B) มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 18 เมกะวัตต์ โดยบริษัทหนองไฮ กรุ๊ป จำกัด บริษัทของสปป.ลาวมีบริษัท Chongqing Water Turbin Work Co.,LtdZ(CWTW) จากจีนเป็นบริษัทก่อสร้าง โครงการนี้เริ่มผลิตไฟฟ้าเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2561 เป็นเขื่อนมีระบบอุโมงค์ผันน้ำไปเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และเป็นหนึ่งในชุดโครงการเขื่อน น้ำเงี๊ยบ 2 ABC (2A,2B,2C) ที่สร้างและผลิตไฟฟ้าในแขวงเซียงขวางของสปป.ลาว
ปัจจุบัน ลาว มีโครงการเขื่อนไฟฟ้าที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศ ประมาณ 103 โครงการ กำลังการผลิตกว่า 4,930 เมกะวัตต์ นับตั้งแต่ปี 2018 เหตุการณ์เขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อย แตกพังและทำให้ประชาชนความเสียหายหลายพันครอบครัวและผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 71 คน ทำให้ทางการลาว ได้ออกกฎหมายและระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการตรวจสอบความปลอดภัยของเขื่อนและการเปิดเผยข้อมูลและประกาศเตือนภัยแก่ประชาชนให้เตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน แต่สปป.ลาวก็ยังเผชิญกับปัญหาสภาพการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแบบสุดขั้ว การเกิดพายุโซนร้อนหลายลูกในแต่ละปี ทำให้เขื่อนขนาดเล็กหลายแห่งไม่สามารถรับมือกับปริมาณฝนตกหนักได้ ทำให้เกิดเขื่อนเหล่านั้นพังเสียหายเพิ่มมากขึ้นในทุกปี เช่นในปี 2024 เขื่อนไฟฟ้าน้ำทา 3 ที่แขวงหลวงน้ำทา เกิดภาวะน้ำท่วมหลากโรงไฟฟ้าเขื่อน และในทุกปีลาวกำลังเผชิญปัญหาภัยพิบัติจาการระบายน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนน้ำงึม 1, น้ำลิก 1, น้ำเทิน เป็นต้น และน้ำป่าไหลหลากมากขึ้นทุกปี
