Search

เหล่ามาเฟียจีนอพยพย้ายรังจากเคเคปาร์คไปคิงส์โรมัน-ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐไทยเดินทางข้ามไปอย่างสะดวก NUGจวกกองทัพพม่าเล่นละครปราบสแกมเมอร์เคเคปาร์ค-งานแสงสีเสียงริมน้ำเมยคืนที่ 3 โชว์อาเซียนอลังการกว่าเดิมใช้ระเบิด 3 ลูกจนควันฟุ้งกระจาย

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 นายเนย์โพนลัตต์ (Nay Phone Latt) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า หรือรัฐบาลเงา (National Unity Government- NUG) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ในแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ “เคเคพาร์ค” ที่กองทัพพม่ากำลังพยายามแสดงให้เห็นว่าจริงจังกับการปราบปรามสแกมเซ็นเตอร์ ว่าทุกฝ่ายจำเป็นต้องมองให้ลึกถึง “ต้นตอ” ของศูนย์สแกมเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่ดูว่ากองทัพพม่าไปบุกเคเคพาร์ค ซึ่งมันเหมือนกับ “ละครที่เขียนบทมาแย่” เท่านั้น กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลทหารพม่า และผู้นำกองทัพพม่าเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินการเหล่านี้ การแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราตัดขาดต้นเหตุที่หยั่งรากลึกนี้เท่านั้น

ขณะที่สถานการณ์บริเวณริมแม่น้ำเมยด้านตรงข้ามกับเคเค ปาร์ค ยังคงมีชาวต่างชาติข้ามน้ำมายังฝั่งไทย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน โดยชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ในช่วงตอนกลางคืนชาวจีนซึ่งเข้าใจว่าเป็นระดับหัวหน้าได้พากันข้ามแม่น้ำมาขึ้นรถปิคอัพฝั่งไทยที่มีผู้มารอรับเพื่อพาออกไปข้างนอก โดยตลอด 3-4 วันที่ผ่านมามีนับร้อยคน ซึ่งคนเหล่านีสามารถออกจากพื้นที่ไปได้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กลุ่มสแกมเมอร์บางส่วนได้เข้าไปอยู่ในชเวก๊กโก่ และอีกส่วนหนึ่งได้เช่ารถยนต์ให้ไปส่งฝั่งตรงข้ามกับ อ.แม่ระมาด เนื่องจากบริเวณ อ.แม่สอด มีเจ้าหน้าที่ทางการไทยจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการถูกจับ อย่างไรก็ตามเมื่อคืนวันที่ 24 ตุลาคม เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานของ อ.แม่ระมาด ได้ตรวจพบชาวจีน 30 คน และชาวลาว 1 คน ลักลอบข้ามแม่น้ำเมยทางช่องทางธรรมชาติท่าหินสี หมู่ 7 ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก เข้ามาในไทย โดยหนีออกจาก KK Park เพราะถูกทหาร BGF แจ้งเตือนว่าพื้นที่ไม่ปลอดภัย โดยทั้งหมดต้องการที่จะเดินทางไปยังคิงส์โรมัน แหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำโขง ประเทศลาว ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 24 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ได้จับกุมชาวจีน 19 คนที่เดินทางจากเคเค ปาร์ค เมืองเมียวดี เพื่อไปยังคิงส์โรมัน ประเทศลาว

เวลา 18.00 น.ผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งได้ลงพื้นที่บ้านแม่กุใหม่ท่าซุง หมู่ที่ 9 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระเบิด บริเวณเมืองเคเคปาร์คมาแล้ว 2 วัน ดังนั้นจึงเชื่อว่าในวันนี้ต้องมีระเบิดอีกเนื่องจากทางการพม่าซึ่งจับมือกับ BGF ต้องการจัดฉากให้เห็นว่ามีการปราบปรามสแกมเมอร์อย่างจริงจังเพื่อให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนได้เห็นภาพ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังโดยเวลา 18.57 น. ได้เกิดระเบิดพร้อมกันถึง 3 ลูกภายในอาคารของเคเค ปาร์ค

จากการเฝ้าสังเกตพบว่า ก่อนการระเบิดได้มีรถยนต์กระบะคันสีบรอนท์เทา ขับเข้ามายังบริเวณด้านหลังอาคารซึ่งจอดอยู่นานพอสมควร จากนั้นก็หายไปนานประมาณ 20 นาที ทุกคนได้กลิ่นเหมือนไหม้คล้ายกับกลิ่นประทัด และในไม่นานก็เกิดการระเบิดในทันทีซึ่งเสียงดังแค่ตูมเดียว แล้วมีเสียงเศษหินเศษดินแตกกระจายทั่ว โดยมีกลุ่มควันขนาดใหญ่ค่อยๆลอยขึ้นอยู่ด้านหลังอาคาร

วันเดียวกันพล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปที่อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามสถานการณ์บุคคลต่างชาติที่หนีจากการปราบของทหารเมียนมาจากพื้นที่เคเคปาร์ค อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามแนวชายแดนไทย เมียนมา ด้านอ.แม่สอด จ.ตาก โดยคณะได้ประชุมร่วมตำรวจ ทหาร ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจ.ตาก และรับฟังสถานการณ์ดังกล่าว

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า การสอบสวนบุคคลต่างชาติ และคัดกรองได้วัน 100 คนใช้เวลาประมาณ 4 วัน ในการคัดกรองสอบสวนในส่วนของการดำเนินคดีก็จะมีพนักงานสอบสวนจากส่วนกลางเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ส่วนการผลักดันกลับนั้น มีประเทศจีนที่ทางสถานทูตได้ติดต่อมาแล้ว ส่วนประเทศอื่นๆก็จะให้มีการประสานกับทางสถานทูตโดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจะมีการผลักดันไปทั้งหมดโดยเร็ว ยกเว้นในส่วนที่มีคดีก็จะดำเนินคดีการส่งคนกลับครั้งนี้จะใช้กลไกเดิม

“ ครั้งนี้มีบุคคลต่างชาติทั้งหมด 28 สัญชาติ มากที่สุดคือประเทศอินเดีย รองลงมาเป็นประเทศจีน และเวียดนาม ส่วนประเทศมีอุปสรรคปัญหาคือประเทศเอธิโอเปียเนื่องจากไม่มีสถานทูตในประเทศไทยและประเทศเมียนมา ซึ่งจะต้องให้ทางกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไป”รอง ผบ.ตร.กล่าว