Search

ผลสำรวจแร่แรร์เอิร์ธในไทย พบมาก 4 ชนิดตั้งแต่แม่ฮ่องสอนจนถึงชายแดนภาคใต้ ผู้เชี่ยวชาญกรมทรัพยากรธรณีเผยมีศักยภาพแต่ต้องสำรวจซ้ำ ยันประเทศไทยยังไม่มีเหมืองแร่หายาก-ถ้าจะลงทุนต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 นายธวัชชัย เชื้อเหล่าวานิช ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงแร่แรร์เอิร์ธว่า บางประเทศนำผลผลิตเป็นเครื่องต่อรองทางการค้า หากประเทศไทยสามารถผลิตแร่แรร์เอิร์ธได้ก็อาจจะสร้างอำนาจต่อรองเช่นนั้นด้วยเช่นกัน

“การทำเหมืองหรือไม่ทำเหมืองขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่เราจะได้กลับคืนมา แต่ถ้าถามว่าแรร์เอิร์ธมีความสำคัญไหม ณ ปัจจุบัน มีความสำคัญ ถ้าเราสามารถมีการผลิตที่อยู่ในประเทศของเราเองได้ก็เหมือนกับการสร้างฐานให้กับอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในประเทศซึ่งเป็นแร่หายาก โดยเฉพาะในปัจจุบันเราจะเห็นอยู่ว่าบางประเทศใช้ตรงนี้ซึ่งเป็นอำนาจในการต่อรองการค้า ถ้าประเทศเรามีแหล่งวัตถุดิบอยู่ในมือมันก็จะเป็นอำนาจของประเทศเราที่จะสามารถไปต่อรองการค้ากับประเทศอื่นได้ด้วย” นายธวัชชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงผลการสำรวจแร่หายากในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณีวิทยา กล่าวว่า เป็นการสำรวจเบื้องต้นพอให้เห็นว่ามีหรือไม่และเป็นการสำรวจในภาพกว้าง ในการสำรวจมีหลายขั้นตอนกว่าจะพัฒนาแหล่งขึ้นมาได้ ผลสำรวจของกรมทรัพยากรธรณีจะเป็นเพียงขั้นตอนแรกๆ

นายธวัชชัยกล่าวว่า พบว่าในไทยมีศักยภาพ มีสายแร่เกาะตามแนวหินแกรนิตทอดยาวตั้งแต่ จ.แม่ฮ่องสอน ไปจนถึงภูเก็ตแล้วลงไปถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ เวลาเราพูดถึงแรร์เอิร์ธมันจะพูดถึงอยู่แค่ตัวเดียว แต่จริงๆแล้วแร่หายากจะอยู่กันทั้งกลุ่มเพียง แต่ว่าสัดส่วนของแต่ละตัวจะมากน้อยแตกต่างกันไป จากที่เราสำรวจเบื้องต้นแหล่งที่เราพบแร่หายากมากกว่าตัวอื่นๆคือแร่ซีเรียม (Ce) และตัว อิตเทรียม แลนทานัม (La) นีโอดิเมียม (Nd) เป็น 4 ตัวหลักๆที่จะเจอในปริมาณที่สูงกว่าแร่หายากตัวอื่นๆ แต่ประเด็นคือพวกนี้ราคาไม่สูง เพราะฉะนั้นการจะพัฒนาแหล่งขึ้นมาต้องไปหาว่าแหล่งไหนมีธาตุหายากตัวอื่นโดยเฉพาะธาตุหนักซึ่งจะมีราคาสูง เช่น ดิสโพรเซียม (Dy) ถ้ามีสัดส่วนเพิ่มในแหล่งใดแหล่งหนึ่งมันก็จะมีโอกาสที่จะพัฒนาขึ้นมาได้ในเชิงของการคุ้มทุน

เมื่อถามว่า ปัจจุบันมีการทำเหมืองแรร์เอิร์ธในไทยหรือยังบ้างหรือยัง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณีวิทยา ยืนยันว่ายังไม่มี

“ยังครับ ที่ส่งออกกว่า 1 หมื่นตันเรานำเอาหางแร่ดีบุกจากต่างประเทศเข้ามาแต่งเหมือนพวกทรายหางแร่ที่มีในแร่อื่นๆปนไปหมด พอเอาเข้าโรงแต่ง เพื่อแตกชนิดแร่แล้วก็เพิ่มความเข้มข้นของแร่ออกมา พอแยกออกมาได้เป็นหัวแร่ที่มีความเข้มข้น เขาก็ส่งออกไปเพราะบ้านเรายังไม่มีโรงสกัดแยกแรร์เอิร์ธออกมาจากแร่เหล่านั้นได้”นายธวัชชัย กล่าว

ผู้เชี่ยวชาญของกรมทรัพยากรธรณีกล่าวว่า แร่ดีบุกที่เคยมีมากในอดีต และเคยเอาหางแร่มาสกัดแต่ปัจจุบันไม่ใช่เพราะปัจจุบันบ้านเราเหลือเหมืองดีบุกแค่ 2-3 แห่งเท่านั้นเอง ตัวหางแร่ที่ได้ออกมาจะมีปริมาณน้อยมาก ในอดีตที่ได้หางแร่ออกมาเยอะๆเพราะเราทำแบบลานแร่ ไปดูดเอาจากลำคลอง แม่น้ำเก่าหรือทะเลซึ่งจะมีหางแร่ที่เป็นแร่หนักปนกับดีบุกเยอะ แต่ปัจจุบันเหมืองอย่างนั้นในไทยไม่มีแล้วโอกาสจะได้หางแร่พวกนี้ก็น้อย

เมื่อถามว่า หากทำเหมืองแรร์เอิร์ธปัจจุบันจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า ต้องสำรวจเพิ่ม กรมทรัพยากรธรณีชี้เป้าในเบื้องต้นได้ เป็นพื้นที่กว้าง จุดเก็บตัวอย่างของกรมก็จะห่าง การเก็บตัวอย่างไม่ลงลึกตามสภาพของเครื่องมือที่มี

“ชี้เป้าได้แต่ก็ต้องลงไปในพื้นที่ตรงนั้นแล้วสำรวจเพิ่มเติม เพื่อบีบพื้นที่ลงมาจนเหลือจุดบางบริเวณที่คุ้มทุน แต่ไม่ใช่เห็นพื้นที่ที่กรมลงไปแล้วจะไปขอประทานบัตร เพราะข้อมูลของเราเป็นข้อมูลขั้นต้นเท่านั้น หลักเกณฑ์ในการขอประทานบัตรก็ไม่สามารถนำข้อมูลของกรมไปขอได้ ต้องทำการสำรวจเพื่อชี้ชัดให้ได้ว่ามีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไร” ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณีวิทยา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากต้องการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในไทยต้องใช้เวลานานเท่าไร ผู้เชี่ยวชาญกรมทรัพยากรธรณีกล่าวว่า การจะทำเหมืองแรร์เอิร์ธไม่ใช่การลงทุนระยะสั้น เชื่อว่าอย่างน้อยๆต้องไม่ต่ำกว่า 5 ปีถึงจะทำได้ คือต้องมีการสำรวจก่อน แล้วประเมินความคุ้มค่า กว่าจะเกิดเหมืองได้เร็วสุดคือ 5 ปี

เมื่อถามต่ออีกว่า การทำเหมืองแรร์เอิร์ธที่ดีๆมีหรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า ทุกการทำเหมืองมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่สามารถควบคุมได้ ที่บอกว่าทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะเขาไม่ได้ควบคุม

“ขึ้นอยู่กับมาตรการของเราซึ่งเดี๋ยวนี้กฎหมายควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมเข้มข้นมาก กว่าจะทำเหมืองแร่หายากได้ต้องผ่านกระบวนการทำ EHIA ก่อน ต้องมีการออกแบบ ไม่ให้เกิดการหลุดรั่วของสารเคมีออกมาสู่สิ่งแวดล้อมข้างนอก มันควบคุมและกำกับดูแลได้” นายธวัชชัย กล่าว

เมื่อถามอีกว่าเมื่อพูดถึงแรร์เอิร์ธ ส่วนใหญ่ต่างกังวลในเรื่องของผลกระทบโดยเฉพาะสารกัมตภาพรัง
สี นักธรณีวิทยาผู้นี้ กล่าวว่าพูดยาก เพราะว่าคนไทยตื่นตระหนกไปแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะการนำเสนอข่าวด้านเดียว โดยไม่นำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งเข้าไปด้วย เพราะฉะนั้นประชาชนจึงรับแต่ด้านลบ การที่จะเปลี่ยนแนวคิดค่อนข้างยากมาก

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การลงนามเอ็มโอยูกับสหรัฐฯครั้งนี้ มองว่าเป็นวิกฤตหรือเป็นโอกาส นายธวัชชัยกล่าวว่าไม่ทราบ เพราะไม่เห็นรายละเอียด แต่อาจจะถือว่าเป็นทั้งวิกฤติและโอกาส ถ้ามองในภาพรวม อย่างน้อยๆ คือหมายถึงเป็นการดึงดูดภาคอุตสาหกรรม