เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 สำนักข่าว SHAN สื่อของไทใหญ่รายงานว่า กองกำลังปะหล่อง TNLA (Ta’ang National Liberation Army -TNLA) ได้ลงนามหยุดยิงกับกองทัพพม่าแล้วพร้อมทั้งยินยอมคืนเมืองกุด ในเขตมัณฑะเลย์ และเมืองมีด ให้กับกองทัพพม่า หลังจากที่ยึดมาได้จากปฏิบัติการ 1027 โดยเมืองกุดนั้นเป็นแหล่งอัญมณีแห่งใหญ่ของพม่า
ขณะที่แกนนำกองกำลังเพื่อประชาชน( People’s Defence Force: PDF) มัณฑะเลย์ เปิดเผยว่า ถึงแม้ทางกองกำลังปะหล่องจะยอมลงนามหยุดยิงกับกองทัพพม่าแล้วก็ตาม แต่ทางกลุ่มซึ่งเป็นกองกำลังที่มีชาวพม่าเป็นส่วนใหญ่และเครื่องไหวในมัณฑะเลย์จะเดินหน้าต่อสู้กับกองทัพพม่าต่อไป
ด้านสำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า กองกำลัง TNLA ระบุเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ว่าได้ลงนามหยุดยิงกับกองทัพพม่าแล้วที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน ระหว่างที่หารือสันติภาพกับกองทัพพม่าระหว่างวันที่ 27 – 28 ตุลาคม 2568 โดยทาง TNLA ยอมตกลงที่จะคืนเมืองกุดและเมืองมีด ขณะที่กองทัพพม่าตกลงที่จะไม่โจมตีในเมืองอื่นๆที่เหลือที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังปะหล่องโดยข้อตกลงหยุดยิงของทั้งสองฝ่ายจะมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ทางกองทัพพม่าได้โจมตีในเขตที่ TNLA ยึดครองทางตอนเหนือของรัฐฉาน และเมืองกุดในเขตมัณฑะเลย์อย่างหนักและต่อเนื่อง ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตหลายสิบคนและสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน นอกจากนี้ TNLA ยังเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากจีนให้ยุติการสู้รบกับรัฐบาลทหารพม่า
นักวิเคราะห์ทางทหารที่เฝ้าสังเกตการณ์ความขัดแย้งในรัฐฉานตอนเหนือ กล่าว่า การสงบศึกครั้งนี้เป็นผลมาจากปัจจัยสองประการ คือการสงบศึกครั้งนี้จะทำให้กองทัพพม่ายุติการโจมตีเพิ่มเติม ไม่เพียงแต่ TNLA เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆที่ยังต่อสู้กับกองทัพพม่าในรัฐฉานตอนเหนือด้วย รวมถึงกองกำลังโกก้าง MNDAA (Myanmar National Democratic Alliance Army) และกองกำลังเอกราชคะฉิ่น KIA (the Kachin Independence Army)
“รัฐบาลจะไม่กล้าเปิดฉากโจมตีเพิ่มเติมในรัฐฉานตอนเหนือใกล้ชายแดนจีน หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลปักกิ่ง กองทัพพม่าเกรงกลัวจีน และจีนจะไม่ยอมให้เกิดการปะทะใกล้ชายแดน” นักวิเคราะห์กล่าวกล่าว ทั้งนี้ TNLA เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (Brotherhood Alliance) ร่วมกับกองกำลังโกก้าง MNDAA ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน และกองกำลังอาระกัน AA (Arakan Army) ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในรัฐยะไข่ หรือรัฐอาระกัน ทางตะวันตกของพม่า โดย TNLA ร่วมกับกลุ่มต่อต้านหลายกลุ่ม รวมถึงกองกำลังเพื่อประชาชน PDF ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ได้เปิดฉากการรุกทางทางทหารที่ประสานงานกันอย่างประสบความสำเร็จต่อกองทัพพม่า ซึ่งเรียกว่าปฏิบัติการ 1027 ทางตอนเหนือของรัฐฉานในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566
ทั้งนี้ปฏิบัติการดังกล่าวทำให้กองกำลังชาติพันธุ์สามารถยึดครองพื้นที่ขนาดใหญ่ของรัฐฉานตอนเหนือ ตั้งแต่ชายแดนจีนทางตะวันออกไปจนถึงพื้นที่ใกล้เขตมัณฑะเลย์ทางตะวันตก รวมถึงเส้นทางการค้าชายแดนที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการดังกล่าวต้องชะงักลงในเดือนมกราคม ปี 2567 หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรตกลงที่จะสงบศึกกับกองทัพพม่าโดยมีจีนเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย อย่างไรก็ตาม TNLA กลับมาสู้รบกับกองทัพพม่าอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2567 หลังจากที่ถูกโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ใส่ในเมืองที่ TNLA ยึดครองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อตกลง และด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่ม PDF และกลุ่มต่อต้านอื่นๆ TNLA สามารถยึดครองได้เพิ่มอีก 4 เมืองทางตอนเหนือของรัฐฉานอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้แก่ เมืองนหนองเขียว เมืองจ๊อกเม เมืองสีป้อ และเมืองมีด รวมถึงเมืองกุด ในเขตมัณฑะเลย์ตอนเหนือ
TNLA ยังช่วยเหลือกลุ่ม PDF ยึดครองดินแดนจำนวนมากในเมืองเส่งกู เมืองมะตะยะ และเมืองปะเต่งจี ทางตอนเหนือของมัณฑะเลย์ ซึ่งการยึดเมืองเหล่านี้ได้ กลายเป็นภัยคุกคามต่อเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ รวมถึงเมืองปิ่นอูหลิ่น ซึ่งเป็นเมืองทหารของกองทัพพม่า ซึ่งตั้งอยู่ติดกับเมืองหนองเขียวที่ TNLA ยึดได้ โดยในเวลานั้น ผู้สังเกตการณ์หลายคนคาดการณ์กันว่า TNLA และพันธมิตรจะสามารถเข้ายึดมัณฑะเลย์ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการทางทหารของ TNLA และโกก้าง MNDAA ต้องหยุดชะงักลง หลังจากถูกกดดันอย่างหนักจากรัฐบาลจีน โดยการปิดพรมแดนทั้งหมดไปยังดินแดนที่กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์สองกลุ่มยึดครองไว้ในภาคเหนือของรัฐฉาน นอกจากนี้ รัฐบาลปักกิ่งยังกดดันกลุ่มติดอาวุธที่ทรงอิทธิพลอีกกลุ่มหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน คือ กองกำลังสหรัฐว้า UWSA (United Wa State Army) ให้ปิดพรมแดนที่ติดกับดินแดน MNDAA และยุติการสนับสนุน TNLA และ MNDAA ทั้งหมด
แรงกดดันดังกล่าวมีหลายรูปแบบ รวมถึงการจับกุมสมาชิกกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และยึดทรัพย์สินของพวกเขาในจีน หรือแม้แต่การจับกุมผู้นำของโกก้าง MNDAA นอกจากนี้ จีนยังห้ามไม่ให้กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ติดชายแดนทำการติดต่อกับรัฐบาล NUG และกองกำลังภายนอกอื่นๆ รวมถึงการติดต่อกับประเทศตะวันตกอีกด้วย การกดดันของจีนยังบังคับให้กองกำลังโกก้าง MNDAA ต้องคืนเมืองล่าเสี้ยว และประกาศว่า จะไม่โจมตีเมืองมัณฑะเลย์และเมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐฉาน ซึ่งอยู่ทางใต้
สำนักข่าว Irrawaddy ยังรายงานอีกว่า เป็นที่น่าสังเกต แม้กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ทางเหนือของรัฐฉานจะถูกกดดันอย่างหนักจากจีน แต่กองกำลังอาระกัน AA ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ดีของปะหล่อง TNLA และโกก้าง MNDAA กลับไม่ถูกกดดันจากจีนในลักษณะเดียวกัน จนถึงขณะนี้ กองกำลังอาระกัน AA สามารถยึด 14 เมือง จากทั้งหมด 17 เมืองของรัฐยะไข่ รวมถึงเมืองปะแล็ตวา ในรัฐชินที่อยู่ใกล้เคียง นับตั้งแต่ขยายปฏิบัติการ 1027 ไปทางตะวันตกของพม่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ขณะนี้ กองกำลังอาระกัน AA กำลังพยายามยึดเมืองชิตต่วย เมืองหลวงของรัฐยะไข่ และเมืองเจ้าก์ผิ่ว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการสำคัญๆ ของจีน รวมถึงท่าเรือน้ำลึกและสถานีขนส่งท่อส่งน้ำมันและก๊าซที่เชื่อมต่อกับมณฑลยูนนาน
 
 



