เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 นายศักดิ์ชัย เยมู ผู้ใหญ่บ้านแม่งูด หมู่ 6 ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาทำให้น้ำจากเขื่อนภูมิพลหนุนขึ้นมาปิดถนนชาวบ้านที่จะเดินทางเข้าตัว อ.ฮอด ต้องใช้ทางเลี่ยงถนนดินลูกรังเลาะตีนดอยระยะทาง 19 กิโลเมตร
“ฝนที่ตกต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ปริมาณขึ้นมาเร็วมากเกือบเท่าปี 2554 ไม่มีทีท่าว่าจะลด ทางดอยลอ อ.จอมทอง เปิดประตูระบายน้ำจากฝายลงมาอีก ชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องการสัญจรไปมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว คนป่วยจะไปโรงพยาบาลลำบากต้องใช้เวลานาน จาก 15 นาทีเป็นชั่วโมงกว่า วานนี้มีคนป่วย อายุ 86 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลตอนบ่าย 3 ระหว่างต้องรอรถที่มาปรับถนนทางเลี่ยงช้ามากพอไปถึงโรงพยาบาลก็เสียชีวิต“ นายศักดิ์ชัย กล่าว
ผู้ใหญ่บ้านแม่งูด หมู่ 6 กล่าวอีกว่า ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.ใหม่) ร่วมกับ 2 ตำบลกำลังช่วยกันปรับถนนเทหินคลุกบนถนนช่วงที่เป็นดินโคลน
“ถ้าจะว่าเป็นภัยธรรรมชาติผมว่าไม่ใช่ ธรรมชาติจะเป็นน้ำป่าไหลหลาก แต่นี่มีเจ้าของ แรกๆก่อนน้ำจะท่วมถนนคงมีหน่วยงานที่ประสานกันอยู่ว่าจะเก็บน้ำระดับไหนน่าจะเตรียมการณ์ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่พอน้ำท่วมถนนรถไปไม่ได้ก็เอารถมาทำถนนมันเลยไม่ทันการณ์ มันช้า ต.นาคอเรือ มี 2 หมู่บ้านคือ บ้านเด่นวิทยา กับบ้านห้วยหินดำ อยู่ในเกาะแล้วเข้าออกได้เพียงทางเดียวคือทางลูกรังที่ชาวบ้านช่วยกันทำ น้ำล้อมรอบหมดแล้ว” นายศักดิ์ชัย กล่าว
ด้าน นายจงกล โนจา สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ เขต อ.ฮอด กล่าวว่า พื้นที่ ต.นาคอเรือ 10 หมู่บ้าน กับ ต.ฮอด 5 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทั้งหมด 15 หมู่บ้าน ต้องทำทางเลี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านซึ่งเป็นเส้นทางเดิม
“ถนนทางไปนาคอเรือได้รับผลกระทบมาตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมแล้ว ส่วนบ้านถนนโค้งงามไปบ้านแควมะกอก ถนนน้ำท่วมเมื่อวานนี้ไม่สามารถเดินทางได้ จากการที่เขื่อนภูมิพลกักเก็บน้ำไว้ น้ำท่วมที่ทำกินและที่อยู่อาศัยบางส่วน แต่มันใช่ครั้งแรกที่ท่วม“ นายจงกล กล่าว
นายจงกล กล่าวอีกว่า ความแตกต่างของน้ำท่วมคือครั้งนี้มวลน้ำมาเร็วมาก ชาวบ้านเตรียมรับมือไม่ทัน ส่งผลด้านการคมนาคม และน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร
“ถนนดินลูกรังเวลาที่ฝนตกจะลื่นแต่เวลาแห้งแล้งจะเป็นฝุ่น ปัญหาสุขภาพอนามัยก็ตามมา กระทบการส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาล เด็กไม่ได้ไปโรงเรียน คนไปทำงานในตัวอำเภอไม่ได้ เราถูกกระทำมานานควรที่จะลุกขึ้นมาจัดการตัวเองของพี่น้องในพื้นที่บ้างว่าเราเสียสิทธิได้รับผลกระทบ หน่วยงานไหนจะมาช่วย เราควรออกแบบการใช้ชีวิตในระยะยาวหลายๆด้าน ที่ดินบางส่วนไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการกักเก็บน้ำ เป็นพื้นราชพัสดุกรมธนารักษ์ เรายอมรับพื้นที่อ่างเก็บน้ำแต่บางพื้นที่ไม่ได้ถูกใช้ตามวัตถุประสงค์ในการเวนคืนที่ดิน หรือบางแห่งเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมแต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ต้องอิงกับนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้านควรจะแก้ไขให้ยั่งยืน ถ้าไม่เช่นนั้นเวลาฝนตกน้ำท่วมถ้าไม่กักเก็บน้ำก็เป็นพื้นที่แล้ง พี่น้องก็จะเป็นครึ่งบกครึ่งน้ำอย่างนี้ เรื่องการคมนาคมเราน่าจะมาออกแบบให้มันจบ“ สมาชิกสภาเกษตรกร จ.เชียงใหม่ กล่าว
ในขณะที่ นายจรัญ นะวะโต ประธานชมรมกะเหรี่ยงโผล่ง และภาคีเครือข่ายคนพื้นเมืองตำบลฮอด-นาคอเรือ อดีตกำนัน ต.นาคอเรือ อ.ฮอด กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ประชุมกันก็หลายครั้งอยากให้ทางป่าไม้ผ่อนปรนทำถนนทางเบี่ยงตีนดอยห้วยแม่เหาะ จากนาคอเรือ แต่เจ้าหน้าที่ป่าและอุทยานก็บอกว่าทำไม่ได้
“ถนนในพื้นที่ป่ามีตั้งนานแล้วเราแค่จะไปทำให้ผิวจราจรมันใช้ได้สะดวกสบาย อบจ.เชียงใหม่ ทางหลวงชนบท คุยกันแล้วก็อยากมาทำแต่ป่าไม้ไม่อนุญาต แล้วถนนฮอดไปแม่สะเรียง อมก๋อย ออบหลวง ก็เป็นเขตอุทยานเหมือนกัน แต่ทำไมทำได้ พี่น้องนาคอเรือไม่ใช่คนไทยหรือ บางครั้งเขาก็ไม่คิดกันไกล” อดีตกำนัน กล่าว
นายจรัญ กล่าวอีกว่า เขื่อนภูมิพลกักเก็บน้ำไว้เยอะปล่อยมากไม่ได้จะกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนทำให้เวลาน้ำมาเยอะน้ำจะท่วมขึ้นมาถึงถนนซึ่งเป็นดินลูกรัง
“เราในฐานะที่ได้รับผลกระทบทางป่าไม้หรืออุทยานน่าจะคิดถึงเราบ้างว่าถนนเส้นนี้ต้องใช้สัญจรไปมาเป็นหลักตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้แก้ไขอย่างถาวรไม่ใช่มีปัญหาแล้วมาแก้ไขมันไม่ทันเวลา พวกเราอุตส่าห์เสียสละที่อยู่ที่ทำกินให้กับประเทศชาติแล้ว สิทธิในที่ดินทำกิน ใบเอกสารสิทธิก็ไม่ได้ งบสร้างถนนในกทม.มากมาย ทีถนนตรงนี้นิดหน่อยหาว่าติดป่าไม้ ติดอุทยาน ถ้าผมมีตำแหน่งตอนน้ำขึ้นแบบนี้ผมจะจัดให้ชุดใหญ่เลย ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน“ อดีตกำนัน ต.นาคอเรือ กล่าว
ประธานชมรมกะเหรี่ยงโผล่ง กล่าวถึงการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างเขื่อนภูมิพลว่า คนที่รัฐจ่ายเงินชดเชยค่าเวนคืนหลายคนย้ายไปตั้งรกรากในพื้นที่อื่น คนที่ยังอยู่ตอนนี้บางครอบครัวไม่ได้เงินชดเชย ขณะนั้นตนเพิ่งเกิดได้ 3 วัน แม่ต้องอุ้มขึ้นมาอยู่พื้นที่ข้างบน
“ปู่ย่าตายายหาพื้นที่อาศัยทำกินติดแม่น้ำปิงอุดมสมบูรณ์ วันหนึ่งรัฐบาลจะสร้างเขื่อน เราไม่อยากย้ายก็จำเป็นต้องย้าย พวกคนที่ได้เงินเวนคืนเยอะเขาก็ไปอยู่แม่ฮ่องสอน หรือ อ.แม่แตง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ คนที่ยังอยู่คือไม่ได้เงินชดเชยอยู่กันตามมีตามเกิดขยับหนีน้ำไปเรื่อยๆ จนมาติดตีนดอยทางป่าไม้ก็มาบอกว่าบุกรุกพื้นที่อุทยาน การปกครองต้องใช้ทั้งนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ใช้กฎหมายอย่างเดียวมันอยู่กันไม่ได้หรอกประชาชนเดือดร้อน“นายจรัญ กล่าว
ทั้งนี้ข้อมูลจากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ www.thaiwater.net สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ระบุว่าเขื่อนภูมิพล จ. ตาก มีปริมาณน้ำกักเก็บ 13,035 ล้าน ลบ.ม. หรือ 97 % ซึ่งถือว่าทุบสถิติในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 พบว่าในวันเดียวกัน ปริมาณน้ำยังเหลืออีกเพียง 363 ล้าน ลบ.ม. ก็จะมีปริมาณมากเท่ากันอยู่ที่ 13,397 ล้าน ลบ.ม.
———-




