เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 พ.ท.หน่าย มอซอ โฆษกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง(Karen Border Guard Force-BGF) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา BGF ได้ปฏิบัติการปราบปรามสแกมเมอร์ครั้งหนึ่งแล้ว และครั้งนี้สถานการณ์กลับมามีผลกระทบอีกครั้ง แก๊งสแกมเมอร์เริ่มมีการขยับขยายสร้างความวุ่นวาย และความไม่สงบมากขึ้น BGF ต้องการให้เป็นพื้นที่ธุรกิจที่ขาวสะอาด จึงได้มีการวางแผนไว้ 3 แบบ ไล่จาก A, B และ C แต่ตอนนี้ไม่รอแล้ว จะต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาด เพราะอยากให้บ้านใกล้เรือนเคียง และทั่วโลกรับรู้ว่า เราไม่สนับสนุนสแกมเมอร์ และรัฐบาลเมียนมา ก็ต่อต้านเรื่องนี้มาตลอด
“พวกเรา BGF ต้องการต่อต้านแก๊งสแกมเมอร์ ปราบปรามให้ราบคาบสิ้นสุดภายในไม่กี่วันนี้ โดยจะทำในพื้นที่ชเวก๊กโก่ และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ต้องทำให้หมดไปให้รู้ว่าปฏิบัติการครั้งนี้ จะทำให้ทั่วโลกได้เห็น ถือเป็นการแสดงจุดยืนว่าต้องการปราบปรามครั้งนี้ให้ราบคาบ”โฆษก BGF กล่าว
พ.ท.หน่าย มอซอ กล่าวว่า การปราบปรามครั้งนี้เป็นความตั้งใจของ BGF ไม่เกี่ยวกับแรงกดดันที่รัฐบาลเมียนมาปราบปรามที่เคเคปาร์ค เพราะ BGF มีชุดปฏิบัติการต่อต้านสแกมเมอร์อยู่แล้ว และถึงเวลาที่ต้องปฏิบัติเพื่อปราบปรามให้ราบคาบโดยสิ้นเชิง
พ.ท.หน่าย มอซอ กล่าวอีกว่า หลังปราบครั้งแรกตอนช่วงเดือนมีนาคม แก๊งสแกมเมอร์มีการย้ายถิ่นฐานออกไป แต่ได้กลับมามีการแอบทำเป็นจุด ๆ หรือในบางพื้นที่ เราจึงต้องออกมาปราบปรามเพิ่ม ซึ่งจะอยู่บริเวณรอบนอก ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองชเวก๊กโก่ คาดว่าจำนวนประมาณ 1,000 – 2,000 คน และต้องดำเนินการจับก่อน ถึงจะรู้ว่ามีสัญชาติใดบ้าง ซึ่งการดำเนินการคงไม่มีความรุนแรง เพราะแก๊งสแกมเมอร์ๆไม่มีอาวุธ แต่หากมีการหลบหนีทะลักเข้าฝั่งไทย ก็ได้มีการประสานเบื้องต้นไว้แล้ว
ส่วนจะสามารถทำได้จริงเด็ดขาดหรือไม่ เพราะอาจถูกมองว่าสร้างภาพ พ.ท.หน่าย มอซอ ยืนยันว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องต่อต้านสแกมเมอร์เหล่านี้ออกไปให้หมด เพราะจะให้อยู่ต่อไม่ได้ ไม่งั้นจะสร้างปัญหาให้บ้านใกล้เรือนเคียง และทั่วโลก ถึงเวลาที่ต้องปราบให้สิ้นซาก
สำหรับกรณีที่สหรัฐฯ มีประกาศคว่ำบาตร เป็นเหตุให้เกิดการกดดันจนต้องมาปราบด้วยหรือไม่ พ.ท.หน่าย มอซอ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการกดดันของสหรัฐฯ แต่ถึงเวลาที่ต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาด และไปประจวบเหมาะกับแรงกดดันของสหรัฐฯ โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับห้วงเวลานั้นเลย เช่นเดียวกับการกดดันของทางการจีนก็ไม่เกี่ยวข้อง
“ จริง ๆ แล้วเป็นความตั้งใจของผู้นำกองกำลัง BGF มากกว่า ตามหลักแล้ว เราแค่ใช้เช่าพื้นที่ แต่ไม่มีการมารับเรื่องสแกมเมอร์หรือรู้เห็นเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แค่ให้เช่าพื้นที่ จึงตั้งใจขับไล่ออกจากพื้นที่ของเขา และถือเป็นการประกาศ และขับไล่แก๊งสแกมเมอร์ออกจากพื้นที่ของ BGF”โฆษก BGF กล่าว
พ.ท.หน่าย มอซอ กล่าวต่อว่า เราต้องทำเพราะมี 5 ขั้นตอนที่เป็นภาพพจน์ของรัฐกระเหรี่ยง, ภาพพจน์ของประเทศ, ภาพพจน์ของคน, ภาพพจน์ของกำลัง BGF และภาพพจน์เกี่ยวกับกับผู้นำ BGF ที่ถูกกล่าวหา
“ฝากไปถึงรัฐบาลไทยว่า อยากให้ขอความร่วมมือ และขอความเห็น ในการปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย โดยตั้งแต่ปฏิบัติการครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม มีจำนวนคนที่จะต้องส่งคืนค้างอยู่ 100 กว่าคน ที่ไม่ได้ติดต่อตอบรับมีทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ เซียราลีโอน, บุรุนดี, ตูกู, ไต้หวัน และ ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ในความดูแลของ BGF มา 8 เดือนแล้ว
เบื้องต้นมีกว่า 1,267 คน กว่า 40 ประเทศ และเตรียมทอยส่งให้ไทย ยืนยันไม่เคยหยุด ส่งไปตลอด ตั้งแต่ปฏิบัติการครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม รวมแล้วหว่า 10,324 คน ส่งไปแล้ว 9,057 คนที่ส่งกลับประเทศไปแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมทั้ง 13 ประเทศ และยังเหลือค้างอีก 27 ประเทศ อยากให้ทุกประเทศ ร่วมมือนำคนของประเทศตัวเองกลับไป ถ้ากลับไปไว้เหมือนอินเดีย ฟิลิปปินส์ จีน ก็จะดี จะได้จบ ๆ งาน ปิดจ็อบงานไป” พ.ท.หน่าย มอซอ กล่าว
พ.ท.หน่าย มอซอ กล่าวต่อว่า หากยิ่งปล่อยไป เราก็ต้องใช้ทหารของเรามาดูแลสแกมเมอร์ ทั้งดูแลเรื่องความปลอดภัย ทำให้ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น
ส่วนที่ มิน อ่อง ลาย ประกาศให้การปราบสแกมเมอร์ เป็นวาระแห่งชาติของทางเมียนมานั้น พ.ท.หน่าย มอซอ กล่าวว่า ใช่ ปฏิบัติการครี้งนี้ก็ต้องรวมมือกับรัฐบาลเมียนมาด้วย และเราจะทำในนามของาน BGF อย่างเต็มที่
เมื่อถามถึงกรณีบ้านคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดฝั่งเคเคเปาร์ค พ.ท.หน่าย มอซอกล่าวว่า ก็มีหน่วยงานของรัฐบาลไทย และรัฐบาลเมียนมา ประสานกันแล้ว และทางกองกำลัง BGF จะประสานรัฐบาลเมียนมาให้อีกครั้ง เพื่อดูเรื่องผลกระทบจากการทำลายสิ่งก่อสร้างในเคเคปาร์ค
“เราจะเริ่มปฏิบัติการต่อต้านแก๊งสแกมเมอร์ให้เด็ดขาด และอีกไม่กี่วันน่าจะได้เห็นกัน” พ.ท.หน่าย มอซอ กล่าว
