เมื่อวันที่19 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าว Tai Freedom สื่อของไทใหญ่รายงานว่า พล.อ.เจ้ายอดศึก ผู้นำสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองกำลังรัฐฉานใต้ (Restoration Council of Shan State/the Shan State Army – South) พร้อมภรรยาและคณะได้เดินทางไปร่วมงานโรงเรียนปริยัติธรรมและให้กำลังใจนักเรียนมัธยมปลายที่สอบผ่านในชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนรัฐบาลพม่าและบัณฑิตที่เรียนจบจากทั้งในและนอกประเทศ
นอกจากนี้พล.อ.เจ้ายอดศึกยังได้เข้าร่วมงานปีใหม่ไทใหญ่ที่ตำบลบ้านหาด เมืองลางเคอ รัฐฉาน ตรงข้ามกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีประชาชนมาต้อนรับอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้พล.อ.เจ้ายอดศึกได้เดินทางเข้าร่วมงานครบรอบ 25 ปี ของโรงเรียนปริยัติธรรมในพื้นที่ โดยโรงเรียนแห่งนี้ยังเปิดการเรียนการสอนด้านภาษาและวัฒนธรรมไทใหญ่ ซึ่งในช่วงหนึ่ง พล.อ.เจ้ายอดศึกได้กล่าวว่า หากไม่เคารพภาษาของตน ก็จะทำให้รากเหง้าและวัฒนธรรมหายไปด้วย ถึงเวลาที่คนไทใหญ่ต้องตื่นตัวรักษาภาษา วัฒนธรรมและตื่นตัวรักชาติ
“เรามีรัฐฉานเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปขอใคร เราเพียงแต่ต้องรักและดูแลบ้านเมืองของเรา” พล.อ.เจ้ายอดศึก กล่าว
นอกจากนี้ บางช่วงบางตอน พล.อ.เจ้ายอดศึกยังกล่าวว่า ความขัดแย้งทางทหารจะเกิดขึ้นได้ด้วย 3 สาเหตุคือ 1. การกลืนและข่มเหงทางเชื้อชาติ 2.การแย่งพื้นที่ การแย่งที่ดิน และ 3.การแย่งทรัพยากรทางธรรมชาติ รวมถึงเรื่องเงินทองก็ทำให้เกิดความขัดแย้งทางทหารได้
มีรายงานว่า ผู้นำ RCSS/SSA ยังเข้าร่วมงานปีใหม่ไทใหญ่ ซึ่งปีใหม่นี้จะตรงกับปี 2120 ของไทใหญ่ นอกจากเจ้ายอดศึกแล้ว ยังมีพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน/กองกำลังรัฐฉานเหนือ SSPP/SSA (Shan State Progress Party/Shan State Army) รวมถึงกองพลที่ 7 ซึ่งเป็นกองกำลังไทใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งที่ลงนามหยุดยิงกับกองทัพพม่าก็ได้เข้าร่วมงานเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ตำบลบ้านหาดเมืองลางเคอ ประกอบด้วย 36 หมู่บ้าน โดยสื่อ Tai Freedom ระบุว่า ประชาชนในพื้นที่นี้มีความตั้งใจในด้านการศึกษาของเยาวชนและประชาชนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีนักเรียนจบการศึกษาจากโรงเรียนในพื้นที่ ในปี 2568 ถึงจำนวน 2,316 คน
ด้านสำนักข่าว Ngao Leng Mun Mai รายงานว่า องค์กรแห่งชาติปะโอ PNO (Pa-O National Organization) หรือกองกำลังแห่งชาติปะโอ (Pa-O National Army -PNA) ซึ่งเป็นพันธมิตรของกองทัพพม่าได้บังคับเกณฑ์ทหารใหม่ตามหมู่บ้านทางภาคใต้ของรัฐฉาน โดยมีการบังคับให้ส่งทหารใหม่จำนวน 15- 20 คน ต่อ 1 หมู่บ้าน ซึ่งทหารใหม่เหล่านี้จะถูกส่งไปยังพื้นที่สู้รบแนวหน้าตรงชายแดนรัฐฉาน – รัฐคะเรนนีเพื่อเสริมทัพให้กับกองทัพพม่า
มีรายงานว่า PNO ได้บังคับเกณฑ์ทหารในหลายหมู่บ้าน เช่น ที่หมู่บ้านถิโค หมู่บ้านถิรี หมู่บ้านน่ำป๋อน หมู่บ้านหลอยน้อย หมู่บ้านหย่องเลปิ่น โดยทหารใหม่ที่ถูกเกณฑ์เหล่านี้ถูกส่งตัวไปเสริมทัพในเมืองปาย เมืองป๋างลอง เมืองผายขุน (เป่โข่ง) ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบติดชายแดนรัฐคะเรนนี โดยมีการส่งทหารใหม่ไปในแนวหน้าตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งเผยว่า ยังไม่พบเห็นทหารใหม่ที่ถูกส่งไปในพื้นที่สู้รบกลับมาสักราย ทหารใหม่บางรายยังไม่ได้เข้าร่วมฝึกอบรมทหาร แต่ต้องถูกส่งตัวไปในแนวหน้า
อีกด้านหนึ่ง ในเขตเมืองป๋างลอง ทางใต้ของรัฐฉาน มีการเสริมทหารของ PNO จำนวนมาก สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ มีรายงานบังคับให้ชาวบ้านในพื้นที่สวมเครื่องแบบทหารเฝ้ายาม รวมทั้งต้องทำอาหารส่งข้าวส่งน้ำให้กับทหารของ PNO ทุกวัน
