เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2568 สื่อมวลชนในพม่าหลายสำนัก อาทิ สำนักข่าว Mizzima สำนักข่าว Irrawaddy สำนักข่าว DVB รายงานในทำนองเดียงกันว่า มีประชาชนในพม่าในหลายพื้นที่ออกมาใช้สิทธิ์น้อยในการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยทางการพม่าเปิดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 16.00 น. ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่ทางการพม่ายกย่องการเลือกครั้งนี้จะนำประเทศกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งเป็นเพียงการจัดฉากให้กองทัพพม่าอยู่ในอำนาจต่อไปเท่านั้น
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า มีประชาชนมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งน้อยในกรุงย่างกุ้ง อาทิ ในเมือง ‘ติ่งกั่นยุ้น’ เขต 8 และ 9 ในเมืองมะหยั่นโก่ง อย่างไรก็ตาม กลับพบมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในเมือง ‘มอบี’สูงกว่าในเขตพื้นที่อื่นๆของเมืองย่างกุ้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ใกล้กับกองบัญชาการทหารพม่า
สื่อพม่ารายงานว่า บางหน่วยเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิ์น้อย เห็นได้จากมีการต่อแถวเข้าคิวเพียงไม่กี่คน ขณะที่มีเพียง 12 เมือง ในเขตย่างกุ้งที่จะเข้าร่วมในการเลือกตั้งครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม 2568 ส่วนสถานการณ์เลือกตั้งในเมืองหลวงเนปีดอว์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพพม่า สำนักข่าว Mizzima รายงานว่า เต็มไปด้วยบรรยากาศความหวาดกลัวและการบังคับให้ประชาชนปฏิบัติตาม โดยเฉพาะในเมือง’ซาบูธีรี และเมือง ‘ปิ่นมะนา แม้จะพบเห็นผู้คนต่อแถวประมาณ 150 ถึง 200 คนในบางหน่วยเลือกตั้งในช่วงเช้า แต่กลับพบว่าหน่วยเลือกตั้งอีกหลายแห่งกลับว่างเปล่า โดยพบมีผู้มาใช้สิทธิ์น้อยกว่า 100 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ชาวบ้านรายหนึ่งในเมืองซาบูธีรีกล่าวว่า ต้องไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งหลังจากเพื่อนบ้านได้เตือนว่า กองทัพจะดำเนินการกับผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิ์ “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันควรจะเลือกใคร”
ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกคนกล่าวว่า รู้สึกถึงความไร้อำนาจ
“ในเมื่อชื่อของฉันอยู่ในรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ฉันก็ไม่กล้าที่จะไม่ไปลงคะแนน ฉันไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรเองเลยในเรื่องนี้” ชาวบ้านกล่าว
มีรายงานว่า มีประชาชนบางส่วนในเมืองเนปีดอว์ยังคงสับสนการลงคะแนน นอกจากนี้ ความกดดันนี้ขยายไปถึงข้าราชการในพื้นที่ด้วย โดยเจ้าหน้าที่รัฐบอกกับสำนักข่าว Mizzima ว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงได้ออกคำเตือนในช่วงหลายวันก่อนการเลือกตั้ง โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการยืนยันว่าตนได้ลงคะแนนเสียงแล้ว ผู้ที่ไม่ทำตามจะได้รับแจ้งว่าพวกเขาจะต้อง “แก้ปัญหาด้วยตนเอง” ซึ่งเป็นคำพูดที่ใช้เพื่อเลี่ยงความหมายว่าต้องเผชิญกับผลกระทบทางด้านกฎหมายหรือถูกจัดการ
มีรายงานอีกว่า ตามหน่วยเลือกตั้งในเมืองเนปีดอว์พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และทหารประจำการอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอีกด้วย
ด้านพล.อ.มินอ่องหลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่าได้มาลงคนแนนเสียงเลือกตั้งในเนปีดอว์พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จัดโดยกองทัพ “เรารับประกันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม และเราไม่อาจปล่อยให้ชื่อเสียงของเราเสื่อมเสียได้”
เมื่อถูกถามว่าเขาจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีหลังการเลือกตั้งหรือไม่ ผู้นำพม่ากล่าวว่า “ผมเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะข้าราชการพลเรือน ผมไม่สามารถพูดได้ว่าผมอยากเป็นอะไรหรืออยากทำอะไร ผมไม่ใช่ผู้นำพรรคการเมืองด้วย เมื่อรัฐสภาเปิดประชุม ก็จะมีกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะได้รับการเลือกตั้งตามกระบวนการนั้น ผมคิดว่าควรจะมีการพูดคุยกันเฉพาะในเวลานั้นเท่านั้น”
ขณะที่สำนักข่าว Irrawaddy รายงานสถานการณ์เลือกตั้งในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ2 ของพม่าว่า มีการแจ้งจากหน่วยงานท้องถิ่นให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้กับพรรคสายทหารอย่างพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (The Union Solidarity and Development Party- USDP)
ทางด้านชาวบ้านในเมืองปะเต่ง เมืองหลวงของเขตอิรวดีเปิดเผยกับสำนักข่าว DVB ว่า มีเพียงเจ้าหน้าที่ข้าราชการเท่านั้นที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และพบว่า ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยมาก
ขณะที่สำนักข่าว SHAN รายงานสถานการณ์เลือกตั้งในรัฐฉานว่า พบมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยเช่นเดียวกัน บางหน่วยเลือกตั้งต้องปิดหีบเร็วกว่าที่มีการกำหนด เนื่องจากไม่มีผู้มาเลือกตั้งแล้ว โดยชาวบ้านเผยว่า ไม่ได้รู้สึกตื่นตัวกับการเลือกตั้งในครั้งนี้และ ไม่รู้จะลงคะแนนเสียงให้ใคร
มีรายงานด้วยว่า ในบางพื้นที่ของรัฐฉานไม่สามารถใช้สัญญาณโทรศัพท์ได้ อีกทั้งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ในบางหน่วยเลือกตั้งยังมีการห้ามประชาชนนำโทรศัพท์เข้าไปในหน่วยเลือกตั้งและยังห้ามบันทึกภาพบรรยากาศการเลือกตั้งอีกด้วย
“ผมไม่คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศนี้ได้” หม่านติ๊ต วัย 23 ปี ผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งหลังรัฐประหารกล่าวกับสื่อ AFP “ผมคิดว่าการโจมตีทางอากาศและการกระทำโหดร้ายต่อบ้านเกิดของเราจะยังคงดำเนินต่อไปแม้หลังการเลือกตั้งแล้ว” เขา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหลายพื้นที่และหลายเมืองของพม่าได้เกิดการทิ้งระเบิดโดยโดรน รวมทั้งการวางระเบิดในสถานที่ที่จัดการเลือกตั้ง ทำให้ทางการพม่าสั่งคุมเข้ม




