เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2557 นางเรณู ทะเลมอญ ชาวไทยเชื้อสายอุรักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นายทุนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งชาวเลอาศัยอยู่ รวมถึงบ้านที่ตนอาศัย ได้เตรียมสร้างกำแพงและประตูซึ่งจะมีผลให้ชาวบ้านไม่สามารถลงไปดูเรือที่จอดไว้หน้าหาดได้นั้น ล่าสุดพวกตนได้เข้าไปเจรจากับคนงานก่อสร้างและนายทุนที่ซื้อที่ดินในบริเวณใกล้กับบ้านของตนและเพื่อนบ้านอีก 8 หลังคาเรือน เพื่อขอให้ยุติการก่อสร้างกำแพงกั้นเขตที่ดิน ขนาดกว่า 1 ไร่ เพราะต้องการให้คณะกรรมการแกไขปัญหาชาวเลชุดที่มีพลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง เป็นประธาน ได้มีโอกาสร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อกรณีพิพาทที่ดินบนเกาะก่อน แต่นายทุนกลับไม่ฟังและยังเดินหน้าสร้างกำแพงต่อไป
นางเรณูกล่าวว่า ตนอยากให้มีการตรวจสอบความไม่โปร่งใสของกระบวนการครอบครองที่ดิน เพื่อที่อย่างน้อยจะได้ไม่เป็นปัญหาระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเอกสารสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ และนายทุนที่รับซื้อเองจะได้ไม่เสียเวลากับการปรับปรุงพื้นที่ และชาวเลเองจะได้ใช้ทางเดินลงทะเลได้เหมือนเดิมเพราะเส้นทางนี้ถือว่าเป็นทางสาธารณะที่พวกตนใช้กันมานาน อย่างไรก็ตามระหว่างที่ตนและสามีกำลังบันทึกภาพการก่อสร้างไว้ เพื่อเป็นหลักฐานแต่กลับถูกข่มขู่ทำร้ายร่าง
“เขาบอกเราว่า ปัญหาชาวเลเกิดกับเจ้าของที่ดิน ไม่เกี่ยวไม่กับเขา เขาเป็นแค่คนซื้อต่อ ต้องไปเจรจากันเองกับเจ้าของที่ แต่ที่ตรงนี้ซื้อเสร็จแล้ว เป็นสิทธิของเขาในการทำอะไรก็ได้ ที่พวกเราห่วงคือการก่อสร้างไปเร็วมาก เราไม่รู้คำขู่ทำร้ายจะเป็นจริงไหม แต่เราต้องการให้มีความยุติธรรมกับเราบ้าง เพราะที่ดินตรงนี้ไร่กว่าๆ ยังไม่รู้เลยเอกสารสิทธิ์ออกให้โดยใคร ทำเมื่อไหร่ แต่เราขอความร่วมมือแล้วกลับไม่ได้ เราจึงต้องรอให้ทางรัฐหรือทหาร หรือใครก็ได้มาช่วยเหลือเราก่อน เราอยากให้ปัญหาถูกแก้โดยเร็ว ตอนนี้ทุกคนกลัวและวิตกกันมาก ชาวบ้านที่เคยต่อต้านก็อยู่อย่างระแวง” นางเรณู กล่าว
พล.อ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้ประสานงานไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีของนางเรณูไปก่อน โดยคณะกรรมการฯชุดที่ตนเป็นประธานจะเดินทางไปลงพื้นที่ในวันที่ 11 กันยายน นี้
