
กรณีนักศึกษาพม่าที่ออกมาเดินเท้าประท้วงรัฐบาลพม่า เรียกร้องให้แก้กฎหมายด้านการศึกษา ขณะนี้พบว่า มีนักศึกษาจากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจากทางภาคใต้ของประเทศได้เข้าร่วมเดินประท้วงเพื่อเดินทางไปยังกรุงย่างกุ้ง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาคุมเข้ม
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราว 400 นาย ถูกส่งมาประจำในเมืองดีดะเย ภาคอิรวดี ห่างจากกรุงย่างกุ้งไป 90 กิโลเมตร หลังกลุ่มนักศึกษาราว 200 คนที่เดินทางจากเมืองปะเต่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา จะเดินทางถึงเมืองดีดะเยในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
จ่อเท็ต หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมประท้วงกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ถอยหลัง และถ้าหากมีการใช้ความรุนแรงต่อนักศึกษาจะไม่เกิดผลประโยชน์ใดๆ ต่อใคร นอกจากนี้กล่าวว่า หากรัฐบาลรับข้อเสนอของกลุ่มนักศึกษา นักศึกษาก็พร้อมที่จะยุติการประท้วงและเดินทางกลับบ้าน
นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าร่วมประท้วงยังเรียกร้องให้ใช้การเจรจาอย่างสันติระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักศึกษาในกรณีหากเกิดการเผชิญหน้ากัน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เปิดเผยว่า การเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ก็เพื่อเข้ามาดูแลรักษาปลอดภัย ไม่ได้เข้ามาเพื่อขัดขวางการประท้วงของนักศึกษาแต่อย่างใด ขณะที่นักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งจากเมืองทวาย ขณะนี้เดินทางถึงเมืองเมาะละแหม่ง ในรัฐมอญ เพื่อสมทบกับนักศึกษาในพื้นที่ และรอกลุ่มผู้ประท้วงจากเมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง เพื่อเดินทางไปยังกรุงย่างกุ้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกำหนดการชัดเจนว่าจะเดินทางไปยังกรุงย่างกุ้ง ซึ่งมีระยะทาง 300 กิโลเมตร เมื่อไหร่ โดยการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าของการประท้วงของกลุ่มอื่นๆ ที่จะเดินทางไปยังกรุงย่างกุ้ง
ทางด้านกลุ่มนักศึกษากลุ่มแรกเริ่มเดินเท้าประท้วงจากเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้มีหลายกลุ่มได้เข้าร่วมและมีผู้ร่วมประท้วงราว 100 คนเดินทางถึงภาคพะโคเมื่อวันจันทร์ (9 ก.พ.)ที่ผ่านมา และได้หยุดพักที่เมืองพเย ห่างจากย่างกุ้งไปประมาณ 270 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าตำรวจ 30 นาย มาประจำระหว่างภาคมะกวยและพะโค แต่ไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มนักศึกษาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลพม่าตั้งคำถามว่า การประท้วงครั้งนี้ของนักศึกษามีความชอบธรรมหรือไม่ โดยยังกล่าวหานักการเมืองหัวรุนแรงและองค์กรต่างประเทศว่าอยู่เบื้องหลังการประท้วงของนักศึกษาครั้งนี้
ที่มา Irrawaddy