การสู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ใกล้เมืองเหล่ากาย เขตปกครองพิเศษโกก้างระหว่างกองทัพพม่าและกำลังโกก้าง หรือ กองทัพสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตยพม่า (MNDAA-Myanmar National Democratic Alliance Army) ส่งผลให้ชาวโกก้างราว 4 -5 หมื่นคนหนีภัยสู้รบข้ามไปยังเมืองหนานส่าน (Nansan) ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิงและคนชรา ล่าสุดมีรายงานว่า จีนได้ปิดพรมแดนแล้ว และได้จัดตั้งศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในฝั่งพม่าแทน
สถานีโทรทัศน์ของจีน China’s Phoenix New Media TV รายงานก่อนหน้านี้ว่า มีผู้ลี้ภัยจากพม่ามากกว่า 100,000 คน ลี้ภัยสู้รบมายังจีน ที่เมืองหนานส่าน โดยชาวโกก้างได้ยืนต่อแถวยาว 10 กิโลเมตรที่ด่านตรงชายแดนเพื่อเข้าไปยังประเทศจีน ขณะที่มีประชาชนนับพันที่ลักลอบเข้าประเทศจีนอย่างผิดกฎหมาย
ในเวลาต่อมาทางการจีนได้จัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับชาวโกก้างขึ้น ห่างจากชายแดนพม่าไปเพียง 100 เมตร และได้นำอาหาร น้ำดื่มและเสื้อผ้ามามอบแก่ผู้ลี้ภัย อย่างไรก็ตาม มีรายงานในเวลาต่อมาว่าทางการจีนได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าทหารมาประจำชายแดนติดพม่า เพื่อไม่ให้ผู้ลี้ภัยเข้าไปยังฝั่งจีนเพิ่ม
ทางด้านประชาชนในเมืองหนานส่านเปิดเผยว่า จำนวนผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่ทะลักเข้าเมืองหนานส่าน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ส่งผลให้ราคาสิ่งของเครื่องใช้และอาหารมีราคาสูงขึ้น
“รถติดไปทุกที่ ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น แม้แต่ค่าโรงแรมจากปกติ 50 – 60 หยวนต่อคืน ตอนนี้ขึ้นเป็น 200 หยวนต่อคืน” ชาวบ้านในพื้นที่คนหนึ่งกล่าว
ขณะที่มีรายงานว่า เมืองเหล่ากาย เมืองหลวงของเขตปกครองโกก้าง ซึ่งห่างจากเมืองหนานส่านไป 8 กิโลเมตรแทบจะกลายเป็นเมืองร้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทางด้านฝ่ายโกก้างออกมาอ้างว่า การสู้กับพม่าเมื่อหลายวันที่ผ่านมา สามารถสังหารทหารพม่าได้ 100 นาย ส่วนสื่อพม่ายอมรับว่า มีทหารของกองทัพเสียชีวิตจากเหตุปะทะกับโกก้าง 47 นาย บาดเจ็บ 73 นาย พร้อมยอมรับว่าได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังโกก้าง
ทั้งนี้ นักรบโกก้างราว 1,000 นาย ร่วมกับทหารจากกองกำลังอื่นอีกกว่า 100 คนได้รบกับทหารพพม่า 13 แห่งในเมืองเหล่ากาย ซึ่งทางโกก้างพยายามที่จะชิงเขตพื้นที่ปกครองพิเศษคืนจากกองทัพพม่า หลังสูญเสียเมืองในปี 2552
ทางด้านสื่อของพม่ารายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ ชาวโกก้างเป็นเชื้อสายชาวจีนและพูดภาษาจีน โดยเขตปกครองของโกก้างตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน
ที่มา DVB/Irrawaddy