เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 ที่สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร บางเขน กทม. นายบดินทร์ รัศมีเทศ ว่าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.)บางเขน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมก.ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะศาสตราจารย์(ศ.)ระพี สาคริก อดีตอธิการบดีมก. โดยมีพระอาจารย์ธวัชชัย ธมมทีโป จากศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ บ้านวังเมือง จังหวัดพังงา ร่วมหารือ ทั้งนี้ศ.ระพีได้แจกงานเขียนเรื่อง “ผู้บริหารบนพื้นฐานของความเป็นครู” ให้ทุกคน
ทั้งนี้บรรยากาศในการพูดคุยกันเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยศ.ระพีได้เล่าถึงการทำงานในยุคก่อน ขณะที่นายบดินทร์ได้เรียนเชิญศ.ระพีร่วมงานในวันสงกรานต์ แต่ตรงกับช่วงที่ศ.ระพีเดินทางไปปฎิบัติภารกิจในต่างประเทศ ศ.ระพีจึงไปไม่ได้
“ผมอยากเห็นมหาวิทยาลัยเกษตรพ้นสักที เพราะจมมานาน ไม่ใช่ผมพูดเองน่ะ แต่ประชาชนเขามอง เด็กๆ ที่ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์มา ก็มาเล่าให้ฟังเพราะเขาก็เดือดร้อนมาก ศิษย์เก่ามก.ก็เดือดร้อนเพราะรับฟังมากจากเกษตรกรรายเล็กรายน้อย ท่าน(อธิการ)มาตอนนี้ดีแล้วเพราะเป็นช่วงที่กำลังปรับเปลี่ยน หากมาหลังจากนี้จะลำบาก” ศ.ระพีกล่าวกับนายบดินทร์และคณะผู้บริหารมก.
ศ.ระพีกล่าวว่า ขณะนี้การจัดการศึกษาของไทยเป็นรูพรุนไปหมด ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันเยียวยาและหาทางปะรูรั่วโดยเริ่มต้นจากตัวเองก่อน
นายบดินทร์กล่าวว่า บุคลากรของมก.เป็นที่พึ่งพิงของประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งคณะผู้บริหารยุคนี้ต้องตอบโจทย์ของสังคมเพื่อความกินดีอยู่ดีของคนในประเทศ แต่เราจะปฎิเสธวิทยาศาสตร์ไม่ได้
เมื่อนายบดินทร์กล่าวถึงตรงนี้ ศ.ระพีได้กล่าวสวนว่า “ไม่จริง” แต่ยังไม่ทันได้อธิบาย นายบดินทร์กล่าวต่อไปว่าวันนี้ที่พวกตนเดินทางมาเพื่อแสดงความเคารพศ.ระพี และยืนยันที่จะปฎิบัติหน้าที่ตามปณิธานของมก.ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้น ระหว่างที่นายบดินทร์เดินออกมาจากห้องทำงานศ.ระพี ได้มีนิสิตมก.4 คนยืนถือป้ายคัดค้านการออกนอกระบบของมก.โดยตัวแทนได้สอบถามนายบดินทร์ถึงการไม่เปิดโอกาสให้นิสิตมีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งนายบดินทร์ตอบว่า ขอให้นิสิตอย่าวิตกกังวลมากนักเพราะการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบได้ทำกันมานาน สิ่งไหนที่ยังไม่เกิดก็อย่าไปคิดมาก
นายบดินทร์ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าเยี่ยมคารวะศ.ระพี ว่ามาเยี่ยมเยือนธรรมดาและเป็นไปตามปกติ เพราะทุกคนในมก.ต่างเป็นพี่น้องญาติมิตรกัน และหารือกันอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีปัญหาอะไรก็คุยกัน แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเวทีรับฟัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศิษย์เก่าจำนวนมากไม่สบายใจที่เห็นบทบาทของมก.เอื้อไปทางบริษัทยักษ์ใหญ่มากกว่าเกษตรกรราย่อย นายบดินทร์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะหน้าที่หลักคือการผลิตนิสิตออกมาทำงานให้ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมก.ต้องตอบโจทย์ทุกคน ที่สำคัญคือไม่มีใครครอบงำมก.ได้ มีแต่มก.จะไปครอบงำคนอื่น
นายบดินทร์กล่าวถึงเรื่องการนำมก.ออกนอกระบบ ว่าได้ดำเนินการมาอย่างเป็นกระบวนการ ซึ่งขณะนี้หลายมหาวิทยาลัยต่างก็ออกนอกระบบไปแล้ว ซึ่งตรงไหนที่เป็นจุดอ่อน มก.ก็จะต้องทำให้ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการนำมก.ออกนอกระบบ ศ.ระพีขอให้ลบชื่อท่านออกจากถนน อาคารและสวนกล้วยไม้ในมก.จะทำอย่างไร นายบดินทร์กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น โดยในวันที่ 7 เมษายน จะมีการเปิดเวทีให้บุคลากรของมก.ร่วมแสดงความคิดเห็น
ศ.ระพีให้สัมภาษณ์ว่า หากมีการผลักดันให้มก.ออกนอกระบบจริง ตนยังยืนยันเหมือนเดิม คือให้ลบชื่อตนออกจากชื่อถนน อาคารและสวนกล้วยไม้ เพราะไม่อยากเปรอะเปื้อน แต่ยังทำงานต่อไปเพราะไม่เคยลืมเกษตรกร
“ถ้าเขาทำอย่างนั้นได้ ผมก็ทำอย่างนี้ได้ ผมยังมั่นคงที่จะยืนอยู่เคียงข้างเกษตรกรและชาวบ้าน ผมพูดอะไรไว้ไม่เคยลืม” ศ.ระพีกล่าว
——————
