เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายจำนงค์ จิตนิรัตน์ ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.)หรือพีมูฟ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 เมษายน ชาวบ้านกว่า 1 พันคนจากทั่วประเทศจะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าข้อเรียกร้องที่เคยยื่นให้รัฐบาลไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2557 เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเท่าที่ควร
ทั้งนี้เมื่อครั้งที่ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโดยมีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งได้มีการประชุมไปแล้ว 1 ครั้ง และได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแก้ปัญหาด้านต่างๆ 8 ชุด แต่หลังจากนั้นมาก็ไม่มีการประชุมอีกเลย ทำให้ไม่มีความคืบหน้าใดๆเกิดขึ้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยรับปากจะแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว
นายจำนงค์กล่าวว่า กรณีโฉนดชุมชนซึ่งผ่านกระบวนการพิจารณาขั้นตอนต่างๆเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการต่อ ขณะเดียวกันรัฐบาลกลับไปใช้นโยบายการใช้ประโยชน์ที่ดินร่วม ทำให้เกิดความสับสนว่ารัฐบาลสนับสนุนโฉนดชุมชนจริงหรือไม่ ในทางตรงกันข้าม ชาวบ้านที่อาศัยอยู่กับป่าและหลายพื้นที่อยู่ในโครงการขอโฉนดชุมชนกลับถูกจับกุมและรุกไล่จากหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ต้องอยู่อย่างหวาดผวา ที่น่ากลัวคือบางพื้นที่เกิดสถานการณ์ความรุนแรงถึงขั้นสังหารแกนนำและจนถึงบัดนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ที่ก่อเหตุได้ มิหนำซ้ำชาวบ้านที่ถูกกระทำกลับถูกนำตัวไปปรับทัศนคติ
นายจำนงค์กล่าวว่า สถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเมืองกับรัฐบาลกำลังส่อเค้ารุนแรงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองนับพันครอบครัวก็กำลังได้รับความเดือนร้อนจากโครงการแผนจัดการน้ำของรัฐบาล
“การเดินทางมาหน้าทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ของชาวบ้าน เพราะพวกเราต้องการให้มีการผลักดันให้สำนักงานโฉนดชุมชนทำงานเต็มที่ โดยประกาศพื้นที่โฉนดชุมชน 57 แห่งซึ่งจะทำให้ประชาชน 2.5 หมื่นครอบครัวมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและลดความเหลื่อมล้ำได้ นอกจากนี้เราขอให้มีการทบทวนแผนแม่บทป่าไม้พร้อมทั้งจ่ายค่าเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และต้องการให้รัฐบาลนำร่องดำเนินการธนาคารที่ดินภาคเหนือ 5 ชุมชน เพื่อให้เป็นตัวอย่างการแก้ไขปัญหาที่ดินของคนจน”นายจำนงค์ กล่าว
ที่ปรึกษาพีมูฟกล่าวว่า พีมูฟอยากเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบที่ดินที่หมดอายุสัมปทานจากเอกชนทั่วประเทศ และนำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรให้ประชาชนที่ยังไม่มีที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งเชื่อว่าที่ดินจำนวนนี้มีอยู่มากมาย และอีกข้อเรียกร้อยหนึ่งคืออยากให้รัฐบาลผลักดันกฎหมาย 4 ฉบับซึ่งประกอบด้วย พรบ.ภาษีอัตราก้าวหน้า พรบ.ธนาคารที่ดิน พรบ.โฉนดชุมชนและพรบ.กองทุนยุติธรรม ซึ่งขณะนี้หน่วยงานรัฐต่างเสนอร่างกฎหมายเหล่านี้ที่เขียนโดยคนของรัฐ แต่ภาคประชาชนไม่รับรู้เลย ทั้งพรบ.กองทุนยุติธรรมและพรบ.ภาษีที่ดิน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลควรทบทวนเพื่อให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมเป็นสำคัญ
———————-