นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค NLD ได้กล่าวระหว่างปิดการประชุมของพรรคที่ย่างกุ้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ความสำเร็จของประชาธิปไตยในพม่า ขึ้นอยู่กับทางพรรค NLD จะชนะการเลือกตั้งในปลายปีนี้อย่างถล่มทลาย โดยให้คำมั่นสัญญาว่า หากพรรคประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งจะไม่ทำตัวเป็นอันธพาล อย่างไรก็ตาม โดยจนถึงขณะนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทางพรรค NLD จะลงชิงชัยเลือกตั้งใหญ่หรือไม่
“เราจะเป็นมิตรกับศัตรู เช่นเดียวกันจะให้มิตรของเรายืนหยัดเพื่อเราโดยไม่ให้พวกเขาเสียใจ เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยความสามัคคีไปสู่ประชาธิปไตยสหภาพ นี่คือสิ่งที่ฉันอยากให้ทุกคนทั้งหมดได้รู้ไว้” นางซูจีกล่าว
ผู้นำพรรค NLD ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมร่วมกับพรรคเป็นเวลา 2 วัน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการตัดสินใจร่วมกันในหลายประเด็นสำคัญ เช่น การประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ทั้งนี้ นางซูจีระบุ ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จของพรรค NLD แต่เพื่อประชาธิปไตยสหภาพและเพื่อให้ประชาชนได้มาซึ่งสิทธิสมบูรณ์
ในระหว่างแถลงข่าว พรรค NLD ยังเปิดเผยว่า ทางพรรคจะช่วยในการตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ โดยการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของทางการพม่าที่ผ่านมาพบว่ายังพบมีข้อมูลผิดพลาดเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้ทางพรรคคาดหวังจะชนะการเลือกตั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พรรค NLD จะลงชิงชัยเลือกตั้งในปลายปีนี้หรือไม่
วินมิ้น คณะกรรมการกลางพรรค NLD เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พรรคจะออกมาประกาศว่าจะลงเลือกตั้งหรือไม่ หลังจากทางคณะกรรมการเลือกตั้งพม่าออกมาประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน โดยยังกล่าวว่า การตัดสินใจใดๆ ของพรรคจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะมีการแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้นางซูจีขึ้นเป็นประธานาธิบดีหรือไม่ “เราไม่เคยพูดว่า เราจะร่วมลงเลือกตั้ง หากรัฐธรรมนูญอนุญาตให้อองซาน ซูจี เป็นประธานาธิบดี”วินมิ้น กล่าว
เมื่อถามถึงประเด็นที่นางซูจีได้กล่าวไว้ว่า เปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร นายวินมิ้นได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า พรรค USDP ของรัฐบาลนั้นเป็นคู่แข่งของพรรค NLD แต่หากทางพรรค USDP ต้องการที่จะทำสิ่งดีๆให้กับประเทศ ทางพรรค NLD ก็พร้อมจะร่วมมือด้วย โดยนายวินมิ้น มองว่า การปฏิรูปประเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ควรจะเป็นที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ดังนั้นพรรค NLD จึงเป็นมิตรกับทุกคน รวมถึงพรรค USDP และกองทัพด้วย นายวินมิ้นกล่าว
การเลือกตั้งในปี 2533 ได้ชื่อว่าเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม จึงทำให้ผลการเลือกตั้ง พรรค NLD ชนะเลือกตั้งเสียงข้างมาก แต่ทหารไม่ยอมให้ขึ้นมาบริหารประเทศและคว่ำกระดานเลือกตั้งครั้งนั้น ในขณะที่นางซูจีถูกกีดกันไม่ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี เนื่องจากในรัฐธรรมนูญปี 2551 ที่ทหารร่างขึ้น ในข้อกฎหมายที่ 59 ระบุว่า บุตรหรือคู่สมรสผู้นำประเทศจะต้องไม่ถือสัญชาติอื่น ในขณะที่ทราบกันดีว่า สามีที่เสียชีวิตไปแล้วของนางซูจี และบุตรชายทั้งสองคนนั้นถือสัญชาติอื่น
ที่มา Irrawaddy