เมื่อวันอังคาร (7 ก.ค.)ที่ผ่านมา รัฐสภาพม่าได้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของหญิงชาวพุทธ ซึ่งกำหนดให้หญิงชาวพุทธที่จะแต่งงานกับชายที่นับถือศาสนาอื่นจะต้องขออนุญาตจากผู้นำชุมชนก่อน ขณะที่กฎหมายนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นการจำกัดสิทธิสตรีในประเทศหรือไม่ ขณะที่หากประธานาธิบดีเต็งเส่งเซ็นอนุมัติ ร่างกฎหมายนี้จะถูกประกาศใช้เป็นกฎหมาย
มีรายงานว่า ในรัฐสภาพม่ามีการโหวตเห็นด้วยอย่างท่วมท้นกับร่างกฎหมายฉบับนี้ถึง 524 เสียง ไม่เห็นด้วย 44 เสียง และไม่ออกเสียง 8 เสียง ก่อนหน้าที่จะถึงวันลงคะแนนเสียง มีรายงานว่า ส.ส.หญิงชาวชิน จากพรรค Chin National Democratic Party ได้ออกมาเรียกร้องให้คัดค้านกฎหมายดังกล่าว โดยเห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเป็นการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มชาติพันธุ์ที่นับถือศาสนาต่างออกไป
กฎหมายการแต่งงานของหญิงชาวพุทธเป็นอีก 1 ใน 4 ร่างกฎหมายซึ่งประกอบด้วย 1.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนศาสนา 2.ร่างกฎหมายคู่สมรส 3.ร่างกฎหมายการควบคุมประชากรและด้านสุขภาพ 4.ร่างกฎหมายการแต่งงานของหญิงชาวพุทธ ที่ถูกนำเสนอโดยกลุ่มพระสงฆ์หัวรุนแรง “มะบะทะ”(Ma Ba Tha) และถูกนำเข้าสภาโดยประธานาธิบดีเต็งเส่ง โดยเป็นกลุ่มกฎหมายที่อ้างว่า เพื่อปกป้องเชื้อชาติและศาสนา
ก่อนหน้านี้ พม่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังทางรัฐสภาพม่าผ่านร่างกฎหมายการควบคุมประชากร เมื่อเดือน พ.ค.ซึ่งกำหนดให้สตรีสามารถมีบุตรได้ 1 คน แต่ต้องเว้นระยะห่างเป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ นานาชาติและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ร่างกฎหมายทั้ง 4 ว่าไม่เหมาะสมและละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงอาจทำให้ประชาธิปไตยในพม่าต้องสะดุด
ที่มา Irrawaddy