
หลังประกาศภาวะฉุกเฉินจากเหตุน้ำท่วม ใน 4 พื้นที่คือ เขตสะกาย เขตมะเกว รัฐชิน และรัฐอาระกัน ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมสูงถึง 45 คน และผู้ได้รับผลกระทบ 150,000 คน ใน 11 รัฐและเขต ขณะที่คาดว่า ตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบน่าจะสูงขึ้น เนื่องจากมีบางพื้นที่ซึ่งยังเข้าไม่ถึง ด้านประธานาธิบดีเต็งเส่งลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตสกาย ขณะที่เต็งเส่งกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ที่ทำงานล่าช้าในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและรับมือกับภัยพิบัติ
ทั้งนี้ พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักที่สุดในขณะนี้คือ เขตมะกวย ทางตอนกลางของประเทศ รัฐอาระกัน ทางตะวันตกของประเทศ รัฐชินและเขตสกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ทั้งนี้ ที่เมืองกะเล เขตสกาย มีรายงานระดับน้ำสูงถึง 2.5 เมตรในพื้นที่ การช่วยเหลือและเข้าถึงประชาชนสามารถทำได้ทางอากาศเท่านั้น ขณะที่น้ำท่วมในเขตสกายเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ในอำเภอ มินบู เขตมะกวย พบระดับน้ำแม่น้ำอิรวดีสูง 17 เมตร สูงเลยจุดอันตรายและได้เข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้ประชาชนจากบ้านเรือน 1,000 หลังต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 – 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในเขื่อนมอน(Mon) และเขื่อนมาน (Mann)เริ่มล้น ทำให้ต้องระบายน้ำบางส่วน ส่งผลให้ประชาชนใน 300 หมู่บ้านใน 4 เมือง คือเมืองซีโด้กทะยา ผวิ่นบยู เมืองหง่าปี้ และเมืองสะกู้ ต้องไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งทั้ง 2 เขื่อนนี้ เป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำในพื้นที่ไหลลงสู่แม่น้ำอิรวดี
ทั้งนี้พบปัญหาประชาชนบางส่วนในเขตมะเกวไม่สามารถหาที่พักพิงชั่วคราวได้ แม้หน่วยงานจากภาคประชาสังคมและรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่นี้ แต่ยังพบประชาชนจำนวนมากยังขาดแคลนอาหาร น้ำดื่มและยารักษาโรค โดยในพื้นที่นี้ยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ส่วนรัฐอาระกันนั้นถือว่าประสบภัยหนักที่สุด นอกจากต้องเจอน้ำท่วมฉับพลันแล้วยังเจอกับลมมรสุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานระดับน้ำท่วมสูงถึง 4.5 เมตรในพื้นที่ จนถึงขณะนี้มีประชาชน 8,638 คนได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือน 100,000 หลังได้รับความเสียหาย ขณะที่ทางการพม่าเพิ่งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ยังมีประชาชนในรัฐอาระกันอีก 33,848 คนอยู่ในสถานการณ์อันตราย จนถึงขณะนี้มีประชาชนในรัฐนี้เสียชีวิตแล้ว 18 คน ส่วนใหญ่มาจากสาเหตุเรือจม
ขณะที่มีการตั้งศูนย์บรรเทาทุกข์ชั่วคราว 130 แห่งทั่วรัฐอาระกัน โดยกองทัพได้นำเฮลิคอปเตอร์นำอาหารไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยหนักสุดเช่นที่เมืองมรัคอูและที่เมืองมินบยา ทั้งนี้ สถานการณ์ในรัฐอาระกันน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนมากกว่า 100,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญา ซึ่งไร้บ้านจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางศาสนาเมื่อหลายปีก่อน และอาศัยอยู่ภายในแคมป์ชั่วคราวที่มีสภาพความเป็นอยู่เลวร้าย ส่วนสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของพม่ารายงานว่า จะยังมีฝนตกหนักและลมแรงทั่วทุกพื้นที่ของประเทศต่อเนื่องไปอีกและสภาพอากาศยังคงแปรปรวน โดยเฉพาะในรัฐอาระกัน
ที่มา Eleven Media Group/DVB