
หลังจากที่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางกองกำลังโกก้าง(MNDAA) กองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติอาระอั้ง(TNLA) และกองทัพอาระกัน (Arakan Army -AA) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเชิญฝ่ายพม่าหารือเจรจาหยุดยิง แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีท่าทีใดๆ ตอบรับจากฝ่ายรัฐบาลพม่า อีกด้านหนึ่งมีกระแสข่าวออกมาว่า นายอองมิน ผู้นำทีมเจรจาสันติภาพกับชนกลุ่มน้อย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลพม่า ปฏิเสธที่จะลงนามหยุดยิงกับกลุ่มโกก้างหรือพันธมิตรของโกก้าง
สำนักข่าว Tai Freedom รายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการหารือกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มชาติพันธุ์ เมิ่อวันที่ 7 สค. ที่ผ่านมาว่า เหลือข้อตกลงเพียงข้อเดียวที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ นั่นคือให้ทุกกลุ่มชาติพันธุ์รวมทั้ง โกก้าง ดาระอั้ง TNLA และกองทัพอาระกันเข้าร่วมในการลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ หรือการหยุดยิงแห่งชาติ Nationwide ceasefire agreement (NCA) ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องจากกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ แต่ทางพม่ายังไม่เห็นด้วยกับข้อนี้
ที่ผ่านมา ฝ่ายพม่าไม่ยอมรับทั้ง 3 กลุ่มนี้ ซึ่งยังทำสงครามกันอย่างต่อเนื่อง มีเพียง 14 กลุ่มที่รัฐบาลพม่ายอมรับและให้เข้าร่วมลงนามหยุดยิง ขณะที่นายอองมินกล่าวว่า อยากให้การลงนามหยุดยิงทั่วประเทศเสร็จสิ้นก่อนเดือนกันยายน เนื่องจากเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป ทางรัฐบาลจะยุ่งเกี่ยวกับการเตรียมการเลือกตั้ง อีกทั้งระบุว่า หลังการลงนามแล้วเสร็จภายใน 90 วัน จะดำเนินการเจรจาหารือทางการเมืองร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่มีการหารือระหว่างพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ย่างกุ้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางกองทัพพม่าได้รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ควบคุมของกองทัพรัฐฉานเหนือ/พรรคก้าวหน้ารัฐฉาน (Shan State Arrmy/Shan State Progress Party- SSA/SSPP)พร้อมทั้งได้ยิงปืนใส่ในพื้นที่ของ SSA/SSPP ซึ่งการกระทำดังกล่าวถูกทางไทใหญ่โจมตีว่า กองทัพพม่าต้องการทำลายกระบวนการสันติภาพ อีกทั้งนักวิเคราะห์มองว่า กองทัพพม่าอาจต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อไม่ให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในขณะที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกที
ขณะที่มีรายงานออกมาว่า นายทหารระดับสูงของกองทัพพม่าจำนวน 45 คน ที่เพิ่งเกษียนอายุราชการเมื่อเร็วๆ นี้ เตรียมเข้าร่วมกับพรรค USDP ของรัฐบาลเพื่อลงเลือกตั้งในเดือน พ.ย.นี้ ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงกลาโหมของพม่ารวมอยู่ด้วย
ที่มา Eleven Media Group/Tai Freedom/Irrawaddy