หลังการปลด นาย ทุระ ฉ่วยหม่าน ออกจากการเป็นหัวหน้าพรรครัฐบาล USDP และนายหม่องหม่อง เต็ง จากการเป็นเลขาธิการของพรรคอน่างกระทันหันเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (13 ส.ค.) มีรายงานว่า หนังสือพิมพ์ The Union Daily ของพรรค USDP ได้ออกมาประกาศผ่าน Facebook ว่าเตรียมปิดตัวลงกะทันหันในวันศุกร์นี้ หลังมีข่าวออกมาว่า เจ้าหน้าที่ได้ล้อมสำนักงานของพรรค USDP ไว้ และห้ามสมาชิกออกจากสำนักงาน
หนังสือพิมพ์ The Union Daily ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2556 มียอดตีพิมพ์ 10,000 ฉบับต่อวัน ซึ่งทางผู้สื่อข่าวคนหนึ่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อของหนังสือพิมพ์ The Union Daily กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการชี้แจงใดๆเกี่ยวกับการปิดตัวหนังสือพิมพ์ครั้งนี้ โดยรู้สึกตกใจกับที่สิ่งเกิดขึ้นและปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันพุธ(12 ส.ค.) ที่ผ่านมา
สถานการณ์ภายในของพรรค USDP ตึงเครียดอย่างหนัก หลังเกิดกระแสข่าวลือมากมายเกี่ยวกับความแย้งเพื่อแย่งชิงขั้วอำนาจภายในพรรค ระหว่างนายทุระ ฉ่วยหม่านและประธานาธิบดีเต็งเส่ง ทั้งนี้ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา มีรายงานว่า กองกำลังพิเศษของกองทัพพม่าได้ปิดล้อมสำนักงานของพรรค USDP โดยไม่แจ้ง ก่อนที่ในเวลาต่อมา พรรค USDP จะออกแถลงการณ์ว่านายฉ่วยหม่านนั้นพ้นจากตำแหน่งประธานพรรค USDP แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป รวมถึงตำแหน่งคณะกรรมการกลางของพรรคและผู้ลงสมัครในเขตเลือกตั้งเมืองพยู เขตพะโค โดยผู้ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนฉ่วยหม่านคือ นายเทอู
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พี ทาน ส.ส.จากพรรคแห่งชาติอาระกัน (Arakan National Party) ได้แสดงความคิดเห็นว่า อาจเป็นเพราะทางฉ่วยหม่านนั้นมีความสัมพันธุ์ใกล้ชิดกับนางอองซาน ซูจี มากเกินไป โดยระบุเพิ่มเติมว่า ซูจีไม่สามารถขึ้นเป็นประธานาธิบดี ในขณะที่ฉ่วยหม่านเองคิดว่าเขาคงจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากนางซูจี ความร่วมมือระหว่างทั้งสองคนก่อให้เกิดความสงสัย เรื่องจึงจบลงเช่นนี้ พี ทานกล่าว
ด้านนายจายยุ้นลวิน จากพรรคหัวเสือไทใหญ่ SNLD แสดงความกังวลที่มีกองกำลังพิเศษจากกองทัพเข้ามามีส่วนร่วมในการปลดนายฉ่วยหม่าน โดยแสดงความคิดเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ดีนักที่พรรคการเมืองรายล้อมไปด้วยทหาร และเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งอย่างไร นายจายยุ้นลวิน ยังกล่าวว่า เขาไม่ชอบการกระทำเช่นนี้และไม่คิดว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดี โดยจะเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกลิชิด
ที่มา Irrawaddy