
สมาชิกของพรรครัฐบาล USDP ออกมายืนยันว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่ง จะไม่ลงเลือกตั้งอีกสมัย ในวันที่ 8 พ.ย.นี้อย่างแน่นอน โดยระบุไม่ได้เกี่ยวข้องด้านปัญหาสุขภาพ แต่เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับรองประธานาธิบดี นายหน่านทุน ก็จะไม่ลงเลือกตั้งอีกสมัยเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้เต็งเส่งให้สัมภาษณ์ว่า จะลงเลือกตั้งหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนและสถานการณ์ในบ้านเมือง
การออกมาประกาศว่า เต็งเส่ง จะไม่ลงเลือกตั้งอีกสมัยเกิดขึ้นเพียง 1 วันก่อนที่นายฉ่วยหม่านจะถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานพรรค USDP ทางด้านนายซอว์เท เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักงานประธานาธิบดีให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ คาดว่าเต็งเส่งนั้นยังคงเป็นหนึ่งในผู้ที่จะถูกเสนอให้ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยหน้า ถึงแม้จะไม่ลงเลือกตั้งหรือเป็นสมาชิกของรัฐสภาก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า ประธานาธิบดีไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งหรือเป็นสมาชิกรัฐสภา โดยเขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่งจะออกมาแถลงเรื่องนี้ด้วยตัวเองเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ ตัวเต็งที่ถูกมองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีพม่าสมัยหน้ามีอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ พลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า นายเต็งเส่ง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และนาย ทุระ ฉ่วยหม่าน ที่เพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งประธานพรรครัฐบาล USDP เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งนายฉ่วยหม่านยังมีสายสัมพันธ์อันดีกับนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน NLD โดยนายฉ่วยหม่านเคยประกาศไว้ว่า เขาพร้อมที่จะเป็นประธานาธิบดีหากได้รับการเสนอชื่อจากสมาชิกพรรค USDP ก่อนที่จะมาถูกปลดฟ้าผ่า ตอกย้ำถึงความขัดแย้งชิงอำนาจภายในพรรค USDP
อีกด้านหนึ่งในฝั่งของพรรคฝ่ายค้าน นางอองซาน ซูจี ประธานพรรค NLD ได้ลงพื้นที่ในเมืองมินลา เขตพะโค เรียกร้องให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้กับพรรค NLD เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลตามที่ประชาชนต้องการ นางซูจีกล่าวว่า เข้าใจถึงความยากลำบากของประชาชนดี แต่เธอไม่สามารถช่วยประชาชนได้หากไม่มีอำนาจ “ประเทศนี้ต้องการความเปลี่นแปลง การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิรูปรัฐบาล” นางซูจีกล่าว
นางซูจียังเดินสายลงพื้นที่ต่อในเมืองเล็ตปะด่อง โดยกล่าวเพิ่มเติมกับประชาชนว่า เธอเชื่อว่าถึงเวลาที่พม่าต้องเปลี่ยนแปลง โดยที่ผ่านมา 50 ปี พม่าได้พลาดโอกาสในการพัฒนาประเทศ “ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศเพื่อประโยชน์ของตัวเอง การกระทำที่ไม่ถามประชาชนคือการกระทำของเผด็จการ การปฏิรูปไม่อาจเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอน” นางซูจีกล่าว
ที่มา Eleven Media Group