
บรรยากาศการหาเสียงในวันแรกในพม่าเมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) เป็นไปอย่างคึกคัก หลายพรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียงตามเมืองใหญ่ๆ เช่น เมืองย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนปีอดอว์ รวมถึงเมืองอื่นๆ โดยคณะกรรมการเลือกตั้งพม่าได้ประกาศให้มีการรณรงค์หาเสียงได้เป็นเวลา 60 วัน ระหว่างวันที่ 8 ก.ย.- 6 พ.ย.2558

จนถึงขณะนี้ มีพรรคการเมืองลงชิงชัยทั้งสิ้น 92 พรรค และมีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งสิ้น 6,189 คน คณะกรรมการเลือกตั้งพม่าเปิดเขตเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,171 เขต ใน 330 เมืองทั่วประเทศ โดยจำนวนที่นั่งในสภาที่มาจากการเลือกตั้งและที่จะชิงชัยกันครั้งนี้มี 1,171 ที่นั่ง ประกอบด้วย
1.สภาผู้แทนราษฎร(Pyithu Hluttaw) 330 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งในแต่ละอำเภอละ 1 คน จากทั่วประเทศ 330 อำเภอ 2.วุฒิสภา หรือ สภาชนชาติ (Amyotha Hluttaw) 168 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ภาคหรือเขตละ 12 คน 3.สภาภูมิภาคและสภารัฐ(Region and State Hluttaws) 644 ที่นั่ง แต่ละอำเภอจะมี ส.ส. 2 ที่นั่ง แต่ละภาค/รัฐ จึงมีจำนวน ส.ส.ต่างกันไป ตามจำนวนอำเภอของตน และ 4.ผู้แทนชาติพันธุ์(Ethnic Hluttaw) 29 ที่นั่ง

มีรายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.นี้ นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค NLD และผู้สมัครคนอื่นๆ จะลงพื้นที่หาเสียงในเมืองกอว์มู เขตย่างกุ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นางซูจีเป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้ง นอกจากในเมืองใหญ่ๆ อย่างย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนปีดอว์แล้ว พรรค NLD ยังลงพื้นที่หาเสียงในเขตมะเกวด้วย โดยป้ายหาเสียงและสติกเกอร์หาเสียงของพรรค NLD มีข้อความว่า “ถึงเวลาเปลี่ยน” ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก

ขณะที่พรรค NLD ได้เผยแพร่สารจากนางซูจีเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า “ครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ประชาชนของเราจะมีโอกาสที่แท้จริง ในการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง เป็นโอกาสที่เราไม่สามารถปล่อยให้หลุดลอยไปได้”
ด้านพรรค USDP ของรัฐบาลก็ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ตามเมืองใหญ่ๆ ขณะที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้นในปีนี้คาดว่ามีอยู่ราว 30 ล้านคน

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองชาติพันธุ์ ทางพรรคหัวเสือไทใหญ่ SNLD ได้ประชุมสมาชิกพรรคเกี่ยวกับการลงพื้นที่หาเสียงที่เมืองป๋างโหลง ทางใต้ของรัฐฉาน ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งเจ้าฟ้าไทใหญ่และนายพลอองซาน เคยลงนามสัญญาป๋างโหลงเมื่อ 68 ปีที่แล้ว โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ที่พรรคหัวเสือลงเลือกตั้ง หลังลงเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 1990 และได้คะแนนเสียงอย่างถล่มทลายรองลงมาจากพรรค NLD แต่ทหารไม่ยอมให้ขึ้นมาบริหารประเทศ
ที่มา Eleven Media Group



