เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่โรงแรมริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มูลนิธิกระจกเงา ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การจัดการภัยพิบัติแบบบูรณาการระหว่างประเทศไทย ลาว และพม่า โดยนาง ด่อ ขิน ตาน นุ ทนายความ และสมาชิกพรรค NLD เมืองท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า ในปีนี้ในประพม่าเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ไม่ว่ารัฐชิน เมืองมะเกว ตอนกลางของพม่า หรือแม้แต่ในรัฐฉาน จากประสบการณ์ที่ได้รับจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น คือความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่เข้าถึงช้า การเข้าไปช่วยเหลือจากองค์กรภายนอกต้องผ่านรัฐบาล ทำให้บางทีความช่วยเหลือเข้าไม่ถึงชาวบ้านอย่าแท้จริง เช่น การบริจาคเสื้อผ้าจากประเทศไทย มีการเก็บภาษีนำเข้า จึงต้องตัดการรับบริจาคในส่วนนี้ไป
ขณะที่ตัวแทนจากประเทศลาว กล่าวว่า ความจริงในประเทศลาวเกิดภัยพิบัติหลายครั้งแต่ไม่เป็นข่าว ปัจจุบันในประเทศลาวมีการเปิดพื้นที่ให้ทำเหมืองหลายแห่ง ทำให้ป่าไม้ถูกทำลายด้วย และเมื่อน้ำท่วมจากการขยายตัวของเมือง ชาวบ้านก็มองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ
“บอกตามตรงประเทศลาวเรามีความพร้อมน้อยมากในการเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ สำหรับการเตือนภัยเฝ้าระวังสามารถทำได้แค่ 2-3 เมืองใหญ่เท่านั้น”ผู้แทนจากประเทศลาวกล่าว
ทั้งนี้เวทีแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศครั้งนี้ เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในระดับต่างๆนอกจากภาครัฐใน 3 ประเทศนี้ เพราะที่ผ่านมา เมื่อเกิดภัยพิบัติ เครือข่ายภาคประชาชนสามารถเข้าถึงให้ความช่วยเหลือได้ไวกว่า ขณะเดียวกันก็พยายามประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เพราะเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญในการเผยแพร่ความรู้เรื่องภายพิบัติสู่ชุมชน เพราะปัจจุบันเรื่องภัยพิบัติไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีต่อไป ทุกคนทุกหน่วยงานมีส่วนที่ต้องช่วยกัน เนื่องจากการพัฒนายังคงเดินหน้า ขณะที่สมดุลทางธรรมชาตินั้นได้เปลี่ยนแปลงไป