หลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU (Karen National Union)ตัดสินใจของที่จะลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับรัฐบาลพม่าในกลางเดือนนี้ ล่าสุด องค์กรภาคสังคมกะเหรี่ยง 41 องค์กร จากทั้งในและต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมโจมตีเกี่ยวกับท่าทีของผู้นำ KNU ในการตัดสินใจลงนามหยุดยิงครั้งนี้ ในขณะที่กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นด้วยกับการลงนาม
“ผู้นำใน KNU บางกลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ ได้แสดงให้เห็นถึงการขาดความโปร่งใสและขาดความรับผิดชอบต่อประชาชนชาวกะเหรี่ยง หรือต่อองค์กรของพวกเขาเอง ในการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตยการเร่งรีบลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการลงนามหยุดยิงที่กลุ่มชาติพันธุ์เพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เห็นด้วย เนื่องจากขัดต่อความประสงค์ของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ และขัดต่อความหมายที่แท้จริงของคำว่า การลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ” ในแถลงการณ์ระบุ
องค์กรภาคสังคมกะเหรี่ยงยังโจมตีว่า การตัดสินใจลงนามหยุดยิงทั่วประเทศครั้งนี้ KNU ละเมิดระเบียบการของตัวเอง อีกทั้งไม่แจ้งหรือได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกลางส่วนใหญ่ของกลุ่ม นอกจากนี้ยังโจมตีว่า รัฐบาลพม่าและ KNU นั้นล้มเหลวในการสร้างความเชื่อใจระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ด้วยกัน และเห็นได้ชัดว่า กระบวนการสันติภาพในพม่านั้นไม่ได้สร้างความเชื่อใจและสร้างความมั่นใจให้กับชาวกะเหรี่ยงและชาติพันธุ์อื่นๆ อีกทั้ง KNU นั้นล้มเหลวในการหยุดกองทัพพม่าโจมตีรัฐคะฉิ่นและรัฐฉาน นอกจากนี้ในแถลงการณ์ระบุว่า ความสามัคคีคือความแข็งแกร่ง โดยถึงเวลาที่ผู้นำ KNU และผู้นำชาติพันธุ์อื่นๆที่ตัดสินใจลงนามหยุดยิงจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต
ทั้งนี้ KNU ก่อตั้งขึ้นมาต้งแต่ปี 2490 เป็นอีกกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ก่อตั้งมายาวนานและเป็นกลุ่มติดอาวุธที่มีความเข้มแข็งอีกกลุ่มหนึ่งในพม่า โดย KNU ได้ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลพม่าเมื่อปี 2555 ขณะที่กลุ่มติดอาวุธที่จะลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลในกลางเดือนนี้ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีชายแดนติดกับประเทศไทย ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ลงนามหยุดยิงส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ทางภาคตะวันออกและทางเหนือของประเทศติดชายแดนจีน
ที่มา Myanmar Times