เหตุการณ์สู้รบระหว่างทหารพม่าและทหารไทใหญ่เหนือ SSPP/SSA ทางภาคกลางของรัฐฉานยังเป็นไปอย่างดุเดือด ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ทหารไทใหญ่จำใจต้องสละทิ้งฐานที่มั่นสำคัญอย่าง ท่าเรือ “ท่าสามปู” เหตุไม่อยากให้การสู้รบยืดเยื้อ เหตุชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก อีกทั้งช่วงนี้เข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าว มีรายงานว่า สงครามทำให้ชาวบ้านต้องทิ้งบ้านเรือนของตัวเองหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า

ในคืนวันที่ 16 ตุลาคมทหารพม่ายังคงโจมตีทหารไทใหญ่ SSPP/SSA อย่างต่อเนื่อง โดยได้ยิงปืนใหญ่ขนาด 120 มม.ใส่ฐานบัญชาการใหญ่ “บ้านไฮ” ถึง 2 ครั้ง เหตุปะทะกันยังคงเกิดขึ้นถึงเช้าวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมที่หมู่บ้านเมืองอากและที่หมู่บ้านหลวย ในเขตเมืองสู้ ซึ่งห่างจากฐานบัญชาการใหญ่”บ้านไฮ” ไปเพียง 8 กิโลเมตร และยังคงเสริมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โฆษกของ SSPP/SSA เจ้าจายละ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Tai TV Online ว่า สิ่งที่อยากจะฝากไปยังพี่น้องประชาชนก็คือ ฝ่ายพม่ายังคงมุ่งร้ายต่อชาติพันธุ์ เห็นได้จากลงนามกับกลุ่มติดอาวุธบางกลุ่ม แต่อีกด้านหนึ่งยังคงเข้าโจมตีอีกกลุ่ม
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันรอบใหม่เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังทาง SSPP/SSA ปฏิเสธที่จะลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับรัฐบาลพม่าในวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุสู้รบทางภาคกลางของรัฐฉาน จนถึงขณะนี้ ทำให้มีผู้ลี้ภัยสงครามแล้วกว่า 1,500 คน ซึ่งต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน
อีกด้านหนึ่ง ทาง ดร.ซาไล งัน คัง เลน ผู้นำกองกำลังแนวร่วมแห่งชาติชิน (Chin National Front) ซึ่งเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ลงนามหยุดยิงกับพม่ากล่าวว่า ฝ่ายพม่าจะเคารพในข้อตกลงที่ร่วมกันทำในสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ อีกทั้งร้องขอให้กองทัพรัฐบาลยุติปฏิบัติการทางทหารในเขตกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งในเขตของกลุ่มที่ยังไม่ได้ลงนามหยุดยิง “กลุ่มชาติพันธุ์จะถืออาวุธขึ้นสู้เพื่อปกป้องตนเอง หากไม่มีการแก้ปัญหาทางการเมือง กลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้ต้องการความขัดแย้งทางทหาร ดังนั้นทั้งรัฐบาลและกลุ่มชาติพันธุ์จำเป็นต้องเคารพในข้อตกลง” ดร.ซาไล งัน คัง เลน กล่าว
ขณะที่ประธานของ KNU นายพลมูตู เซพอ กล่าวในระหว่างพิธีลงนามหยุดยิงทั่วประเทศเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า กองทัพพม่าต้องใช้วิธีเจรจามากกว่าการใช้กำลังทหารบังคับให้กลุ่มที่เหลือลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ
ที่มา Tai TV Online/Tai Freedom/Eleven Media Group