Search

ชาวบ้านริมแม่น้ำโขงยื่นอุทธรณ์คดีเขื่อนไซยะบุรี ยกเป็นกรณีตัวอย่างของผลกระทบข้ามแดนยุคเออีซี

12620437_10207708141397466_2088471532_o

วันนี้ (25 มกราคม 2559) เวลา 10.30 น. ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความและผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นขออุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ชาวบ้านจาก 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงได้ยื่นฟ้อง 5 หน่วยงานรัฐ รวมทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยนางสาว ส.รัตมณี กล่าวว่าคดีนี้เป็นคดีตัวอย่างสำหรับคดีข้ามพรมแดนอื่นๆ ซึ่งจะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ซึ่งศาลสามารถที่จะออกแนวปฏิบัติโดยใช้คำพิพากษาเป็นแนวทางในการคุ้มครองปัญหาผลกระทบข้ามพรมแดนได้ ซึ่งเชื่อว่าศาลปกครองสูงสุด จากที่เคยวินิจฉัยรับคำฟ้องไว้ ได้เห็นปัญหานี้ การมายื่นอุทธรณ์จึงมีความหวังที่จะเห็นคำพิพากษาที่มีความก้าวหน้าในการคุ้มครองปัญหาผลกระทบข้ามพรมแดน

นางสาวฐาปณี เมืองโคตร หนึ่งในผู้ฟ้องคดี จากบ้านป่งขาม ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่าเมื่อวานนี้ (24 มกราคม) ในช่วงเย็นเวลาราว 18.00 น.ตนได้นั่งรถรับจ้างเดินทางมาจากบ้านซึ่งอยู่ริมแม่น้ำโขง โดยนั่งรถทัวร์มาถึงสถานีขนส่งหมอชิตตอนเช้ามืดวันนี้ และเดินทางต่อมายังที่ศาลปกครอง เพราะยังมีความหวังและมั่นใจว่าศาลจะเป็นที่พึ่งของประชาชนและให้ความเป็นธรรมกับประชาชนลุ่มน้ำโขง เนื่องจากเชื่อในคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดที่รับฟ้องเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 และมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม

 

12421945_10207708141717474_1582986427_o

นางสาวฐาปณี กล่าวว่า สวนไผ่เลี้ยงริมน้ำโขงของตนได้รับผลกระทบจากความผันผวนของระดับน้ำโขงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งตนเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการสร้างเขื่อนแม่น้ำโขงตอนบนในประเทศจีน โดยน้ำขึ้นๆ ลงๆ ผิดปกติ ทำให้ตลิ่งพัง ทำให้ต้องสูญเสียที่ดินริมแม่น้ำไปแล้ว 2-3 ไร่ เช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืชผักริมโขงยิ่งเสียหายหนักกว่านี้ โดยปลูกผักไว้น้ำก็บ่าลงมาท่วมผิดฤดู

“ในเดือนที่ผ่านมาระดับน้ำโขงขึ้นๆ ลงๆ อย่างมาก เห็นข่าวว่าจีนกักน้ำในเขื่อน นี่หากสร้างเขื่อนไซยะบุรีเสร็จ อยู่ใกล้พรมแดนไทยที่อำเภอเชียงคาน เพียงร้อยกว่ากิโลเมตร คงจะยิ่งเกิดความเสียหายกับระบบนิเวศและชาวบ้านริมโขงสาหัสมากกว่านี้” นางสาวฐาปณี กล่าว

 

12620479_10207708144517544_145639829_o

ทั้งนี้เนื้อหาส่วนหนึ่งในคำอุทธรณ์ระบุว่า ขอให้ศาลมีคำสั่งกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของผู้ฟ้องคดี โดยพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 5 ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และมติของรัฐบาล รวมทั้งการแจ้งข้อมูลและการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเหมาะสม การรับฟังความคิดเห็นอย่างพอเพียงและจริงจัง การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสังคม ทั้งในฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากอันตรายข้ามพรมแดน ก่อนจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนไซยะบุรี

นอกจากนี้ในคำอุทธรณ์ยังระบุว่า คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ของสหประชาชาติ ได้มีการตั้งคำถามกับรัฐบาลไทยเกี่ยวกับปัญหาข้ามพรมแดนนี้ และมีการยกประเด็นเขื่อนไซยะบุรี ว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

—————–

On Key

Related Posts

เหยื่อค้ามนุษย์ 9 ชาติยื่นหนังสือร้อง กสม.ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษย์ริมน้ำเมย ร่ำไห้วอนรัฐบาลไทยสกัดแก๊งมาเฟียจีน แฉถูกทรมานสารพัด สุดอนาถแม้แต่หญิงท้องยังถูกบังคับจนพยายามฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ตัวแทนครอบครัวเหยื่อค้าRead More →