เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2559 นางสาวฉัตรพร พระอ๊ะ ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ( 17 มีนาคม 2559) ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีพร้อมลูกจ้างผู้อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ตนอาศัย เดินทางมายื่นใบประกาศให้ตนและครอบครัวรื้อสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัยปัจจุบันภายใน20 วัน โดยระบุว่าตนและครอบครัวสร้างศาลาพักพิงชั่วคราวในหาดทางตะวันออกของเกาะหลีเป๊ะ อยู่บนที่ดินการทำประโยชน์แบบ นส.3 ของนายณรงศักดิ์ ปัทมปาณีวงศ์ ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องตนให้ออกจากพื้นที่
นางสาวฉัตรพรกล่าวว่า ทางลูกจ้างนายทุนได้พยายามเจรจาอยู่นาน และระบุว่า หากสมาชิกในครอบครัวพระอ๊ะ ไม่รื้อบ้านออกก็จะส่งคนมารื้อออกตามอำนาจทางกฎหมาย โดยเบื้องต้นจะรื้อศาลาพักพิงชั่วคราวที่มีความกว้างยาว 5X5 เมตรก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บังคับคดีและลูกจ้างของนายทุนต่างอ้างว่าเป็นการรื้อถอนเพื่อเปิดทางเดินสาธารณะแก่นักท่องเที่ยว แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อ และคิดว่าการรื้อครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหลังมีนักลงทุนมาก่อสร้างที่พักนักท่องเที่ยวแห่งใหม่มากกว่า โดยส่วนตัวไม่คิดว่าศาลาดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคของการเดินไป-มาบนหาดแต่อย่างใด
นางสาวฉัตรพร กล่าวต่อว่า กรณีข้อพิพาทที่ดินดังกล่าวตนและครอบครัวเกิดความกังวลอย่างมาก เพราะสถานการณ์ขณะนี้ ชาวเลเกาะหลีเป๊ะกำลังลำบากกับการต่อสู้เรื่องที่ดินหลายราย โดยเมื่อปัญหาเกิดขึ้นต่อเนื่องตนก็พยายามเลือกหนทางเจรจากับนายทุน ซึ่งเมื่อปี2558 ตนและพี่ชายชื่อนายหัตติเริง พระอ๊ะ ได้เจรจาไปแล้วหลายครั้งและนายทุนรายไม่ได้มีปัญหาใดๆ แต่ต่อมากลับมาบอกกับตนว่า พี่ชายได้ลงลายมือชื่อยอมรับการรื้อถอนแล้ว ดังนั้นต้องทำตามหนังสือยินยอมที่เคยลงนามไว้ ซึ่งจนถึงปัจจุบันตนยังไม่เคยทราบว่าหนังสือดังกล่าวมีข้อความอย่างไรบ้าง มีเพียงหนังสือจากฝ่ายบังคับคดีเท่านั้น
ด้านนายจำนงค์ จิตนิรัตน์ อนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากตัวแทนชาวเลว่าพรุ่งนี้(19มีนาคม)ชาวเลจะส่งหนังสือถึง กสม.เพื่อขอให้ช่วยประสานงานหน่วยงานรัฐให้ชะลอการบังคับคดีตามประกาศของสำนักบังคับคดีในกรณีที่เกิดข้อพิพาทที่ดินเกาะหลีเป๊ะ รวมถึงชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวเลออกไป ก่อนจนกว่าจะมีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์เสร็จสิ้น
////////////////////