![ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ชาวเล ราไวย์](https://transbordernews.in.th/home/wp-content/uploads/received_868442836617112.jpeg)
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2559 นายสงัด หาดวารี ชาวเลหาดราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุมชนเกิดน้ำท่วมสูงเกือบถึงหัวเข่าแล้ว เนื่องจากสองถึงสามวันที่ผ่านมาฝนตกต่อเนื่องและเส้นทางสาธารณะถูกปิดโดยบริษัทเอกชน คลองที่เคยระบายน้ำออกสู่ทะเลถูกดินถมทับ ทำให้ชาวเลหลายครัวเรือนประสบความเดือดร้อน โดยส่วนมากก็ต้องเตรียมจัดระเบียบบ้านเรือนและเฝ้าสถานการณ์น้ำ กลัวว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจะทำให้ทรัพย์สินในบ้านเกิดความเสียหาย ทั้งนี้จากการหารือภายในชุมชน ชาวบ้านพยายามจะช่วยกันสาดน้ำหรือระบายน้ำออก แต่เอกชนยังอ้างกรรมสิทธิ์อยู่เกรงว่าถ้าชาวเลข้ามกำแพงเข้าไปแล้วจะเจอฟ้องข้อหาบุกรุกที่อีก
“หน้าลมอย่างนี้เราออกไปทะเลไม่บ่อยนัก ส่วนมากก็เฝ้าเรือ เฝ้าบ้าน หางานรับจ้างรายวันไป แต่ทำอะไรมากไม่ค่อยได้เพราะน้ำมันขึ้นเรื่อยๆ และดูท่าทีฝนไม่หยุดง่ายๆ เราขอร้องให้ทางจังหวัดเจรจาเปิดทางสาธารณะ และขอร้องให้เขาอย่าถมที่ทับคลองเลย ก็ไม่เคยได้ผล แล้ววันนี้เราก็ต้องมาแบกรับภาระน้ำท่วมชุมชน และไม่รู้ว่าจะหนักแค่ไหน โรงแรมใหญ่ๆ เขามีกำแพง มีที่ดินที่สูงกว่าเรา เขาอยู่ได้แต่เราอยู่ไม่ได้” นายสงัด กล่าว
![ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ชาวเล ราไวย์](https://transbordernews.in.th/home/wp-content/uploads/received_868442756617120-1024x768.jpeg)
นายสงัด กล่าวด้วยว่า ในอดีตราว10กว่าปีที่แล้ว แม้จะถึงหน้ามรสุมลมแรง สถานการณ์น้ำในพื้นที่ก็ไม่น่าห่วง ชาวเลยังไม่เคยเจอวิกฤตขนาดนี้ แต่มาปีนี้น้ำเริ่มท่วมสูงขึ้น เป็นไปได้ว่าในอนาคตก็เสี่ยงต่อการท่วมหนักเช่นกัน ดังนั้นปัญหาความขัดแย้งในที่ดินระหว่างชาวเลราไวย์ จึงไม่ใช้แค่การแย่งชิงที่ดินอยู่อาศัย แต่เป็นการคุกคามคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ด้วย ซึ่งหากในอนาคตทุกคนเจอกับผลกระทบจากน้ำท่วม ชีวิตก็จะลำบากมากขึ้น เพราะขณะนี้ชาวเลเจอทั้งเรื่องความไม่มั่นคงทั้งที่อยู่ ที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณ ซึ่งหากครั้งนี้ฝ่ายเอกชนไม่ยอมเปิดทางระบายน้ำชุมชนราไวย์จะเดือดร้อนหนักเพราะส่วนมากสร้างบ้านด้วยสังกะสี หรือปูน ชั้นเดียวไม่ได้มีมาตรฐานชั้นดี เมื่อน้ำท่วมก็หาที่อยู่ลำบาก เพราะไม่มีพื้นที่เก็บข้าวของ
ด้านนางแสงโสม หาญทะเล ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ฝนตกบนเกาะหลีเป๊ะน่าห่วงไม่ต่างจากชุมชนหาดราไวย์ แต่ยังไม่ท่วมมาก อย่างไรก็ตามชาวบ้านต้องเฝ้าสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะแต่ละปี ชุมชนหลีเป๊ะมีน้ำท่วมขังประจำ
แหล่งข่าวในชุมชนเกาะหลีเป๊ะ ระบุด้วยว่า เมื่อถึงฤดูฝนชาวบ้านไม่ได้เผชิญแค่น้ำท่วมเท่านั้น แต่ยังต้องเสี่ยงเผชิญกับแหล่งน้ำธรรมชาติที่เน่าเสียจากขยะปริมาณหลายตันที่เกิดจากการท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย บางครั้งเมื่อน้ำท่วม หากโรงแรมที่พักระบายน้ำไม่ทันและจัดการขยะไม่ทัน เกาะหลีเป๊ะก็จะมีขยะเกลื่อนทั่วชุมชน ทั้งนี้ชาวบ้านจะดูสถานการณ์ต่อเนื่องเพราะกังวลว่าถ้าฝนตกหนักชุมชนจะท่วมหนักกว่าเดิม
อนึ่งนับตั้งแต่มีการพัฒนาการท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ และมีการก่อสร้างที่พัก ร้านอาหารโดยเอกชนต่อเนื่อง ส่งผลให้ที่ดินถูกอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองส่วนบุคคลแทบทุกแปลง กระทั่งเหลือถนนที่สามารถเดินออกสู่ทะเล อันเป็นทางสาธารณะแค่เส้นทางเดียว ส่วนถนนสายอื่นมักถูกเปิด-ปิด เป็นเวลา ขณะที่คลองระบายน้ำ บ่อน้ำในชุมชนบนชาวเลเกาะหลีเป๊ะถูกถมดินทับเพื่อการก่อสร้างแทบทั้งเกาะ