
จากการเปิดเผยของพรรคการเมืองมอญ พรรค All Mon Regions Democracy Party (AMDP) พบมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเมืองเชาโส่ง รัฐมอญเพียง 48,532 คน จากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 126,225 คน หรือคิดเป็น 38.4 เปอร์เซนต์ ที่ออกไปเลือกตั้งซ่อม เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เหตุประชาชนสูญเสียความไว้วางใจรัฐบาล NLD และเบื่อหน่ายไม่สนใจการเมือง
มีรายงานว่า ประชาชนในเมืองเชาโส่ง รัฐมอญ ในพื้นที่ที่มีประเด็กถกเถียงเกี่ยวกับการตั้งชื่อสะพานข้ามแม่น้ำสาละวินก่อนหน้านี้ ให้ความสนใจการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาน้อยมาก โดยนายไนเส่งทุน เลขาธิการจากคณะกรรมการสมาชิกเมืองเชาโส่งเปิดเผยว่า นอกจากประชาชนไม่สนใจการเมืองแล้ว ยังอาจเป็นเพราะ 2 พรรคการเมืองมอญลงแข่งขันในเขตเลือกตั้งเดียวกัน นอกจากนี้ยังอาจเป็นเพราะประชาชนไม่พอใจรัฐบาล NLD
“ตอนที่พรรค NLD ลงแข่งขันเลือกตั้งในพื้นที่นี้เมื่อปี 2558 ทางพรรค NLD สัญญาว่าจะนำการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมาสู่ประชาชน แต่พวกเขาทำสิ่งที่ประชาชนต้องการไม่ได้ แม้กระทั่งไม่ฟังเสียงของประชาชนเกี่ยวกับการตั้งชื่อสะพานข้ามแม่น้ำสาละวิน ดังนั้นทำให้ประชาชนสูญเสียความมั่นใจที่มีต่อรัฐบาลและการเมือง” นายไนเส่งทุน กล่าว
ทั้งนี้ การเลือกตั้งซ่อมในพม่าที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยเก้าอี้ในสภาทั้งหมด 19 ที่นั่ง ในเขตเลือกตั้งเมืองเชาโส่ง รัฐมอญนั้นมีพรรคการเมือง 5 พรรคลงแข่งขัน แต่พรรคที่สามารถคว้าชัยในพื้นที่คือ นายอ่องจีเต็ง จากพรรค USDP ที่ให้การสนับสนุนโดยกองทัพ ได้คะแนนไปทั้งสิ้น 19,667 คะแนน เมืองเชาโส่งนั้น มีหมู่บ้านทั้งหมด 78 หมู่บ้าน และมีประชากรราว 2 แสนคน มีทั้งชาวมอญ ชาวกะเหรี่ยงและชาวพม่าอาศัยอยู่ด้วยกันในพื้นที่นี้
รัฐสภาพม่าได้มีมติเห็นชอบที่จะตั้งชื่อสะพานเป็นชื่อของนายพลอองซาน บิดาของนางซูจีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขัดต่อสิ่งที่ประชาชนในรัฐมอญเรียงร้อง จึงทำให้ประชาชนนับหมื่นในรัฐมอญได้ออกมาประท้วงด้วยความไม่พอใจ ชี้เป็นการแผ่ขยายอิทธิพลของพม่าในรัฐชาติพันธุ์ สะพานแห่งนี้เริ่มก่อสร้างมาเมื่อปี 2558 และมีชื่อเดิมว่า “สะพานข้ามแม่น้ำสาละวิน เชาโส่ง” ต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสะพานนายพลอองซาน โดยมีกำหนดการเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 เดือนเมษายนนี้
ที่มา Mon News Agency
แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ