เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2560 ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน มีการจัดประชุมโครงการเรียนรู้เพื่อชีวิตที่ดีงามลุ่มน้ำสาละวิน ซึ่งคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับศูนย์สาละวินศึกษา วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอนร่วมจัดขึ้น โดยมีตัวแทนชาวบ้าน ครู และภาคประชาสังคมในพื้นที่เป้าหมายเข้าร่วม
ผศ.ดร.อภินันท์ สุวรรณรักษ์ นักวิชาการคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ทรัพยากรสำคัญของลุ่มแม่น้ำสาละวินคือ ปลา ที่หลายชนิดพบเฉพาะที่สาละวินเท่านั้น เช่น ปลากดคังสาละวิน ปลากดเสียม ปลาหมู ปลาคม เป็นปลาเนื้อแน่น รสชาติดี ทำให้มีราคาสูง ดังนั้นเมื่อมีองค์ความรู้ด้านการเพาะขยายพันธุ์ที่สามารถนำปลาจากแม่น้ำมาเลี้ยงได้ ก็เป็นโอกาสที่จะสร้างอาชีพและเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจชุมชนให้ชาวบ้าน ซึ่งกำลังร่วมมือชุมชนบ้านสบเมย บ้านแม่สามแลบ และบ้านท่าตาฝั่ง เพื่อสำรวจข้อมูลปลาสาละวิน และเตรียมนำพ่อแม่ปลาจากแม่น้ำขึ้นมาเพาะขยายพันธุ์ในบ่อ ที่มีการจัดการแตกต่างจากการเลี้ยงปลาทั่วไป เพราะเราคำนึงถึงธรรมชาติของปลาและใช้อาหารธรรมชาติ เช่น ปลูกต้นมะเดื่อริมบ่อเพื่อเป็นอาหารปลา และพืชพรรณท้องถิ่น นอกจากนี้จะกำหนดให้เลี้ยงปลาในพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวินเท่านั้น เพื่อป้องกันการปนเปื้อนไปสู่แหล่งน้ำอื่น อีกทั้งเพื่อแก้ปัญหาจำนวนปลาในธรรมชาติที่ลดลงมาก และป้องกันผลกระทบจากการสร้างเขื่อนฮัตจึและโครงการพัฒนาในอนาคต จะมีการนำลูกพันธุ์ปลาปล่อยคืนแม่น้ำสาละวิน เพื่อเพิ่มจำนวนปลาด้วย
“การทำงานเรื่องการพัฒนาเราจะทำเรื่องเดียวไม่ได้ เพราะทุกเรื่องคือเรื่องเดียวกัน ต้นมะเดื่อที่อยู่ริมน้ำนั่นคืออาหารของปลาในแม่น้ำ ปลาก็คืออาหารของคน พื้นที่เกษตรเมื่อไหร่มีปลากิน เราก็จะไม่วุ่นวายรุกล้ำพื้นที่อื่นๆ เราสามารถเลี้ยงปลาเพื่อเอามาขายเป็นรายได้ แล้วก็สามารถใช้รายได้เหล่านั้นมาสร้างบ้าน ส่งลูกเรียนหนังสือ การดูแลป่าถ้าเรามีรายได้จากการดูแลป่า เช่น ผลมะเดื่อ ถ้าเราสามารถเพิ่มมูลค้า แปรรูปเป็น แยม ไวน์ พืชพันธุ์ตัวอื่นเช่นกันสามารถนำมาสกัดเพิ่มมูลค่าได้ ความเชื่อมโยงเหล่านี้จะเป็นการพัฒนาที่ต่อเนื่องและยั่งยืนที่สุดท้ายทรัพยากรอยู่ได้ ทุกคนอยู่ร่วมกันได้” ผศ.ดร.อภินันท์ กล่าว
ผศ.ดร.อภินันท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะมีการสนับสนุนให้ชาวบ้านพัฒนาทรัพยาการท้องถิ่น ให้สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะพืชป่าสาละวิน เช่นบุก ขยายพันธุ์และแปรรูป ห่อทีละ ปลูกต้นมะเดื่อเพื่อแปรรูปเป็นไวน์ แยม และเป็นอาหารปลาขยายพันธุ์กบป่า พัฒนาการย้อมสีธรรมชาติเพื่อผลิตผ้าทอมือ รวมถึงการขยายพันธุ์เพาะเลี้ยงกล้วยไม้เอื้องแซะเหม่นในพื้นที่ต้นน้ำเพื่อผลิตหัวน้ำหอม โดยได้ร่วมมือกับชุมชนเป้าหมายใน อ.แม่ลาน้อย อ.ขุนยวม อ.แม่สะเรียง และอ.สบเมย ซึ่งเน้นทำงานร่วมกับชุมชน และโรงเรียน อีกทั้งพยายามผลักดันให้เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
ด้านนายบุญธรรม วนาลัยพิมาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ในระยะหลังชาวบ้านจับปลาจากสาละวินได้น้อยลง ซึ่งอาจมีสาเหตุจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ และคนจับปลามากขึ้น รวมไปถึงปัญหาการลักลอบช็อตปลา หากแนวคิดการนำปลาสาละวินมาเลี้ยงในบ่อทำได้สำเร็จ ก็จะเป็นการเพิ่มจำนวนปลาเฉพาะถิ่นในธรรมชาติ เพราะชาวบ้านไม่เคยนำปลาจากสาละวินมาเลี้ยง ทุกวันนี้ชาวบ้านที่สบเมยมีรายได้จากการหาปลา ทำนา และเกษตรริมน้ำเป็นหลัก ซึ่งก็ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย หลายคนต้องออกไปรับจ้างในเมือง เพื่อซื้อข้าวสาร น้ำมันเรือ ของใช้จำเป็น และต้องส่งลูกเข้าไปเรียนในเมือง โดยในอนาคตหากมีการสร้างเขื่อนก็อาจส่งผลกระทบต่อปลา และการทำเกษตรริมน้ำ ดังนั้นแนวทางการพัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นให้มีคุณค่า และไม่เป็นการทำลายธรรมชาติ ก็น่าจะเป็นแนวทางที่ดีทำให้ชีวิตชาวบ้านดีขึ้น