
เสียงดังเหนือยอดไม้ใหญ่ ไม่ไกลจากทางเดิน ทำให้สองขาที่กำลังก้าวเดินต้องหยุดกึก บอกไม่ถูกว่ามันดังคล้ายเสียงอะไร จะว่าเป็นเสียงกระพือปีกพึ่บพับเหมือนนกใหญ่ทั่วไปก็ไม่เชิง แต่ที่แน่ๆ คือ มันทรงพลังจนทำเอาใจเราเต้นตึ๊กตั๊ก

“กรามช้าง กรามช้าง” เสียงอุทานเบาๆ ของเพื่อนที่เดินนำหน้าและชี้ไปที่นกเงือก 3-4 ตัวกำลังโบยบินอยู่เหนือต้นตาเสือ
ลูกตาเสือลักษณะและรสชาติคล้ายลูกมะไฟ ช่วงนี้กำลังสุกอยู่บนต้น ผลสีแดงบ้าง ส้มบ้าง หล่นอยู่เกลื่อนพื้น บ่งบอกถึงงานเลี้ยงประจำฤดูกาลอันแสนคึกคัก เช่นเดียวกับลูกไม้อีกหลายอย่างที่แย่งกันสุกในช่วงฝน เช่น เต่าร้าง ไทร ทำให้บรรยากาศในป่าดิบแห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตวีชา
ผมเดินตาม “บอย” ประภาส เก่งแป๊บ หนุ่มเชื้อสายกะเหรี่ยงของหมู่บ้านบางกะม่า เข้าป่ารากกึ้งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อำเภอหันคา จังหวัดราชบุรี เพื่อดูนกเงือกบริเวณหน้าผา ซึ่งพวกเขามักโบยบินในป่าด้านล่างให้ชื่นชม
นกเงือกที่พบบ่อยในป่าแห่งนี้คือ นกกก นกเงือกสีน้ำตาล นกแก๊ก และกรามช้าง โดยเฉพาะนกเงือกกรามช้างในช่วงนี้ของปี คือราวเดือนกรกฏาคม-สิงหาคม บริเวณผืนป่าย่านนี้เป็นเหมือนจุดนัดพบกัน ก่อนที่จะพากันอพยพยังป่าฮาลา บาลา ในชายแดนภาคใต้
เกือบ 3 ชั่วโมงของการเดินป่าหน้าฝน แม้ลำบากกว่าปกติอยู่บ้าง แต่ธรรมชาติก็ชดเชยด้วยความงามอันเขียวชอุ่มของยอดไม้ใบหญ้าและพืชพรรณต่างๆ ซึ่งเป็นห้วงเวลาแห่งอุดมสมบูรณ์ที่สัตว์ต่างๆ ได้อิ่มหมีพีมัน
เสียงลมแรงปะทะใบไผ่ดังมาแต่ไกล เมื่อเดินไปถึงหน้าผานกเงือก หรือสมัยก่อนชาวบ้านเรียกกันว่าผารากกึ้ง ทำให้เห็นทิวทัศน์ป่าเขาได้กว้างไกลสุดตา ยังไม่ทันได้เหยียบย่างถึงหน้าผา เราก็เห็นนกเงือกฝูงหนึ่งบินผ่านไปอย่างสวยงาม
“สมัยก่อนตอนผมเด็กๆ มีมากกว่านี้เยอะ เขามาบินเล่นลมอยู่ที่หน้าผาแห่งนี้ เลยกลายเป็นเป้าบินให้พวกเรายิง ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมาก” คำบอกเล่าของบอยฟังแล้วสะดุดหูไม่น้อย แต่เขาอธิบายถึงวิถีของวัยรุ่นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่เดินป่าเที่ยวดง และไม่ทันตระหนักถึงชีวิตนกเงือกที่มีความสำคัญต่อป่าใหญ่อย่างไร จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อนกเงือกเริ่มหายหน้าหายตาไปจากป่า จึงเริ่มมีการตั้งกลุ่มอนุรักษณ์นกเงือกบ้านบางกะม่าขึ้นมาเมื่อราว 5-6 ปีก่อน โดยชาวบ้านได้ประชุมกันและมีการทำความเข้าใจกับกลุ่มที่คุกคามนกเงือก จนในที่สุดทั้งหมดได้ร่วมกันดูแลและปกป้องนกเงือก เช่น การสำรวจโพรงรัง การทำโพรงรังเทียม
“ตอนนั้นเราเป็นวัยรุ่นทำอะไรด้วยความคึกคะนอง พอรู้ว่านกเงือกเริ่มหายไป มันเหมือนป่าขาดอะไรไปสักอย่าง ในที่สุดพวกเรากลุ่มวัยรุ่นจึงคุยกันว่าจะไม่ยิงหรือทำร้ายนกเงือกอีกแล้ว” บอยและพ่อได้ไปร่วมกลุ่มอนุรักษ์นกเงือกโดยทำกิจกรรมต่างๆ สม่ำเสมอ “ผมไปทำงานที่เมืองชล หรือไปอยู่ที่อื่นได้ไม่นานก็ต้องกลับมา เพราะคิดถึงป่า อยากมาเดินเที่ยว มานอนเล่น เพราะมันเย็นดี”
จากนักล่า วันนี้บอยกลายเป็นนักปกป้องและคนนำทางให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมนกเงือกและป่าใหญ่บ้านบางกะม่า แม้ชุมชนแห่งนี้จะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ แต่กลับมีผืนป่าใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์
เสียงบินของนกเงือกในป่ารากกึ้งจึงดูทรงพลังเสมอ
///////////////////
หมายเหตุ-ปัจจุบันทางกลุ่มรักษ์นกเงือกบ้านบางกะม่ามีสมาชิกอยู่ราว 30 คน โดยร่วมกันจัดบริการพานักท่องเที่ยวขึ้นไปชมนกเงือกที่หน้าผา ซึ่งส่วนใหญ่พักค้างแรมในป่าอย่างน้อย 1 คืน โดยสามารถติดต่อได้ที่ คุณโนจน์ เบอร์ 080-6526178 และคุณแอ๊ด 089-0285388