Search

ทหารไทยยังไม่เปิดทางให้ลำเลียงข้าวของช่วยเหลือผู้หนีภัยสู้รบชายแดนสาละวิน ธารน้ำใจหลั่งไหลถูกสกัดไว้ที่บ้านแม่สามแลบ “เจ้ายอดศึก”ประชุมด่วน 10 กลุ่มชาติพันธุ์-ประณามการโจมตีเคเอ็นยูทางอากาศ

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ความช่วยเหลือจากภาคประชาชนในประเทศไทยได้หลั่งไหลสู่ลุ่มน้ำสาละวินอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ชาวบ้านในรัฐกะเหรี่ยงได้อพยพหนีภัยการสู้รบซึ่งทหารพม่าใช้เครื่องบินโจมตีทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู(สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง)ในชุมชนเดปู่โน่ทำให้ชาวบ้านกว่า 1 หมื่นคนต้องหลบหนี้เข้าไปอยู่ตามป่าเขาและในจำนวนนี้มี 7 พันคนที่เดินเท้ามายังแม่น้ำสาละวินพรมแดนไทย-พม่า เพื่อหวังข้ามมาหลับภัยในฝั่งประเทศไทยแต่ไม่ได้รับอนุญาตจากทหารไทย ทำให้ต้องอยู่อย่างอดๆอยากๆริมแม่น้ำสาละวิน

ทั้งนี้ประชาชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอนในนาม “สะพานบุญเพื่อผู้ลี้ภัยแม่สามแลบ” ได้บรรทุกข้าวของใส่รถกระบะ 20 คันเพื่อนำไปบริจาค เช่นเดียวกับเครือข่ายกะเหรี่ยงและประชาชนอีกหลายพื้นที่ต่างทยอยกันเดินทางกันนำข้าวของมายังหมู่บ้านแม่สามแลบ แต่ไม่สามารถผ่านจุดสกัดของทหารพรานได้ แม้หลายคนพยายามเจรจาเพื่อต้องการนำข้าวของที่จำเป็นไปให้ชาวบ้านที่กำลังลำบากก่อน แต่ทหารพรานได้แจ้งว่าให้ไปขออนุญาตผู้บังคับบัญชา ทำให้ทั้งหมดต้องนำข้าวของไปกองไว้ที่ศาลาเอนกประสงค์ของหมู่บ้าน

ขณะที่ภาคีชนเผ่าพื้นเมืองเพื่อความยุติธรรมและสันติภาพ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสันติภาพแก่ผู้ลี้ภัยสงครามจากประเทศเมียนมาร์ โดยระบุว่า 1. เปิดชายแดนและจัดหาพื้นรองรับผู้ลี้ภัยสงคราวชั่วคราวโดยทันที จัดหาปัจจัยดำรงชีพขั้นพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม 2. ยุติการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศในขณะที่ยังมีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง 3. อำนวยความสะดวกในการส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนโดยทันที

ด้านชายแดนของรัฐฉานที่ติดกับบางอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน ก็ยังคงตึงเครียดหลังจากทหารพม่าขู่ว่าจะโจมตีฐานที่มั่นของกองทัพรัฐฉานภาคใต้ (Shan State Army – South : SSA) โดยในวันเดียวกันนี้พระภิกษุ และสามเณร วัดฟ้าเวียงอินทร์ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวัดสองแผ่นดินไทย-เมียนมาร์ ได้ช่วยกกันขุดอุโมงค์ เตรียมสถานที่หลบภัย สงครามเพราะสถานการณ์ตามแนวชาย ไม่ค่อยไว้วางใจ ตั้งแต่มีข่าวว่า พม่าจะกวาดล้างตามแนวชายแดน

ขณะที่พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน RCSS เปิดเผยกับ The Reporters ยืนยันว่าได้ตรวจสอบไปยังผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลเมียนมา ที่ กรุงเนปิดอว์ ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้มีคำสั่งให้เปิดปฏิบัติการสู้รบ เข้าโจมตีกองกำลัง RCSS/SSA ที่อยู่พื้นที่ชายแดนประเทศไทย ตามที่มีเอกสารภาษาไทยระบุมาจากจุดประสานงานชายแดนเมียนมา-ไทย TBC ฝ่ายเมียนมา จ.ท่าขี้เหล็ก แจ้งมายังทางการไทยว่าจะไม่ให้กระสุนตกมาทางฝั่งไทยนั้น 

พล.อ.เจ้ายอดศึก ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เป็นข่าวหลอกลวง ที่ตรวจสอบไปยังกรุงเนปิดอว์ ยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารของเขา และไม่ทราบว่ามาจากไหน ข่าวที่เกิดขึ้นจึงเป็นข่าวหลอกลวง แต่กองทัพไทใหญ่ไม่ได้ประมาท ได้สั่งทุกพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

พล.อ.เจ้ายอดศึก ในฐานะหัวหน้าทีมขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพ PPST (Peace Process Steering Team ได้ประชุมผ่านระบบออนไลน์กับผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมา พร้อมกล่าวเปิดการประชุม ที่ระบุว่าหลังการรัฐประหาร เมื่อ 1 ก.พ.2564 และประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมกันประท้วงอย่าสันติเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ” Spring Revulation ” แต่กลับถูกปราบปรามอย่างรุนแรงจากตำรวจและทหาร ซึ่งผู้นำทหารต้องรับผิดชอบกับการกระทำที่เกิดขึ้น ในขณะที่รัฐบาลคณะรัฐประหาร ประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือน เป็นสิ่งที่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามประชาชน 

“พวกเราขอเรียกร้องให้คณะรัฐประหาร หยุดการการกระทำที่รุนแรงทั้งหมดโดยสิ้นเชิง และขอประณามการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU จนทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และมีผู้พลัดถิ่นจำนวนมาก”พล.อ.เจ้ายอดศึก กล่าว และว่าการประชุม PPST ในวันนี้จึงจะหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของประชาชนผู้ร่วมการปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิ Spring Revulation และ CDM ของประชาชน และเพื่อป้องกันการปราบปรามประชาชน รวมทั้งหารือถึงการทำงานของ คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ CRPH 

พล.อ.เจ้ายอดศึก ยืนยันด้วยว่า PPST ยืนหยัดร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนในการต่อต้านการยึดอำนาจของคณะรัฐประหาร สนับสนุนให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2008 กระบวนการประชาธิปไตย และการจัดตั้งสหภาพสหพันธรัฐ และการปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทางการเมืองทันที

สำหรับ 10 กลุ่มชาติพันธ์ที่มีการลงนามข้อตกลงหยุดยิงทั่วไประเทศ NCA และรวมกลุ่มเป็น PPST ประกอบด้วย สภากอบกู้รัฐฉาน (RCSS/SSA) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) องค์กรปลดปล่อยชาติปะโอ (PNLO) กองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตย (DKBA)  แนวร่วมแห่งชาติชิน (CNF) แนวร่วมประชาธิปไตยของมวลนักศึกษาพม่า (ABSDF) พรรคปลดปล่อยอาระกัน (ALP) สภาแห่งชาติกะเหรี่ยงสันติภาพ (KNU/KNLA-PC) พรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) สหภาพประชาธิปไตยลาหู่ (LDU)

ภาพจากเฟ๊ซบุ๊ก Watfahwianginn Borderline

On Key

Related Posts

“สารหนู”น้ำกกพ่นพิษหมู่บ้านท่องเที่ยว“กะเหรี่ยงรวมมิตร”ซบหนักยอดหาย 80% ต้องปล่อยช้างหากินในป่า-เผยชาวบ้านจำนวนมากไม่รู้ข้อมูลยังคงใช้น้ำปนเปื้อนในวิถีชีวิต-ประมงจังหวัดส่งตัวอย่างปลาตรวจ คาดสัปดาห์หน้ารู้ผล

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 นายดา ควานช้างปางช้างบ้Read More →

7 ชุมชมลุ่มน้ำกกจับมืออุทกวิทยา-ปภ.-เครือข่ายค.อ.ก. “คิกออฟ”ระบบเตือนภัยน้ำท่วม-พระอาจารย์มหานิคมเผยป่าต้นน้ำถูกทำลาย-ทำเหมืองทอง เป็นเหตุน้ำเชี่ยวโคลนถล่ม แนะรัฐเร่งเจรจา

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลแRead More →

สส.ปชน.เชียงรายจี้รัฐบาลสร้างระบบเตือนภัยแม่น้ำกก-แนะเร่งถอดบทเรียน 6 เดือนภัยพิบัติ คนขับเรือลำบากหลังนักท่องเที่ยวลดฮวบ ผวจ.เชียงรายเตรียมตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนแก้ปัญหาคุณภาพน้ำข้ามแดน

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สRead More →