เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 สำนักข่าว Laotian Times รายงานว่า หน่วยงานระดับท้องถิ่นของแขวงพงสาลี สปป.ลาว ได้อนุมัติให้มีการทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ที่ชายแดนลาว จีน และเวียดนาม โดยเขตแขวงพงสาลี และบริษัทยูเจีย อินเวสต์เมนต์ จำกัดได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจร่วม (MOU) ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาพื้นที่แห่งใหม่เรียกว่า “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ลาว จีน เวียดนาม”
นางสาวคำมาลา สูวง รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและการลงทุนของแขวงพงสาลี กล่าวว่า บริษัทยูเจีย อินเวสต์เมนต์ จะทำการศึกษาดังกล่าวในพื้นที่เมืองยอดอู เพื่อพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ โดยใช้เวลา 18 เดือนในการสำรวจและการประเมินความเป็นไปได้ คาดว่าจะมีการใช้พื้นที่ประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็น 156,250 ไร่ โดยจะแบ่งพื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตรหรือ 62,500 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวและบริการ และอีก 150 ตารางกิโลเมตร 93,750 ไร่ เป็นพื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
“บริษัทจะออกแบบถนนเชื่อมระหว่าง บ้านอูเหนือ ไปยังชายแดนสามเหลี่ยมเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ และจะมีการทำการสำรวจใช้พื้นที่ต่อไป โดยการศึกษาความเป็นไปได้ การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคมจะถูกนำไปเป็นแผนการพัฒนาเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่นี้อีกด้วย”
อนึ่ง เมืองยอดอูอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศลาวโดยเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำอูซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาที่สำคัญของแม่น้ำโขง แต่ปัจจุบันทางการลาวได้ให้สัมปทานแม่น้ำทั้งสายกับนักธุรกิจจีนสร้างเขื่อนขั้นบันได 7 แห่ง ทำให้เป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเนื่องจากเมืองยอดอูและแม่น้ำอูมีภูมิประเทศอันงดงาม และประกอบด้วยหลากหลายชาติพันธุ์ ขณะนี้การสร้างเขื่อนได้แล้วเสร็จเกือบหมดทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไปหมด ขณะที่คนพื้นที่ถูกเบียดขับและไม่สามารถทำมาหากินได้ดังเดิม นอกจากนี้ยังมีการจ่ายค่าชดเชยให้กับชาวบ้านไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้