สำนักข่าวอิรวดีรายงานว่า กองทัพพม่าข่มขู่ประชาชนและร้านค้าในหลายเมืองทั่วประเทศ ห้ามร่วมประท้วงเงียบ (Silent Strike) โดยทหารพม่าได้จับกุมเจ้าของร้าน 8 แห่งในย่างกุ้ง และ 5 แห่งในเมืองมัณฑะเลย์ หลังเจ้าของร้านเหล่านั้นได้แจ้งให้ลูกค้าว่าจะปิดร้านในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ซึ่งจะเป็นวันที่ครบรอบ 1 ปี ที่พลเอกมิน อ่อง หล่าย ยึดอำนาจ ซึ่งทำให้สถานการณ์บ้านเมืองประสบความยากลำบากและเกิดสงครามกลางเมือง รวมทั้งมีการเตรียมการประท้วงเงียบเพื่อต่อต้านไม่ยอมรับกองทัพพม่า
ทั้งนี้ทหารพม่าได้ยึดทรัพย์สินของร้านที่ฝ่าฝืนคำสั่ง และข่มขู่ประชาชนว่าหากเข้าร่วมประท้วงเงียบจะต้องถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายที่หลากหลาย ถึงขั้นลงโทษหนักสุดคือถูกจำคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้ร้านที่ถูกจับมีทั้งร้านอาหารหม้อไฟ ร้านรองเท้า ร้านอาหารอาระกัน ร้านเสริมสวยความงามและร้านรับดูดวง เป็นต้น โดยหลังจากการจับกุม ทหารพม่าได้นำป้ายมาติดไว้หน้าร้านว่า ร้านดังกล่าวสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้ายอย่าง คณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพเมียนมา (CRPH) รัฐบาล NUG และกองกำลังป้องกันประชาชน PDF
ทหารพม่า ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาลในแต่ละเขตพื้นที่ได้ข่มขู่กดดันให้ร้านค้าทั่วประเทศเปิดทำการปกติในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยในหลายเมืองได้บังคับให้ร้านต่างๆลงนามในเอกสารว่าจะไม่เข้าร่วมประท้วงเงียบ สอดคล้องกับเจ้าของร้านในเมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐฉาน ที่ออกมาเปิดเผยว่า เกิดเหตุลักษณะนี้ในเมืองตองจี เช่นเดียวกัน
ขณะที่ฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่าได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น. และหลังจากนั้นให้ประชาชนออกมาปรบมือ และฝ่ายต่อต้านประกาศว่า หากร้านถูกบังคับให้เปิดก็ให้ทำตามที่ทหารพม่าสั่ง แต่ที่สำคัญคือประชาชนทั่วไปจะต้องอยู่แต่บ้าน ไม่ออกไปไหน ทั้งนี้การประท้วงเงียบที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้จะเป็นการประท้วงครั้งที่ 3 โดยเหตุการณ์ประท้วงเงียบทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ สร้างความอับอายให้กับกองทัพพม่าไม่น้อย เพราะประชากรในพม่าที่มีอยู่มากกว่า 54 ล้านคน ต่างพร้อมใจกันไม่ออกจากบ้าน ทุกกิจการหยุดนิ่ง แม้แต่ผู้ค้าขายตามท้องถนนที่จะต้องหารายได้ประทังชีวิตก็ยังหยุดกิจการค้าขายในวันประท้วงดังกล่าว ในขณะที่กองทัพพม่าพยายามอ้างว่า สถานการณ์ในประเทศได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ด้านกัปตันซีโร่(นามสมมุติ) อดีตนายทหารชั้นสัญญาบัตรของกองทัพพม่าซึ่งหนีมาอยู่กับกองกำลังปกป้องประชาชน(People’s Defense Force – PDF)ซึ่งต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวชายขอบว่า สาเหตุที่หนีจากกองทัพพม่าเพราะไม่อาจทนเห็นกองทัพใช้อาวุธเข่นฆ่าประชาชนได้ และขอร่วมขบวนการต่อต้านเผด็จการทหารและจะสู้จนกว่าชนะ
“ผมคิดว่าจุดอ่อนหรือความกลัวของผู้นำกองทัพพม่า คือตอนนี้ประชาชนเกลียด ผมยกตัวอย่าง หากทหารต้องกลับบ้านที่อยู่นอกหน่วย พวกเขาทำแทบไม่ได้เพราะออกมาก็กลัวความเกลียดชังของประชาชนที่มีให้” (อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ https://transbordernews.in.th/home/?p=30462 )
——————