Search

ศาลยกคำร้องอุทธรณ์ บ.น้ำตาลมิตรผล
คดีถูกชาวบ้านกัมพูชาฟ้องละเมิดสิทธิ

วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เปิดเผยว่า วันนี้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ กรณีที่จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้น ในคดีที่ นางฮอย ไม กับพวกรวมสองคน เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทน้ำตาลมิตรผล ในกรณีข้อพิพาทสัมปทานน้ำตาลที่กัมพูชา ซึ่งคดีนี้เป็นคดีแรกที่มีการฟ้องคดีแบบกลุ่มกรณีละเมิดข้ามพรมแดน ซึ่งผู้เสียหายได้ฟ้องคดีที่ศาลไทย

ทนายความกล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้รับฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่ม โดยวันนี้ตนและนายทิตศาตร์ สุดแสน ทนายความโจทก์ทั้งสองและทนายความกลุ่มได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ ซึ่งบริษัทน้ำตาลมิตรผลมีทนายความจำเลยมาร่วมฟังคำสั่งด้วย กรณีนี้ สืบเนื่องจากที่บริษัทน้ำตาลมิตรผลยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดประเด็นข้อกฎหมายว่า คดีนี้ฟ้องเมื่อขาดอายุความหนึ่งปีตามกฎหมายประเทศไทย ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดก่อนสืบพยาน แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าให้สืบพยานโจทก์จำเลยแล้วเสร็จก่อน จึงให้ยกคำร้อง จำเลยจึงอุทธรณ์คำสั่ง แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าวของจำเลย จำเลยจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ โดยศาลให้โจทก์ทั้งสองยื่นแก้อุทธรณ์ แล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณา

“วันนี้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลย โดยให้รอวินิจฉัยสั่งคำร้องเมื่อสืบพยานโจทย์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ไม่เป็นคุณแก่จำเลยผู้ขอ จึงมิใช่เป็นคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 อันจะให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องตามมาตรา 227 หรือเสร็จไปเฉพาะแต่ประเด็นแห่งคดีบางข้อตามมาตรา 228 (3) หากแต่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณาก่อนที่ศาลชั้นต้นจะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวในระหว่างพิจารณาตามมาตรา 226 (1) ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
โดยศาลชั้นต้นได้กำหนดนัดพร้อมเพื่อแถลงเกี่ยวกับพยานเอกสาร ในวันที่ 21 กันยายน 2565 เวลา 9.00 น.” นางสาวส.รัตนมณี กล่าว

นายทิตศาสตร์ สุดแสน ทนายความโจทก์ทั้งสองและทนายความของกลุ่มกล่าวว่า เห็นด้วยตามคำวินิจฉัยข้อกฎหมายเบื้องต้น เนื่องจาก ถ้าศาลวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวอาจทำให้เสียประโยชน์ของโจทก์หรือจำเลยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเด็นการวินิจฉัยข้อกฎหมายเบื้องต้นในการพิจารณาเรื่องอายุความจะต้องนำเอากฎหมายทางกัมพูชามาใช้ได้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นอายุความกฎหมายไทยหากจำเลยโต้แย้งไว้ ศาลจะสามารถนำมาวินิจฉัยได้เลย แต่หากเป็นกฎหมายต่างประเทศจะต้องมีการนำสืบข้อกฎหมายดังกล่าวก่อน จึงควรต้องให้โจทก์และจำเลยได้โต้แย้งกันในชั้นพิจารณาสืบพยานก่อน ส่วนขั้นตอนต่อไปในการพิจารณาคดีเป็นเรื่องการตรวจพยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยจะต้องนำสืบ ที่ต้องนัดวันพิจารณาห่างจากนัดนี้ค่อนข้างนาน เนื่องจากมีหลักฐานบางส่วนอยู่และเป็นภาษาต่างประเทศ ต้องใช้เวลาในการขอเอกสารและต้องมีการแปลเอกสารก่อนนำมาใช้ในการพิจารณาคดี

On Key

Related Posts

กระบอกเสียง SAC แฉแหล่งอาชญากรรมเมืองเมียวดีใช้ไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ตจากประเทศเพื่อนบ้าน-ติดต่อกับองค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์ เผยรัฐบาลทหารพม่าปราบจริงจังส่งกลับชาวต่างชาติแล้วกว่า 5 หมื่นคน

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 หนังสือพิมพ์ The GlobalRead More →

หวั่นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง “แก่งคุดคู้”-“พันโขดแสนไคร้”รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนสานะคามกั้นแม่น้ำโขง ชาวอุบลโวยถูกกีดกันเข้าร่วมเวทีรับฟัง  เลขาสทนช.แจงกลัวเสียภาพลักษณ์ เครือข่ายภาคประชาชนจวกใช้วิธีสกปรก

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 9.00 น. ณ ห้Read More →