Search

ศาลยกฟ้องข้อหาฆ่าบิลลี่-ตัดสินลงโทษ“ชัยวัฒน์”ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จำคุก 3 ปี พี่ชายบิลลี่เผยแม่รับไม่ได้หากคนฆ่าบิลลี่ยังไม่ได้รับโทษ “มึนอ”น้ำตานอง

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 256 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรุงเทพฯ ได้มีการนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท.166/2565 กรณีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ ‘บิลลี่’ นักปกป้องสิทธิมนุษย์ชนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน โดยมีชาวบ้านจากบ้านบางกลอยประมาณ 30 คน สื่อมวลชน ตัวแทนจากสหภาพยุโรป และตัวแทนสถานทูตชาติตะวันตก ร่วมรับฟังการพิจารณาคดี เวลาประมาณ 10.30 น. ศาลได้เริ่มอ่านคำพิพากษา โดยศาลพิเคราะห์เห็นว่า จำเลยที่ 1 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญากรณีที่ควบคุมตัว ‘บิลลี่’ พร้อมน้ำผึ้งป่าเมื่อ 17 เมษายน 2557 แต่ไม่มีการส่งตัวให้พนักงานสอบสวนตามขั้นตอน ส่วนจำเลยที่ 2, 3 และ 4 ยกฟ้อง

สำหรับข้อหาอื่น ๆ คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว การฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และการอำพรางศพ ศาลยกฟ้องทั้งหมด โดยระบุว่ามีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ และรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกันกักขังและหน่วงเหนี่ยว ส่วนกระดูกที่พบในถัง 200 ลิตร ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นของ ‘บิลลี่’ หรือไม่ ทำให้ไม่สามารถยืนยันว่า ‘บิลลี่’ เสียชีวิตแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นายชัยวัฒน์ มีท่าทีและสีหน้าเรียบเฉย ก่อนถูกควบคุมตัวออกจากห้องพิจารณาคดี โดยไม่มีการใส่กุญแจมือแต่อย่างใด ขณะที่ทีมทนายความได้ดำเนินการยื่นขอประกันตัวต่อศาล เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะทนายฝ่ายโจทก์ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ศาลตัดสินยกฟ้องในคดีฆาตกรรม เพราะศาลไม่เชื่อว่า ‘บิลลี่’ เสียชีวิต ทำให้รัฐต้องรับผิดชอบต่อการหายตัวไปของ ‘บิลลี่’ ที่ขณะนั้นอยู่ในการควบคุมของเจ้าที่รัฐ โดยหลังจากนี้ทีมทนายจะหารือและยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอย่างแน่นอน

ส่วน น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ ‘มึนอ’ ภรรยาของ ‘บิลลี่’ ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ พร้อมน้ำตาว่า “ที่ต่อสู้มาแค่อยากรู้ว่าพี่บิลลี่หายไปไหน”

ขณะที่นายเจริญ รักจงเจริญ พี่ชายบิลลี่กล่าวภายหลังทราบข่าวคำตัดสินของศาลว่า แม้ศาลสั่งลงโทษจำคุกนายชัยวัฒน์ 3 ปีในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ประเด็นใหญ่คือเรื่องการฆาตกรรมบิลลี่ ยังไม่มีการลงโทษใดๆสำหรับผู้กระทำผิด โดยตลอดเวลา 9 ปีที่บิลลี่หายไป คนในครอบครัวอยู่กันอย่างหวาดระแวงเพราะคนที่เราเชื่อว่าฆ่าบิลลี่ยังมีอิทธิพลอยู่มากโดยเฉพาะในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และตนไม่แน่ใจว่าในอนาคตเขาจะติดคุกจริงหรือไม่

“ที่ผ่านมาแม่ยังรับไม่ได้ทั้งเรื่องสูญเสียลูกและคดีความต่างๆเพราะไม่แน่ใจในความยุติธรรม แม่พูดเสมอว่าเมื่อเขาฆ่าบิลลี่ คนฆ่าก็ต้องถูกลงโทษเช่นเดียวกับบิลลี่ หากคนที่ฆ่าบิลลี่ยังไม่ได้รับโทษ แม่รับไม่ได้ แต่ตอนนี้แม่สุขภาพแย่อยู่เลยไม่ได้ไปฟังคำตัดสิน”นายเจริญ กล่าว

นายเจริญกล่าวว่า ปกติคนที่ถูกดำเนินคดีหรือถูกลงโทษไม่ควรมีหน้าที่ใหญ่โต หลายคนถูกออกไว้ก่อน เราก็อยากให้กรณีนี้เป็นไปตามนั้น

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า นายชัยวัฒน์ได้รายงานให้ทราบแล้ว โดยเวลานี้ทำเรื่องขอประกันตัวต่อศาลอยู่ หากศาลให้ประกันตัว ก็ไม่มีปัญหาสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เพราะถือว่า คดียังไม่สิ้นสุด ยังต่อสู้ในชั้นศาลได้อีก

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในแง่ของการปฏิบัติหน้าที่ ที่กรมอุทยานฯ ในฐานะผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะนี่เป็นศาลชั้นต้น และคดีที่ตัดสินก็เป็น มาตรา 157 เรื่องของการไม่นำตัว นายบิลลี่ ส่งตำรวจ ไม่ใช่เรื่องการอุ้ม ทำลายศพ ตามข้อกล่าวหา และศาลก็อนุญาตให้ประกันตัว สามารถสู้กันในชั้นศาลอื่นได้อีก “ในฐานะนายชัยวัฒน์ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ให้กำลังใจ ทำงานต่อไป ในส่วนของกระทรวงก็จะให้ความช่วยเหลือในเรื่องการดำเนินการต่างๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งนายชัยวัฒน์ ถือว่าเป็นคนตั้งใจ และทุ่มเทเรื่องการทำงาน” นายจตุพร กล่าว

———

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://transbordernews.in.th/home/?p=33751
https://transbordernews.in.th/home/?p=33722

.