ความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มพันธมิตรทางเหนือของประเทศพม่า ซึ่งเรียกตัวเองว่า The Brotherhood Alliance ประกอบด้วย กองทัพโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army-MNDAA) กองทัพตะอางหรือปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA) และกองทัพอาระกัน (Arakan Army-AA) ปฏิบัติการโจมตีในชื่อ Operation 1027 ถล่มกองทัพพม่าในหลายพื้นที่ของรัฐฉาน อาทิ เขตปกครองพิเศษโกก้าง เขตปกครองว้า ประเทศพม่าซึ่งติดชายแดนจีน ทำให้ทหารและพลเรือนของทั้ง 2 ฝ่ายเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และมีคนไทยนับร้อยคนซึ่งตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์และถูกหลอกลวงให้ไปทำงานต้มตุ๋นออนไลน์ ต้องติดอยู่ในพื้นที่การสู้รบ
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 มีรายงานว่าขณะนี้คนไทยและคนต่างชาติหลายร้อยคนที่ถูกหลอกไปทำงานในเขตโกก้างและว้ายังคงหลบซ่อนอยู่ในอาคารซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบ บางส่วนอยู่ในการดูแลของทหารพม่า โดยกลุ่มพันธมิตร 3 กองกำลังชาติพันธุ์ประกาศห้ามทุกคนออกนอกที่อยู่อาศัย เพราะต้องการกวาดล้างกลุ่มจีนเทาและทหารพม่าที่ให้การสนับสนุนจีนเทาให้หมด อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายพยายามกดดันให้รัฐบาลไทยทำงานแข่งกับเวลาโดยประสานไปยังรัฐบาลจีนเพื่อให้ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกเหล่านี้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยในประเทศจีนก่อน และให้รัฐบาลไทยส่งเครื่องบินไปรับ อย่างไรก็ตามการประสานงานระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนยังไม่ชัดเจนว่ามีความคืบหน้าหรือไม่
ด้านนายคืนใส ใจเย็น ผู้อาวุโสชาวไทใหญ่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สันติภาพและการเจรจาปีดองซู หรือ PI ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่สนับสนุนการเจรจาสันติภาพในเมียนมา ให้สัมภาษณ์ว่าในอดีตรัฐฉานปกครองเป็นสหพันธรัฐมีเจ้าฟ้าด้วยกัน 34 องค์ และร่วมกอบกู้เอกราชของพม่าเมื่อ พ.ศ.2491 แต่พม่าไม่รักษาสัญญาในการให้เอกราช จึงจับอาวุธต่อสู้กันเรื่อยมา จน คศ. 1989 กลุ่มชาติพันธุ์โกก้างซึ่งจับมือกับพรรคคอมมิวนิสต์ และลงนามหยุดยิงกับทหารพม่า แต่หลังจากนั้นปี 2009 พม่ากดดันให้ทหารโกก้างมาเป็นกองกำลังรักษาชายแดน(BGF) แต่ทั้งว้าและโกก้างไม่ยอมรับ แต่กองทัพว้ามีความแข็งแกร่งมากกว่า กองทัพพม่าจึงไม่สามารถบุกได้ แต่บุกโกก้างได้ทำให้บางส่วนกลายเป็น BGF
นายคืนใสกล่าวว่า เมื่อตอนที่กองทัพพม่าเจอศึกหนัก ด้านหนึ่งคือกลุ่มกองกำลังต่างๆ และอีกด้านหนึ่งคือนางอองซานซูจี ทำให้กองทัพพม่าต้องการสงบศึกด้านหนึ่งคือกับกองทัพว้าและโกก้างเพื่อสู้กับนางอองซานซูจี โดยตกลงว่าจะไม่สู้รบกันและให้ว้าและโกก้างเป็นเขตปกครองพิเศษตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่เมื่อกองทัพพม่าต้องการให้กองกำลังต่างๆเป็น BGF ทำให้เกิดความไม่พอใจ ขณะเดียวกันชาวจีนในบริเวณชายแดนมีความสัมพันธ์กับโกก้างที่ดีเพราะมีวิถีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ทำให้กองกำลังโกก้างส่วนหนึ่งต่อต้านทหารพม่ามาโดยตลอด
นายคืนใสกล่าวว่า เมื่อเกิดเรื่องไซเบอร์สแกม เกิดขึ้นทั่วไปตั้งแต่พื้นที่ชเวก๊กโก่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จ.ตาก ท่าขี้เหล็ก ไปจนถึงเขตปกกครองพิเศษโกก้าง โดยรัฐบาลจีนพยายามกดดันและระบุรายชื่อผู้ที่ทำผิดกฏหมาย จนผู้มีอำนาจมในพม่า โกก้างและว้าต้องยอมเพราะพวกเขาต้องพึ่งพาอาศัยรัฐบาลจีนโดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทหารพม่าได้ส่งคนที่ทางการจีนต้องการตัวให้กับจีน 2,000 คน บางคนเป็นญาติผู้นำสูงสุด และล่าสุดผู้มีอำนาจในโกก้างเดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าในจีนแต่ถูกจับหลายคน ซึ่งตอนนี้ทั้งฝ่างโกก้างและว้าร่วมมือกันโจมตีพม่า
“กลุ่มจีนเทาที่เข้าไปในเขตปกครองพิเศษเหล่านี้ได้ เพราะว้าต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อเก็บภาษี เช่นเดียวกับโกก้าง มีฝ่ายหนึ่งต่อต้านพม่า อีกฝ่ายหนึ่งสนับสนุนพม่า ฝ่ายที่สนับสนุนพม่าได้ร่วมมือกับนักธุรกิจจีนเทาเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งเปิดบ่อน และหลอกลวงทางออนไลน์”ผู้อาวุโสชาวไต กล่าว
นายคืนใสกล่าวว่า กลุ่มต่อต้านในโกก้างต้องการขับไล่ทหารพม่าออกไปนานแล้ว ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้ ในส่วนของว้านั้นได้ถือว่าวิกฤตการณ์ในพม่าไม่เกี่ยวกับเขาและไม่เข้าร่วมฝ่ายใดๆ ส่วนการที่ว่าสามารถขยายอิทธิพลมาถึงชายแดนภาคเหนือของไทยได้เพราะในช่วงที่ขุนส่ามีอำนาจ พม่าและว้าได้รวมกันโจมตีขุนส่า โดยทหารพม่าสัญญาว่าหากว้ายึดพื้นที่ได้เท่าไรให้เอาพื้นที่นั้นไปอยู่ในเขตปกครองของว้าได้เลย ขอเพียงกำจัดขุนส่าได้ จนกระทั่งขุนส่ายอมจำนน ทำให้ว้าถือโอกาสยึดฐานทหารของขุนส่าจนถึงวันนี้ อย่างไรก็ตามตอนหลังทหารพม่าพยายามผลักดันให้กลับไปภาคเหนือรัฐฉาน แต่ทางว้าไม่ยอมกลับจนถึงบัดนี้
ในวันเดียวกันสำนักข่าว Tai TV Online และสื่อคนแสนหวี รายงานว่า กองทัพพันธมิตรทางได้ยึดเมืองแสนหวีซึ่งอยู่ตอนเหนือของรัฐฉานไว้ได้หมดแล้ว โดยทหารและตำรวจพม่าสูญเสียจำนวนมากและได้หลบหนีออกจากพื้นที่ ขณะที่ชาวบ้านพบเห็นทหารโกก้างเข้าประจำในเมืองแสนหวีแล้ว
ชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่กล่าวว่า ยังคงได้ยินเสียงระเบิดอยู่ตลอดเวลา แม้จะยังไม่ทราบว่าฝ่ายทหารพม่าสูญเสียเท่าไหร่ แต่พบทหารพม่าเสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย ใกล้กับโรงเรียนมัธยมปลายในพื้นที่ จนถึงขณะนี้ทางการพม่ายังไม่มีการเก็บกู้ร่างทหารฝ่ายตนแต่อย่างใด และยังส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตี 3 ครั้งที่สำนักงานตำรวจซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองแสนหวี โดยในวันออกพรรษาวันนี้ วัดบางแห่งในเมืองแสนหวีถูกโจมตีได้รับความเสียหายอย่างหนัก
รายงานแจ้งว่า ชาวเมืองแสนหวีได้ทยอยหนีไปอาศัยอยู่ตามวัดในพื้นที่ที่ใกล้บ้าน ทำให้วัดในพื้นที่เต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยสงคราม เช่น วัดจองคำ วัดจองมุงส่า วัดจองแสง วัดจองก๋าง วัดจองเวียงนาง เป็นต้น โดยผู้ลี้ภัยที่วัดเวียงนางกำลังต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารเร่งด่วน ขณะที่วัดจองคำมีผู้ลี้ภัยสงครามมาอาศัยพักพิงมากที่สุด โดยมีมากกว่า 1 พันคนแล้ว และอยู่ใกล้กับฐานทัพพม่า
สำนักข่าวไทใหญ่วิเคราะห์ว่า ถึงแม้ทาง 3 กลุ่มชาติพันธุ์จะอ้างว่า ยึดเมืองแสนหวีได้ แต่เชื่อว่ากองทัพพม่าจะกลับมายึดคืนและจะทำให้สงครามรุนแรงยิ่งขึ้น และยิ่งจะทำให้สถานการณ์ผู้ลี้ภัยไม่ได้กลับบ้าน เป็นที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง
————–