Search

หญิงโรฮิงญาเหยื่อค้ามนุษย์ริมน้ำเมยแฉ แก๊งมาเฟียสุดเหี้ยม คุมขัง-ทรมาน-ฆ่าเพื่อเรียกค่าไถ่ มีกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์คุมเข้ม เผยนานาชาติตกเป็นเหยื่อ-ชาวยูกันดา 23 คนได้รับการช่วยเหลือหลังถูกหลอกเป็นสแกมเมอร์ หนุ่มสาวลาว 14 คนถูกส่งต่อจากคิงส์โรมันส์วอนช่วยด่วน Rohingya woman, trafficking survivor by the Moei River, revealing how heinous the mafia gang who held people captive, tortured them, even killed them to remand ransom, with security provided by ethnic armed group, international community is falling victim (English, below)

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 น.ส.ไอชะห์(นามสมมุติ) อายุ 20 ปีหญิงสาวชาวโรฮิงญา เหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ในแหล่งอาชญากรรมแห่งหนึ่งพื้นที่ริมแม่น้ำเมย เมืองเมียวดี ตรงกันข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวชายขอบ ว่า ตนเองเดินทางจากบ้านที่รัฐยะไข่ ประเทศพม่าเมื่อ 2 เดือนก่อนโดยมีเพื่อนบ้านที่เป็นนายหน้าบอกว่าจะพาไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยครอบครัวของตนยากจนและในพื้นที่แทบไม่มีงานทำ ดังนั้นจึงยอมจ่ายเงินเพื่อไปหางานทำในมาเลเซีย

“เราใช้เวลาขึ้นเรือและมาต่อรถอยู่หลายวัน ดิฉันไม่รู้เลยว่าเขาจะพาไปไหน จนกระทั่งมาถึงพื้นที่แห่งหนึ่งทราบตอนหลังว่าอยู่ติดแม่น้ำเมยในเมืองเมียวดี ไม่ใช่ประเทศมาเลเซียเหมือนที่เพื่อนบ้านบอก เขาพาไปอยู่ในอาคารแห่งหนึ่งที่มีคนโรฮิงญากว่า 100 คนถูกขังอยู่ เขาบอกว่าถ้าดิฉันจะออกไปต้องเอาเงินมาไถ่ตัว 6.2 หมื่นบาท” น.ส.ไอชะห์ กล่าว

หญิงสาวซึ่งเห็นเหยื่อการค้ามนุษย์รายนี้กล่าวว่า พื้นที่ถูกตนถูกขังนั้นมีลักษณะคล้ายโกดังเก็บของและมีกำแพงสูง บริเวณโดยรอบมีผู้ชายถืออาวุธเฝ้าอยู่อย่างเข้มงวดเพราะกลัวพวกตนหนีออกไป เมื่อสอบถามคนอื่นๆซึ่งเล่าว่าก็ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันและต้องจ่ายค่าไถ่ตัวถึงจะได้ออก แต่ราคาค่าไถ่แตกต่างกันไป

“ดิฉันถูกขังอยู่ 15 วัน แต่ได้โทรกลับไปหาญาติเพื่อช่วยโอนเงินให้เขา ญาติๆ ต้องไปหยิบยืมเงินจนสามารถไถ่ตัวดิฉันออกมาได้ แต่คนอื่นๆที่ไม่มีเงินไถ่ตัวต้องถูกซ้อม ถูกข่มขู่ต่างๆเพื่อให้หาเงินมาให้ได้ บางคนถูกนำไปขายต่อ บางคนถูกบังคับให้ไปทำงานในอาคารหลังอื่น ”น.ส.ไอชะห์กล่าว และว่า เหยื่อหลายคนที่ไม่มีโทรศัพท์ทางผู้คุมก็ใช้วิธีโทรศัพท์กลับไปหานายหน้าในพื้นที่และให้นายหน้าไปแจ้งครอบครัวที่อยู่ในยะไข่ให้โอนเงินมาให้

ด้านนายเอ(นามสมมุติ) ผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ในชเวโก๊กโก่  KK Park และแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศพม่า กล่าวว่า กรณีของน.ส.ไอชะห์ ถือว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์เต็มรูปแบบ โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีชาวโรฮิงญาจำนวนมากถูกหลอกลวงมาเรียกค่าไถ่และขายต่ออย่างต่อเนื่องโดยพื้นที่แหล่งอาชญากรรมนี้อยู่ในความดูแลของกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่ง

นายเอกล่าวว่า ปัจจุบันขบวนการค้ามนุษย์ได้มุ่งเป้าไปที่ชาวโรฮิงญา ซึ่งไม่เฉพาะที่อยู่ในรัฐยะไข่ แม้แต่ชาวโรฮิงญาที่หลบภัยเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงฝังประเทศบังคลาเทศก็ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยขบวนการค้ามนุษย์ได้ใช้นายหน้าที่เป็นชาวโรฮิงญาเข้าไปชักชวนโดยอ้างเหตุผลต่างๆ ทำให้เหยื่อหลงเชื่อโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องการแสวงหาโอกาสของชีวิตที่ดีขึ้นต่างพอกันออกจากศูนย์ เพราะนายหน้าบอกว่าไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายก่อน แต่ให้มาหักเอาหลังจากได้งาน

“ขบวนการค้ามนุษย์พวกนี้โหดร้ายมาก เขาบังคับรีดไถให้ไถ่ตัว ผู้หญิงที่ไม่มีใครไถ่ตัวก็ถูกขายต่อเพื่อไปขายบริการ ผู้ชายที่ไม่มีเงินไถ่ตัวหลายคนถูกซ้อมและทรมาน บางคนถูกฆ่าตายโยนทิ้งแม่น้ำเมย” นายเอ กล่าว และว่าที่ผ่านมาได้มีการช่วยเหลือเหยื่อได้จำนวนหนึ่งและต้องรีบส่งต่อไปยังนอกพื้นที่แม่สอดและเมียวดีเพราะขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้มีอิทธิพลเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจ

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนเปิดเผยว่า ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการช่วยเหลือชาวยูกันดา 23 คน เป็นชาย 17 คนหญิง 6 คน โดยชาวยูกันดากลุ่มนี้ถูกหลอกลวงมาทำงานเป็นสแกมเมอร์ที่เกี่ยวกับการหาคู่ (romance scam) เมื่อ 3-4 เดือนก่อน โดยหลังจากมีการช่วยเหลือออกมาแล้วได้มีการส่งต่อยังทางการไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง หรือกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism-MRN)

“แต่เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหมือนพยายามปกปิดโดยอ้างว่าเป็นห่วงผลกระทบกับเหยื่อ ขณะที่ฝ่ายที่ช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้ต่างรู้สึกกังวล เขาให้เหตุผลว่าในอดีตเคยมีการช่วยเหลือเหยื่อต่างชาติออกมาได้อยู่บ่อยๆ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเหยื่อเหล่านั้นถูกส่งตัวกลับไปสถานทูตประเทศต้นทางหรือส่งไปที่ใด” แหล่งข่าวด้านความมั่นคง กล่าว

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าวว่า ชาวต่างชาติที่ถูกหลอกเป็นเหยื่อของเหล่ามาเฟียจีนเทาที่ประกอบธุรกิจสีเทาในชเวโก๊กโก่และ KK Park ปัจจุบันมีอยู่หลายหมื่นคน โดยเหยื่อเหล่านี้ถูกหลอกนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ และนั่งรถต่อมายัง อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะถูกพาข้ามตามช่องทางธรรมชาติบริเวณแม่น้ำเมยโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ทางการไทยตรวจสอบ เพราะขบวนการจีนเทาได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ทางการที่เกี่ยวข้องไว้หมดแล้ว

ด้านสำนักข่าว RFA รายงานเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นชาวลาว 14 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่คาสิโนที่ดำเนินการโดยทุนจีน ในเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด โดยทั้งหมดรู้สึกหวาดกลัวกับสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นในเมืองเมียวดี และเรียกร้องให้รัฐบาลลาวช่วยประสานงานเพื่อปล่อยตัวหนุ่มสาวชาวลาวกลุ่มนี้ซึ่งถูกค้ามนุษย์เพื่อทำงานเป็นนักต้มตุ๋นในสถานที่ที่เรียกว่า “คาสิโนโกไซ” พื้นที่ห่างออกมาจากเมืองเมียวดีไม่ไกลนัก

วัยรุ่นชาวลาวกลุ่มดังกล่าวให้สัมภาษณ์ RFA ว่าได้ยินทหารพูดว่าคาสิโนนี้อาจเป็นเป้าหมายของการวางระเบิดในปลายสัปดาห์นี้

“ผมขอเรียกร้องให้ทหาร KNU ช่วยพาเราจากสถานที่นี้โดยเร็วที่สุด เพราะการสู้รบกำลังเข้ามาใกล้เรามากขึ้นเรื่อยๆ” หนุ่มลาวคนหนึ่งซึ่งปกปิดชื่อเพื่อความปลอดภัยกล่าว

RFA รายงานว่าเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เด็กสาววัยรุ่น 2 คนได้รับอนุญาตให้ออกจากคาสิโนหลังจากจ่ายค่าไถ่ 40,000 หยวน (ราว 2 ล้านบาท) เพื่อให้ได้อิสรภาพ และได้เดินทางถึงบ้านที่หลวงน้ำทาทางตอนเหนือของประเทศลาวเมื่อวันที่ 8 เมษายน ส่วนเยาวชนที่เหลืออีก 14 คนกลุ่มนี้ ผู้ปกครองหวังว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตลาวในย่างกุ้งจะสามารถเจรจาการปล่อยตัวพวกเขาได้

“ความหวังเดียวที่ฉันมีตอนนี้คือเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทุกฝ่ายกำลังเพิ่มความพยายามเพราะพวกเราพ่อแม่ล้มเหลวในการช่วยเหลือลูก ๆ ของเรามานานกว่าสองปีแล้ว” มารดาของเหยื่อรายหนึ่ง กล่าว

ทั้งนี้ RFA รายงานว่าคนหนุ่มสาวลาวจำนวนมากเข้าไปหางานในคาสิโนที่สามเหลี่ยมทองคำ ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แต่กลับกลายเป็นว่าถูกขบวนการค้ามนุษย์ควบคุมตัวและส่งตัวมาที่คาสิโนในเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด

ย้อนอ่านข่าวแหล่งอาชญากรรมริมน้ำเมย https://transbordernews.in.th/home/?p=37222

Rohingya woman, trafficking survivor by the Moei River, revealing how heinous the mafia gang who held people captive, tortured them, even killed them to remand ransom, with security provided by ethnic armed group, international community is falling victim

On 25 April 2024, Ms. Isaiah (not her real name), 20, a Rohingya woman who has become a victim of trafficking in a criminal hub by the Moei River, Myawaddy, opposite to Tak’s Mae Sot District, reveals in her interview with the “Transborder News” that two months ago, she embarked on a trip from her homeland in Myanmar’s Rakhine State to go to Malaysia as her neighbor who was a broker promised her a job there, Her family was poor and there was no job in local area. Therefore, she decided to pay to get a job in Malaysia. 

“It took us several days on boat and road trips. I had no idea where they were taking me to. Until, I have arrived at a place which I later learned to situate by the Moei River in Myawaddy, not Malaysia as my neighbor told me. They took me to a building where more than 100 Rohingyas were being held captive. They told me if I wanted to get freed, I had to pay them 62,000 baht,” said Ms. Isaiah.

The women who witnessed the trafficking survivors said that in the place where she was held captive, it appeared to be a warehouse with high walls. The whole premises are strictly guarded armed men to prevent anyone from absconding. When she asked other persons there, they all said they had been deceived the same way and were asked to pay the ransom, although the ransom rates are different. 

“After 15 days in captivity, I called my relatives asking them to transfer them the money. My relatives had to borrow around until they could raise the money which could set me free. But those who could not raise such money have been subject to physical assault and intimidation being forced to acquire the money. Some have been resold while others have been forced to work in other buildings,” said Ms. Isaiah. Several victims who had no phone, the keepers would call the local brokers asking them to inform the families in Rakhine State to make the transfer. 

Mr. Ae (not his real name), a coordinator who offers help to trafficking survivors in Shwe Kokko and KK Park and other criminal hubs by the Moei River in Myanmar’s Myawaddy said that the case of Ms. Isaiah absolutely accounts for a trafficking survivor. In recent months, many Rohingyas have been lured here and demanded to pay ransom as well as resold constantly. These criminal hubs are under the protection of an ethnic armed organization. 

According to Mr. Ae, at present, the trafficking rings focused their attention to the Rohingyas, not just those in Rakhine State, but even the Rohingyas who have been seeking a refuge in Bangladesh’s refugee camps, many of whom have become a victim as well. These trafficking rings rely on brokers who are the Rohingyas themselves to cite various reasons to convince the potential victims, particularly the young generation who want to explore a better livelihood outside the camps. The brokers would tell them not to pay upfront, as the fees can be deducted from their wage later. 

“These trafficking rings are so brutal. They extort for ransom and any women who cannot afford to pay the ransom would be resold into sex trade. Men who have no money to pay for their freedom are subject to physical abuse and torture. Many of them were killed and their bodies were tossed into the Moei River,” said Mr. Ae. Until now, some victims have been rescued and have to be promptly evacuated from Mae Sot and Myawaddy since the trafficking rings are so powerful and have connections with the power that be. 

According to security sources at the border, the concerned authorities have recently rescued 23 Ugandans including 17 men and six women who have been lured to work for romance scam 3-4 months ago. After the rescue, they have been transferred to the Thai authorities to enter the victim screening process or the National Referral Mechanism (MRN).

“It appears, however, that concerned authorities tend to conceal such problems claiming it might affect the victims. Meanwhile, the rescuers are so worried about the situation since until now several foreign victims have been rescued, but they have no idea where the victims have been transferred to, whether they have been referred to the embassy of their country of origin, or where?” said the security sources.

According to security sources, there are tens of thousands of foreigners who have fallen victim to the Chinese mafia who operate their underworld businesses in Shwe Kokko and KK Park. These victims have been lured to fly to Suvannaphum Airport and take a car to Tak’s Mae Sot. They were then taken across via natural passes by the Moei River without inspection from the Thai authorities since the Chinese mafia had arranged with all the concerned authorities already. 

On Key

Related Posts

ผวจ.เชียงรายยังไม่รู้เรื่องน้ำกกขุ่นข้น-เตรียมสั่งการทสจ.ตรวจคุณภาพน้ำ คนขับเรือเผยน้ำขุ่นต่อเนื่องตั้งแต่อุทกภัยใหญ่ 6 เดือนก่อน ผู้เชี่ยวชาญชี้ดินโคลนจากเหมืองทองเสี่ยงสารปรอทปนเปื้อน ระบุการตรวจสอบต้องทำให้ถูกวิธี เก็บตัวอย่างตะกอนดิน-ปลานักล่า

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่Read More →

กรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำกก-ตรวจสารไซยาไนด์เหมืองทอง คาดรู้ผลภายใน 1 เดือน นักวิชาการเผยทหารว้าจับมือจีนแผ่อิทธิพลถึงชายแดนไทยใช้กลยุทธ์คุมต้นน้ำ-สร้างเหมืองกระทบไทย

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 นายชัยวัฒน์ ปันสิน ผู้อRead More →

ผู้ตรวจการแผ่นดินหวั่นโครงการสร้างเขื่อนใหญ่กั้นโขงส่งผลกระทบเขตแดนไทย แนะสร้างกลไกหารือร่วมกับภาคประชาชน กรมสนธิสัญญาอ้างยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ ภาคประชาชนจวก สนทช.งุบงิบข้อมูลจัดประชุมกรณีเขื่อนสานะคามแล้ว 4 ครั้ง

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมRead More →