Search

ฮือฮาทหารกะเหรี่ยง KNU ยึดคืนดินแดนประวัติศาสตร์ “มาเนอปลอ”หลังรุกคืบบุกฐานใหญ่ทหารพม่าอยู่นับเดือน ทัพอากาศไทยใช้ F16 บินลาดตะเวนคุมเชิง

ควันพวยพุ่งพื้นที่หลังจากกองทัพพม่าทิ้งระเบิดเพื่อสกัดกั้นการบุกของทหารกะเหรี่ยง

ในช่วงเย็นวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ทหารของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(Karen National Union-KNU) ซึ่งประกอบด้วย กองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นแอลเอ (Karen National Liberation Army–KNLA) องค์กรป้องกันชาติกะเหรี่ยง (Karen National Defence Organisation-KNDO) ร่วมกับ กองกำลังพิทักษ์ประชาชน ( People’s Defence Force: PDF)  ได้ร่วมกับโจมตีและบุกยึดค่ายทหารพม่า(SAC -The State Administration Council -SAC หรือสภาบริหารแห่งรัฐพม่า)  913 บ้านมาเนอปลอ  รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามฝั่งไทยด้าน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยสามารถสังหารทหารพม่าและยึดอาวุธพร้อมกระสุนได้จำนวนมาก

ทั้งนี้กองทัพพม่าตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดจำนวน 4,500 ปอนด์ และทำให้ Kola Hay ผู้นำทางทหารของ KNLA ซึ่งพาทหารเข้าไปเคลียร์พื้นที่เสียชีวิต

ในช่วง 16.00 น.วันเดียวกันกองทัพไทยได้ใช้เครื่องบิน F 16 ลาดตะเวนตลอดแนวชายแดนบริเวณชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยได้มีการแจ้งเตือนชาวบ้านฝั่งไทยไม่ให้ตื่นตกใจ

(พื้นที่สู้รบและเสียงระเบิดก่อนที่ KNU จะยึดฐานมาเนอปลอได้)

รายงานข่าวแจ้งว่า การบุกยึดพื้นที่มาเนอปลดในครั้งนี้ KNUและกองกำลังพันธมิตรได้วางแผนล่วงหน้าไว้พอสมควร โดยได้ค่อยๆรุกคืบในพื้นที่มานานนับเดือนซึ่งสามารถผลักดันให้ทหารพม่ารวมตัวกันบริเวณที่ฐาน 913ได้นับร้อยคน ขณะเดียวกันได้ตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงและยุทธปัจจัยไว้หมดซึ่งกองทัพพม่าได้ใช้เครื่องบินลำเลียงเสบียงมาทิ้งตามฐาน และกองทัพพม่าพยายามใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าสกัดกั้นรอบฐานทหาร แต่ไม่สามารถทำลายเป้าหมายได้เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นป่าทึบ ทั้งนี้การสู้รบดังกล่าวทำให้ชาวบ้านฝั่งไทยชายแดน อ.สบเมย ได้ยินเสียงปืนใหญ่และระเบิดดังเป็นระยะๆติดต่อกันมาแล้วหลายวัน

ทั้งนี้ฐาน 913 ของทหารพม่าถือว่าเป็นฐานที่เหลืออีกไม่กี่แห่งระหว่างพื้นที่ดูแลของ KNU กองพล 5 และกองพล 7 ซึ่งอยู่ตรงข้ามชายแดนไทยตั้งแต่ อ.แม่สะเรียง อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน จนมาถึงพื้นที่ตรงกันข้าม อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด จ.ตาก โดย KNU มีเป้าหมายที่จะผลักดันฐานทหารพม่าให้ออกจากพื้นที่แนวชายแดนย่านนี้ให้หมด

ก่อนหน้านี้ชาวบ้านกะเหรี่ยงบางส่วนได้กลับเข้าไปทำไร่ทำสวนและจัดตั้งเป็นชุมชนเล็กๆตามพื้นที่ราบในบ้านมาเนอปลอ ซึ่งชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ออกไปจากศูนย์พักพิงบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ภายหลังจากอพยพหนีภัยการสู้รบตั้งแต่ค่ายมาเนอปลอถูกทหารพม่าตีแตกเมื่อปี 2537 และทหารพม่าขึ้นไปตั้งฐานทหารบนยอดดอยมายาวนาน

ควันพวยพุ่งพื้นที่หลังจากกองทัพพม่าทิ้งระเบิดเพื่อสกัดกั้นการบุกของทหารกะเหรี่ยง

การบุกพื้นที่ค่าย 913 บ้านมาเนอปลอได้ในครั้งนี้ สร้างความฮือฮาให้กับชาวกะเหรี่ยงพอสมควรเนื่องจากมาเนอปลอเคยเป็นฐานปฎิบัติการใหญ่ของ KNU ในยุคที่นายพลโบเมียะ เป็นผู้นำมายาวนานกว่า 30 ปี และถือว่าเป็นยุคหนึ่งที่กองทัพกะเหรี่ยงมีความเข้มแข็งเป็นอย่างยิ่ง

ในระหว่าง พ.ศ.2519-2537 มาเนอปลอมีความรุ่งโรจน์เป็นอย่างยิ่ง โดยได้มีการจัดระบบบริหารเสมือนรัฐเอกราชที่ชาวกะเหรี่ยงมีหน่วยงานราชการต่างๆตลอดจนการจัดเก็บภาษี การหารายได้จากสัมปทานป่าไม้ เหมืองแร่และอัญมณี จนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ทำให้ตลาดการค้าชายแดนระหว่างไทยและรัฐกะเหรี่ยงเป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากในช่วงนั้นประเทศไทยมีนโยบายรัฐกันชน ก่อนที่จะถูกตีแตกเพราะความแตกแยกระหว่างกะเหรี่ยงด้วยกันเอง และการแยกตัวของกะเหรี่ยงพุทธ

(อ่านรายละเอียด บันทึกการปฏิวัติกะเหรี่ยง ค.ศ.1947-2008 ตอนที่ (10) ศูนย์บัญชาการ “มาเนอปลอ” ซึ่งแปลโดยธงชัย ชคัตประสิทธิ์ใน https://transbordernews.in.th/home/?p=11328 )