
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 สำนักข่าว Khit Thit Media รายงานว่า กองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army – KIA) ยังคงเดินหน้าโจมตีกองทัพพม่าที่ประจำอยู่ในเมืองม่านหม่อ และเมืองม่านซี (ม่านเจ้)ในรัฐคะฉิ่นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ขณะนี้ ทหารคะฉิ่นสามารถผ่านเข้าไปยังตัวเมืองทั้ง 2แห่งได้แล้ว และยึดสถานที่สำคัญอย่างมหาวิทยาลัยเทคนิค สถานีตำรวจ
ทั้งนี้กองทัพคะฉิ่น KIA ได้เปิดฉากโจมตีกองทัพพม่ามาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา แม้จะถูกกดดันจากจีน แต่ทางกองทัพคะฉิ่น KIA ยังคงเดินหน้าโจมตีทหารพม่าในรัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือสุดของประเทศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้ทั้ง 2 เมืองถูกยึดโดยฝ่ายต่อต้าน กองทัพพม่าได้ใช้ปฏิบัติการทางอากาศและทางบกสกัดกั้น จึงทำให้แม้จะเข้าโจมตีทหารพม่าเป็นเวลากว่า 1 เดือน แต่กองทัพคะฉิ่นยังไม่สามารถยึดทั้ง 2 เมืองได้อย่างเบ็ดเสร็จ และการต่อสู้ในพื้นที่ยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด แม้ฐานทัพพม่าในบางพื้นที่ได้ยกธงขาวยอมแพ้ก็ตาม

ในวันเดียวกันรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG (National Unity Government) ได้เปิดเผยว่า ทางกองทัพพม่าเหลือพื้นที่ควบคุมเพียง 107 เมือง จากทั้งหมด 330 เมือง หรือคิดเพียง 32 % เท่านั้น จากพื้นที่ทั่วประเทศ โดยรัฐบาล NUG ระบุว่า กองทัพปกป้องประชาชน(People’s Defense Forces – PDF) และกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆ สามารถควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่จำนวน 144 เมือง หรือคิดเป็น 44 % ของประเทศ โดยจำนวน 48 เมืองฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่าสามารถยึดได้เบ็ดเสร็จ ขณะที่อีกมากกว่า 86 เมืองใกล้จะประสบความสำเร็จ โดยหลังยึดเมืองต่างๆมาได้ ฝ่ายต่อต้านได้จัดตั้งหน่วยงานบริหารพลเรือน ปิดล้อมตำแหน่งและจำกัดการเคลื่อนไหวของกองทัพพม่า อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอีก 79 เมือง ที่ฝ่ายต่อต้านและกองทัพพม่ายังคงมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่อง
ในรายงานของรัฐบาล NUG ยังระบุว่า ฝ่ายต่อต้านสามารถยึดเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆ เช่น ถนนและทางรถไฟมัณฑะเลย์-ฉ่วยโบ่-มิตจีนา ทางรถไฟและถนนเชื่อมมัณฑะเลย์-มัดตะยะ-ผากั้น บะหม่อ ถนนเชื่อมมัณฑะเลย์-ลาเสี้ยว-หมู่เจ้ ถนนปะเต่ง-มงยวา ถนนย่างกุ้ง-เมาะละแหม่ง-เย- ทวาย-มะริด-เกาะสอง ถนนพะโค-ตะโถ่ง-ผาอัน-เมียวดี ถนนมงยวา-กะเล-ทะมุ ถนนมินบู-อัน-ซิตต่วย ถนนพะเย-ปะด่อง-ตองโก้ก ตลอดจนเส้นทางสำคัญต่างๆ ริมแม่น้ำอิระวดี แม่น้ำชินวิน แม่น้ำซิตต่อง และแม่น้ำสาละวิน
นอกจากนี้ กองทัพพม่ายังสูญเสียการควบคุมเมืองการค้าสำคัญ 11 แห่งที่ติดชายแดนจีน อินเดีย ไทย และบังกลาเทศอีกด้วย กลุ่มต่อต้านสามารถยึดฐานทัพกองทัพพม่าได้ 741 แห่ง โดยส่วนใหญ่ถูกยึดโดยกองกำลังชาติพันธุ์ แต่มี 162 แห่ง ถูกยึดโดยกองทัพ PDF ในเขตสะกาย เขตมะโกย เขตมัณฑะเลย์ เขตพะโค และเขตตะนาวศรี รวมถึงกองบัญชาการระดับภูมิภาค 2 แห่ง คือ กองบัญชาการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ในเมืองล่าเสี้ยว ทางเหนือรัฐฉาน และกองบัญชาการภาคตะวันตกในรัฐยะไข่
มีรายงานว่า ในช่วง 4 ปีหลังการรัฐประหาร ทหารพม่าจำนวนมากได้หลบหนีออกจากกองทัพ โดยมีจำนวนทหารและตำรวจเกือบ 15,000 นายเข้าร่วมกับกระบวนการต่อต้านอารยะขัดขืน หรือ CDM และตามรายงานของ NUG ระบุว่ามีมากกว่า 480 นายที่เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้าน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ทำหน้าที่ในหน่วยงาน PDF ในตำแหน่งต่างๆ ตั้งแต่ทหารจนถึงผู้บังคับบัญชากองพัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ในสำนักงานต่างๆ เช่น กองบัญชาการใหญ่และสำนักงานการศึกษากลยุทธ์ของ NUG เป็นต้น และยังมีทหารและตำรวจหมื่นกว่าคนเสียชีวิต และหลายพันได้รับบาดเจ็บหลังการรัฐประหาร
ภาพจาก Khit Thit Media