Search

เหยื่อ 20 ชาติ 261 คนพ้นขุมนรก กะเหรี่ยง DKBA ส่งตัวให้ไทย ญาติสุดปลื้มขอบคุณประเทศไทย แต่อีกนับหมื่นยังถูกกักขัง ผบ.ราชมนู ชี้เป็นผลจากมาตรการ 3 ตัดบริษัทเล็กย้ายหนี-บริษัทใหญ่ลดระดับลง 50%

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ที่บริเวณท่าข้าม 28 บ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ทหารจากหน่วยเฉพาะกิน(ฉก.)ราชมนู กองกำลังนเรศวร ได้นำรถยีเอ็ม 10 คันพร้อมรถคุ้มกัน 8 คัน มารอรับเหยื่อชาวต่างชาติ 261 คนที่ถูกส่งตัวจากแหล่งธุรกิจสีดำของมาเฟียจีนภายใต้การควบคุมดูแลของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Army – DKBA) ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า เพื่อส่งตัวไปยังที่ว่าการอำเภอพบพระและเข้าสู่การคัดกรองและกลไกการส่งต่อระดับชาติ(National Referral Mechanism – NRM)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้นำทางทหารของ DKBA และกำลังพลได้เดินทางมาร่วมส่งเหยื่อทั้ง 261 คนขึ้นแพขนานยนตร์ข้ามมายังฝั่งไทย โดยมีชาวบ้านช่องแคบพากันออกมาดูและต่างวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นใจเหยื่อชาวต่างชาติ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการส่งเหยื่อมากถึง 261 คน อย่างไรก็ตามจากการสังเกตพบว่าเหยื่อบางส่วนมีสภาพที่อิดโรย มีเหยื่อชาวมาเลเซียที่ขาพิการ และมีเหยื่อชาวเคนยาที่ท้อง 4 เดือน

หญิงสาวชาวพม่ารายหนึ่งซึ่งมารอรับเพื่อนชาวบังคลาเทศที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ที่กำลังได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้ กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่เพื่อนๆทั้ง 6 คนได้รับการส่งตัวข้ามมาฝั่งไทย แม้มีอีก 1 คนที่ถูกย้ายไปอยู่ที่อื่น โดยตนได้ติดต่อทางไลน์กับเพื่อนตลอดเวลาโดยพวกเขาเล่าถึงความโหดร้ายของมาเฟียจีน

“พวกเขาถูกหลอกว่าให้มาทำงานในไทยได้เงินเดือน 1,000-5,000 ดอลล่าร์ เขานั่งเครื่องบินมาลงที่กรุงเทพฯแล้วมีคนไปรับมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งในแม่สอด และตอน 1 ทุ่มถูกพาข้ามแม่น้ำเมยไปยังฝั่งเมียวดี พอรู้ตัวว่าถูกหลอกและจะหนีก็สายไปเสียแล้วเพราะมีทหารอาวุธครบมือล้อมไว้หมด”หญิงสาว กล่าว และว่า ครอบครัวของทั้ง 6 คนต่างมีฐานะยากจน ครั้งนี้พวกเขารู้สึกซาบซึ้งใจคนไทยมากที่ช่วยพาลูกๆเขาออกมา

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ซึ่งเดินทางมารับเหยื่อด้วยกล่าวว่า ได้รับการประสานจากผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต 4 ประเทศคือเคนยา ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศและปากีสถาน ว่าจะเดินทางมาร่วมรับคนของตัวเอง ซึ่งการรับเหยื่อครั้งนี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ในมาตรการระยะสั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางยุทธศาสตร์ใน 3 ระดับ โดยระยะสั้นจำเป็นต้องรีบช่วยเหลือเหยื่อออกมาจากแหล่งสแกมเมอร์ให้ได้มากและรวดเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้พื้นที่อยู่ในการดูแลของกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์กำลังได้รับผลกระทบและสะดุดจากมาตรการ 3 ตัดของทางการไทย ซึ่งนอกจาก 261 คนนี้แล้ว ยังมีประชาชนอีกนับหมื่นคนที่กำลังรอความช่วยเหลือในฝั่งเมียวดี

สส.พรรคเป็นธรรมกล่าวว่า สำหรับมาตรการระยะกลางคือต้องปรามไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังแหล่งสแกมเมอร์ได้โดยต้องขอความร่วมมือจากประเทศต้นทางซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานต้องทำงานในเชิงรุกหารือกับสถานทูตประเทศต่างที่มีประชาชนถูกหลอก นอกจากนี้ในส่วนของวีซ่านักท่องเที่ยวก็ควรมีการกำหนดโซนในพื้นที่ชายแดนที่เปราะบาง และรัฐบาลก็ควรลดอัตตาตัวเองจากเดิมทีมักบอกว่าต้องหารือระหว่างรัฐต่อรัฐ แต่กรณีที่เกิดขึ้นจากการปล่อยเหยื่อครั้งนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าควรต้องคุยกับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ด้วย

นายกัณวีร์กล่าวว่า ส่วนมาตรการระยะยาวคือเป็นเรื่องของความไม่สงบในประเทศพม่า ควรผลักดันแผนสันติภาพให้เกิดขึ้นจริงและสร้างพื้นที่พูดคุยระหว่างรัฐบาลทหารพม่ากับกองกำลังต่างๆ เพราะตราบใดที่สถานการณ์ในพม่ายังเกิดการสู้รบก็จะเป็นช่องทางให้กลุ่มมาเฟียใช้พื้นที่ในพม่าประกอบธุรกิจสีดำได้

ขณะที่ พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร กล่าวว่าขณะนี้ ถือว่ามาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการได้ผล เพราะเป็นผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ แต่เข้าใจว่าบางส่วนอาจจะกระทบกับพี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย แต่ต้องขอให้เข้าใจรัฐบาล และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ในช่วงที่ทุกคนต้องเสียสละ เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้มันสำเร็จ

“ถ้าครั้งนี้เราทำไม่สำเร็จ ผมมองว่าไม่มีครั้งไหนที่จะทำสำเร็จแล้ว ครั้งนี้ต้องเดินหน้าเต็มร้อย เพื่อทำให้สำเร็จให้ได้ การปล่อยตัวเหยื่อในครั้งนี้ เป็นเพราะเขาไม่สามารถทำต่อได้ โดยหากเป็นบริษัทเล็ก ๆ จะย้ายฐานการผลิตไปเลย แต่ถ้าเป็นบริษัทใหญ่จะลดระดับเหลือ 50% โดยหากยืดระยะในมาตรการนี้ไปอีก คิดว่าพวกเขาจะอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว”พ.อ.ณัฐกร กล่าว

ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กล่าวถึงเรื่องการตรวจจับการลักลอบขนส่งสินค้าต้องห้ามไปยังฝั่งเมียนมา ว่า เป็นการส่งในรายย่อย เพราะฝั่งตรงข้ามต้องการน้ำมัน และก็มีราคาสูง ซึ่งก็จะมีการลักลอบ ซึ่งเราจับได้ทุกวัน ทั้งน้ำมันที่เป็นถังเล็ก ๆ และโซลาร์เซลล์ต่างๆ

พ.อ.ณัฐกร กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบชาวต่างชาติพักเกินเวลา ว่า เมื่อวานนี้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วก็พบ 22 รายที่อยู่เกินเวลา และก็เข้าสู่การดำเนินคดีต่อไป และในสถานการณ์แบบนี้ คาดว่ายังคงมีอยู่อีกหลายคน ส่วนการวางตามแนวชายแดนนั้น ทางผู้บัญชาการทหารบก ให้เพิ่มกำลังทหารแล้ว เพื่อการปฏิบัติการ และแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้เหยื่อ 261 คนประกอบด้วย 1.ฟิลิปปินส์ 16 ราย 2. เคนยา 23 ราย 3.แทนซาเนีย 1 ราย 4.บลาซิล 2 ราย 5. เอธิโอเปีย138 ราย 6.ปากีสถาน12 ราย 7.บังกลาเทศ 2 ราย 8.เนปาล 7 ราย 9.กัมพูชา1 ราย 10.ศรีลังกา 1 ราย 11.ยูกันดา 6 ราย 12.ไต้หวัน 7 ราย 13.ลาว 6 ราย 14.อินโดเนเซีย 8 ราย 15.บุรุนดี 2 ราย 16.ไนจีเรีย 1 ราย 17.กานา 1 ราย 18.อินเดีย 1 ราย 19.มาเลเซีย 15 ราย 20.จีน 10 ราย


On Key

Related Posts

รมว.กระทรวงน้ำของจีนเยือนไทย-ลงพื้นที่แม่น้ำโขง สทนช.ของบทำโครงการแก้ปัญหาอุทกภัยน้ำสาย-น้ำรวก นักอนุรักษ์แม่น้ำจี้รัฐบอกความจริง-ผลกระทบของคนท้ายน้ำจากเขื่อนจีน

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เพจของสำนักงานทรัพยากรนRead More →

ผู้เชี่ยวชาญเตือนฤดูฝนหน้าลุ่มน้ำกก-ลุ่มน้ำสายเสี่ยงสึนามิโคลนอีก เหตุทำเหมืองต้นน้ำ แนะเร่งทำจุดตรวจวัดชายแดน เผยยังไม่มีหน่วยราชการตรวจสอบระบบนิเวศ ชาวบ้านท่าตอนยังกังวลน้ำกกขุ่น

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ดร.ธนพล พิมาน หัวหน้าฝ่Read More →

ชุมชนในป่าเครียดหนักเหตุรัฐแก้ปัญหาเหมารวม-ห้ามเผาแบบไม่แยกแยะ ไฟป่า-ไฟเกษตร หวั่นวิกฤตอาหารบนดอย สส.ปชน.ชี้รัฐผูกขาดจัดการทรัพยากรนำสังคมสู่วิกฤต

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ห้องประชุมคณะสังคมศาRead More →

เผยเปิดหน้าดินนับพันไร่ทำเหมืองทองต้นน้ำกก สส.ปชน.ยื่น กมธ.ที่ดินสอบ หวั่นคนปลายน้ำตายผ่อนส่งจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาผลกระทบข้ามแดน ผวจ.เชียงรายสั่งตรวจคุณภาพน้ำ 24 มี.ค.

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 นายสมดุลย์ อุตเจริญ สส.Read More →