Search

ห้ามป้ายโฆษณาใช้ภาษาไทใหญ่-อังกฤษในเมืองแสนหวี กองกำลังโกก้างเริ่มมาตรการกลืนวัฒนธรรม หากใช้ภาษาพม่าก็ต้องมีภาษาจีนกำกับ-วิจารณ์แซดเป็นตัวแทนผลประโยชน์ให้แดนมังกร

สำนักข่าว Tai Freedom รายงานเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ว่า ขณะนี้กองกำลังโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army – MNDAA) ซึ่งคุมเมืองแสนหวีไว้ ได้ออกคำสั่งประชาชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ห้ามใช้ภาษาไทใหญ่และภาษาอังกฤษในป้ายโฆษณา โดยคำสั่งนี้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา

ชาวเมืองแสนหวีรายหนี่งเปิดเผยว่า เจ้าของร้านค้าทั้งเก่าและใหม่ จะต้องเปลี่ยนป้ายโฆษณาร้านให้เป็นภาษาจีนเท่านั้น หากต้องการใช้ภาษาพม่าก็จะต้องมีภาษาจีนกำกับไว้ด้วย ขณะที่ห้ามใช้ภาษาไทใหญ่และภาษาอังกฤษบนป้ายโฆษณาอย่างเด็ดขาด หากประชาชนฝ่าฝืนไม่ทำตามจะต้องถูกดำเนินคดีและลงโทษ

เมืองแสนหวี ตั้งอยู่ทางเหนือของรัฐฉาน และถูกกองกำลังโกก้าง ยึดจากกองทัพพม่าได้ภายใต้ปฏิบัติการ 1027 นอกจากประชาชนในเมืองแสนหวีจะถูกบังคับในเรื่องการใช้ภาษาแล้ว หลังจากถูกกองกำลังโกก้าง MNDAA ยึดได้ ปรากฏว่าชายหนุ่มในพื้นที่ยังถูกบังคับเกณฑ์ทหารไปอยู่ในกองกำลังโกก้าง และถูกส่งตัวไปยังแนวหน้าอีกด้วย

ด้านสำนักข่าว The Kongkang สื่อของชุมชนโกก้าง รายงานว่า ขณะนี้ ทางกำลังโกก้างได้ออกประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย เขตปกครองตนเองโกก้าง หรือที่กำลังจะเดินทางเข้ามายังเมืองเล้าก์ก่ายจะต้องทำหนังสือขออนุญาตอยู่ในพื้นที่

ชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยกับสื่อ สำนักช่าว SHAN ของไทใหญ่ว่า ประชาชนที่จะมาอาศัยหรือมาทำงานอยู่ในเมืองเล้าก์ก่ายจะต้องไปยื่นขอหนังสืออนุญาตดังกล่าวกับทางสถานีตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารของกองกำลังโกก้าง โดยจะต้องใช้เอกสารประกอบ เช่น บัตรประจำตัว ทะเบียนบ้าน เพื่อใช้ในการยื่น โดยที่ผ่านมา ทางการโกก้าง จะต่ออายุหนังสืออนุญาตดังกล่าวทุกๆ 6 เดือน

ชาวบ้านรายนี้กล่าวว่า แรงงานที่มาทำงานในเมืองเล้าก์ก่ายกำลังประสบปัญหาในเรื่องนี้ เพราะในประกาศของกองกำลังโกก้างระบุไว้ว่า เมืองเล้าก์ก่ายเป็นเมืองที่มีผู้มาทำธุรกิจค้าขายและมาเป็นแรงงานในพื้นที่ ในปี 2567 ในช่วงสงคราม เมืองเล้าก์ก่ายก็ได้รับความเสียหายอยู่ไม่น้อย และขณะนี้มีความพยายามที่จะฟื้นฟูเพื่อให้การปกครองบริหารในพื้นที่เป็นไปอย่างเรียบร้อย และลดปัญหาอาชญากรรมจึงได้ประกาศให้มีการขอขออนุญาตอยู่ในพื้นที่ โดยออกเป็นภาษาจีนเท่านั้น

ด้านสำนักข่าว Chindwin ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ทั้งกองกำลังโกก้างและกองกำลังสหรัฐว้า (The United Wa State Army- UWSA) อาจทำหน้าที่ตัวแทนผลประโยชน์ของทางการจีนหรือไม่ เพราะการบังคับใช้ภาษาจีนเท่านั้น ทั้งในป้ายโฆษณาและหนังสืออนุญาตอยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย แสดงให้เห็นถึงการละเลยอำนาจอธิปไตยของพม่าอย่างน่ากังวล

ทั้งนี้ชาวจีนโกก้างหรือชาวโกก้าง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศพม่าที่พูดภาษาจีนกลาง โดยอาศัยในพื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง ทางภาคเหนือของรัฐฉาน ติดชายแดนจีน

ขณะที่สถานการณ์ในเมืองล่าเสี้ยว เมืองสำคัญทางตอนเหนือของรัฐฉาน ภายหลังกำลังโกก้างยอมถอนกำลังตามแรงกดดันของทางการจีนตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568ที่ผ่านมา มีรายงานว่า กองทัพพม่าพร้อมกำลังพลราว 70 คันรถทหารได้ทยอยเดินทางเข้ามาประจำในพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังทหารพม่ากลับเข้ามาในเมืองล่าเสี้ยว เริ่มพบเห็นการจับกุมประชาชนตามอำเภอใจของกองทัพพม่า ซึ่งมีการแชร์ภาพวิดีโอตามสื่อโซเชียล

สำนักข่าว Tai TV Online รายงานคำสัมภาษณ์ของนักวิเคราะห์การเมือง ซึ่งมองว่า การกลับเข้ามาในเมืองล่าเสี้ยวของกองทัพพม่า กำลังเป็นภัยคุกคามและขัดขวางการปฏิวัติของกองกำลังปะหล่อง(Ta’ang National Liberation Army-TNLA) ที่คุมเมืองต่างๆรอบๆเมืองล่าเสี้ยวด้วย โดยขณะนี้กองทัพพม่ายังทำสงครามกับกองกำลังปะหล่อง TNLA ทางภาคเหนือของรัฐฉาน ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา กองทัพพม่ายังคงไปทิ้งระเบิดในเมืองหนองเขียว

On Key

Related Posts

เชื่อกองกำลังปะหล่องยอมคืนเมืองที่ยึดได้ทางเหนือรัฐฉาน หลังถูกจีนกดดันอย่างหนัก ขณะที่กระแสต่อต้านจีนเพิ่มขึ้น แฉรัฐบาลแดนมังกรทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเองในพม่า

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ในรายการ This week’s IRead More →

เผยทหารว้าขยายพื้นที่ทำเหมืองทองเพิ่มขึ้น-ไม่สนใจความเดือดร้อนของคนลุ่มน้ำกก-สาย แม้รู้ข่าวสารปนเปื้อนลงน้ำแล้ว ชาวพม่า-ไทใหญ่เดือดร้อนกันถ้วนหน้า นักวิชาการ มฟล.เสนอ 3 สถาบันการศึกษาร่วมจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำเชียงราย

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอาศRead More →

ประชุมแม่น้ำข้ามแดนนัดแรก จังหวัดเชียงรายดันสร้างฝายดักตะกอนแก้ปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย ตั้งคณะทำงาน 4 ชุด นักวิจัยติงคิดให้รอบคอบ หวั่นไม่มีที่ทิ้งสารพิษ-มีบทเรียนจากลำห้วยคลิตี้

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องธรรมลังกา ศาลากลRead More →